[BETTERCM] 🍵 ประโยชน์ของมัทฉะ (Matcha) - เครื่องดื่มมหัศจรรย์จากญี่ปุ่น มัทฉะ (Matcha) คือชาเขียวผงที่ทำจากใบชาที่ถูกบดละเอียด มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์แล้ว มัท

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

7 ก.พ. เวลา 09:08 • อาหาร

🍵 ประโยชน์ของมัทฉะ (Matcha) - เครื่องดื่มมหัศจรรย์จากญี่ปุ่น

มัทฉะ (Matcha) คือชาเขียวผงที่ทำจากใบชาที่ถูกบดละเอียด มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์แล้ว มัทฉะยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

🎯 คุณค่าทางโภชนาการ

มัทฉะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะสารกลุ่มคาเทชิน (Catechins) ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าชาเขียวทั่วไปถึง 137 เท่า นอกจากนี้ยังมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่สำคัญอื่นๆ เช่น:

- แคลเซียม

- วิตามินซี

- วิตามินเอ

- โพแทสเซียม

- ใยอาหาร

- คลอโรฟิลล์

💯 ประโยชน์ต่อสุขภาพ

1. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

สารต้านอนุมูลอิสระในมัทฉะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ

2. เพิ่มพลังงานและการเผาผลาญ

คาเฟอีนในมัทฉะทำงานร่วมกับกรดอะมิโน L-theanine ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิ โดยไม่ทำให้ใจสั่นหรือกระวนกระวายเหมือนกาแฟ

3. ดูแลผิวพรรณ

สารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย และปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด

4. ควบคุมน้ำหนัก

มัทฉะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน และยังมีแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

5. บำรุงสมอง

L-theanine ในมัทฉะช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และความจำ อีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

💚 การเลือกมัทฉะคุณภาพดี

- สีเขียวสดใส ไม่หม่นหรือเหลือง

- กลิ่นหอมสดชื่น ไม่มีกลิ่นอับ

- เนื้อผงละเอียด สัมผัสนุ่มมือ

- ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้

🫖 วิธีชงมัทฉะแบบดั้งเดิม

1. ร่อนผงมัทฉะ 1-2 ช้อนชาผ่านตะแกรงละเอียด

2. เติมน้ำร้อน (อุณหภูมิประมาณ 80°C) ประมาณ 60-80 มล.

3. ใช้ไม้ชงมัทฉะ (chasen) คนเป็นรูปตัว W หรือ M จนเกิดฟองละเอียด

4. ดื่มทันทีขณะร้อน

⭕ ข้อควรระวัง

แม้มัทฉะจะมีประโยชน์มากมาย แต่ควรระวังในการบริโภค ดังนี้:

- ไม่ควรดื่มมากเกินไปเนื่องจากมีคาเฟอีน

- ผู้ที่แพ้คาเฟอีนควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม

- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรจำกัดปริมาณการดื่ม

- ควรระวังการดื่มก่อนนอน เพราะอาจทำให้นอนไม่หลับ

🔰 สรุป

มัทฉะเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ ทั้งการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ และเพิ่มพลังงาน การดื่มมัทฉะอย่างพอเหมาะเป็นประจำจะช่วยให้สุขภาพดีและมีชีวิตที่สมดุลมากขึ้น

💢ข้อมูล Claude Ai

ภาพจาก https://www.advantour.com/japan/kyoto/tea-ceremony.htm

☕ฉันดื่มชาทุกวันมีข้อดีอย่างไร

การดื่มชาทุกวันมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ขึ้นอยู่กับประเภทของชาที่คุณดื่มด้วย ต่อไปนี้เป็นข้อดีบางประการของการดื่มชาเป็นประจำ:

1. **อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ**

- ชา (โดยเฉพาะชาเขียว) มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น **โพลีฟีนอล** และ **คาเทชิน** ซึ่งช่วยลดความเสียหายของเซลล์จากอนุมูลอิสระ และอาจลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและมะเร็ง

2. **ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ**

- การดื่มชาเป็นประจำอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลไม่ดี) และปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

3. **ช่วยในการลดน้ำหนัก**

- ชาบางชนิด เช่น ชาเขียว ช่วยเพิ่มการเผาผลาญและเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน ทำให้อาจช่วยในการลดน้ำหนักได้

4. **ปรับปรุงการทำงานของสมอง**

- ชามีคาเฟอีนและกรดอะมิโน **L-theanine** ซึ่งช่วยเพิ่มสมาธิ ความตื่นตัว และการทำงานของสมองโดยไม่ทำให้รู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนกาแฟ

5. **ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน**

- การดื่มชาอาจช่วยปรับปรุงความไวของอินซูลินและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2

6. **บำรุงระบบย่อยอาหาร**

- ชาบางชนิด เช่น ชาคาโมมายล์หรือชาขิง ช่วยลดอาการท้องอืดและปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหาร

7. **เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน**

- สารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารในชาช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น

8. **ช่วยให้ผ่อนคลาย**

- ชาบางชนิด เช่น ชาคาโมมายล์หรือชาเลมอนบาล์ม มีสรรพคุณช่วยลดความเครียดและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

9. **บำรุงสุขภาพช่องปาก**

- ชามีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก ลดความเสี่ยงของฟันผุและกลิ่นปาก

10. **ลดการอักเสบ**

- สารต้านอนุมูลอิสระในชาช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคข้ออักเสบและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ

ข้อควรระวัง

- การดื่มชามากเกินไปอาจทำให้ได้รับคาเฟอีนมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หรือหัวใจเต้นเร็ว

- ชาบางชนิดอาจมีสารที่รบกวนการดูดซึมธาตุเหล็ก ดังนั้นควรดื่มชาห่างจากมื้ออาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

สรุปแล้ว การดื่มชาทุกวันมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ควรเลือกชาที่เหมาะสมและดื่มในปริมาณที่พอดี เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดโดยไม่มีผลข้างเคียง!

⭕CATECHIN คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

แคทีชินคือสารประกอบฟีนอลชนิดหนึ่งที่พบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาเขียว โกโก้ และผลไม้บางชนิด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพในการต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง และส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

ประโยชน์ของแคทีชิน

* สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ: แคทีชินมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจและมะเร็ง

* ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด: แคทีชินช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

* ต้านการอักเสบ: แคทีชินมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น โรคข้ออักเสบ

* ต้านมะเร็ง: การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าแคทีชินอาจมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง โดยช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

* ส่งเสริมสุขภาพสมอง: แคทีชินอาจช่วยปกป้องเซลล์ประสาทในสมองจากการถูกทำลาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน

* ช่วยลดน้ำหนัก: การศึกษาบางชิ้นพบว่าแคทีชินอาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและช่วยลดน้ำหนักได้

แหล่งอาหารที่พบแคทีชิน

* ชาเขียว

* ชาดำ

* ชาขาว

* โกโก้และดาร์กช็อกโกแลต

* ผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิล องุ่น และเบอร์รี่

* ไวน์แดง

ข้อควรระวัง

* แม้ว่าแคทีชินจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย และคลื่นไส้

* ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคแคทีชินในปริมาณมาก

คำแนะนำ: การบริโภคอาหารที่มีแคทีชินในปริมาณที่พอเหมาะเป็นส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคอาหารให้มีความหลากหลายและสมดุล เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน

⭕ L-Theanine คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? พบมากในอาหารประเภทไหน?

L-Theanine คืออะไร?

L-Theanine คือกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่พบได้ตามธรรมชาติในชาเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาเขียวคุณภาพสูงที่ปลูกในที่ร่มเงา กรดอะมิโนชนิดนี้มีความโดดเด่นเนื่องจากมีคุณสมบัติในการส่งเสริมความผ่อนคลาย ลดความเครียด และอาจมีประโยชน์อื่นๆ ต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของ L-Theanine

* ส่งเสริมความผ่อนคลายและลดความเครียด: L-Theanine มีผลต่อการทำงานของสมอง โดยช่วยเพิ่มคลื่นอัลฟา (Alpha waves) ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่เกี่ยวข้องกับความผ่อนคลาย แต่ไม่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด

* เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการทำงาน: การศึกษาบางชิ้นพบว่า L-Theanine อาจช่วยเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับคาเฟอีน

* ส่งเสริมการนอนหลับ: L-Theanine อาจช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น โดยช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและลดความเครียดก่อนนอน

* อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด: บางการศึกษาชี้ให้เห็นว่า L-Theanine อาจช่วยลดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

* อาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง: บางการศึกษาในหลอดทดลองพบว่า L-Theanine อาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันผลลัพธ์นี้

พบมากในอาหารประเภทไหน?

แหล่งอาหารหลักของ L-Theanine คือ:

* ชาเขียว: ชาเขียวเป็นแหล่งที่พบ L-Theanine มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาเขียวคุณภาพสูงที่ปลูกในที่ร่มเงา เช่น เกียวคุโระ (Gyokuro) และมัทฉะ (Matcha)

* ชาดำและชาอู่หลง: ชาเหล่านี้ก็มี L-Theanine แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าชาเขียว

* เห็ดบางชนิด: เห็ดบางชนิด เช่น เห็ด Boletus edulis ก็มี L-Theanine แต่ในปริมาณที่น้อยมาก

ข้อควรระวัง

* โดยทั่วไป L-Theanine ถือว่าปลอดภัยสำหรับการบริโภค แต่บางคนอาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวดศีรษะ ง่วงซึม หรือปวดท้อง

* ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค L-Theanine ในรูปแบบอาหารเสริม

คำแนะนำ: การบริโภคชาเขียวเป็นวิธีที่ง่ายในการได้รับ L-Theanine อย่างไรก็ตาม ปริมาณ L-Theanine ในชาเขียวอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดและวิธีการชง หากต้องการได้รับ L-Theanine ในปริมาณที่แน่นอน สามารถเลือกบริโภคอาหารเสริม L-Theanine ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

⭕ Catechin กับ EGCG เหมือนหรือต่างกันอย่างไร? พบในอาหารประเภทไหน? มีคุณและโทษอย่างไร?

Catechin และ EGCG (Epigallocatechin gallate) เป็นสารประกอบในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในพืชหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาเขียว

ความเหมือนและแตกต่าง

* Catechin เป็นชื่อกลุ่มของสารประกอบฟลาโวนอยด์หลายชนิด รวมถึง EGCG ซึ่งเป็นสารประกอบที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มนี้

* EGCG เป็นสารประกอบ Catechin ชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด และได้รับการศึกษามากที่สุดเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพ

พบในอาหารประเภทไหน?

* ชาเขียว: เป็นแหล่งที่พบ Catechin และ EGCG มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาเขียวคุณภาพสูง

* ชาขาว: มี Catechin และ EGCG ในปริมาณที่น้อยกว่าชาเขียว

* ชาดำและชาอู่หลง: มี Catechin แต่มี EGCG ในปริมาณน้อยกว่าชาเขียวและชาขาว

* โกโก้และดาร์กช็อกโกแลต: มี Catechin แต่มี EGCG ในปริมาณน้อย

* ผลไม้บางชนิด: เช่น แอปเปิล องุ่น และเบอร์รี่ มี Catechin แต่มี EGCG ในปริมาณน้อย

คุณประโยชน์

* สารต้านอนุมูลอิสระ: Catechin และ EGCG มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ

* ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด: Catechin และ EGCG ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

* ต้านการอักเสบ: Catechin และ EGCG มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ

* ต้านมะเร็ง: การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า Catechin และ EGCG อาจมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง โดยช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

* ส่งเสริมสุขภาพสมอง: Catechin และ EGCG อาจช่วยปกป้องเซลล์ประสาทในสมองจากการถูกทำลาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน

* ช่วยลดน้ำหนัก: การศึกษาบางชิ้นพบว่า Catechin และ EGCG อาจช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและช่วยลดน้ำหนักได้

ข้อควรระวัง

* แม้ว่า Catechin และ EGCG จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย และคลื่นไส้

* ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค Catechin และ EGCG ในปริมาณมาก

คำแนะนำ

* การบริโภคอาหารที่มี Catechin และ EGCG ในปริมาณที่พอเหมาะเป็นส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคอาหารให้มีความหลากหลายและสมดุล เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน

* การดื่มชาเขียวเป็นวิธีที่ง่ายในการได้รับ Catechin และ EGCG แต่ควรเลือกชาเขียวคุณภาพสูงและไม่เติมน้ำตาล

* หากต้องการได้รับ Catechin และ EGCG ในปริมาณที่แน่นอน สามารถเลือกบริโภคอาหารเสริมได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

อ่านเพิ่มเติม

🌀อาหารเสริม: กินสารสกัดชาเขียวเพื่อสุขภาพ แต่สิ่งที่ได้คือต้อง 'ปลูกถ่ายตับ'

🍵ขณะที่ผู้คนหลายล้านคนกินอาหารเสริมชาเขียวได้อย่างปลอดภัย แต่มีรายงานเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ตับที่เกี่ยวข้องกับอาหารเสริมชาเขียวเกิดขึ้นอย่างน้อย 80 กรณีทั่วโลก ตั้งแต่อ่อนเพลียและดีซ่าน ไปจนถึงกรณีที่จำเป็นต้องปลูกถ่ายตับ

‼️สารคาเทชินจากเครื่องดื่มชาเขียว "โดยทั่วไปมีความปลอดภัย" แต่เมื่อกินชาเขียวเป็นอาหารเสริม ซึ่งร่างกายได้รับสารคาเทชินที่ปริมาณสูงกว่า 800 มิลลิกรัมต่อวัน "อาจทำให้เกิดข้อกังวลทางสุขภาพได้" จากข้อมูลเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน EFSA ไม่สามารถระบุได้ว่า ปริมาณที่ปลอดภัยอยู่ที่ระดับใด และเรียกร้องให้มีการวิจัยเพิ่มมากขึ้น

📕https://www.bbc.com/thai/international-45981094

💢ข้อมูล Claude Ai

DEEPSEEK AI

GEMINI AI

Bettercm 250207

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

🍵 ประโยชน์ของมัทฉะ (Matcha) - เครื่องดื่มมหัศจรรย์จากญี่ปุ่น

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน