Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บอกให้รวย
•
ติดตาม
7 ก.พ. เวลา 09:13 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ
Lockheed T-33 Shooting Star เป็นเครื่องบินฝึกไอพ่นที่พัฒนาโดยบริษัท Lockheed ของสหรัฐอเมริกา
ได้รับการออกแบบมาจากเครื่องบินรบ P-80 Shooting Star ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ไอพ่นลำแรกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ใช้ในสงครามเกาหลี
ข้อมูลทั่วไปของ T-33
ประเภท: เครื่องบินฝึกไอพ่น
ผู้ผลิต: Lockheed (สหรัฐอเมริกา)
เครื่องยนต์: Allison J33-A-35 turbojet (แรงขับประมาณ 5,400 ปอนด์)
ความเร็วสูงสุด: ประมาณ 970 กม./ชม.
พิสัยบิน: ประมาณ 2,100 กม.
เพดานบิน: ประมาณ 14,600 เมตร
ลูกเรือ: 2 นาย (นักบินและครูฝึก)
อาวุธ (บางรุ่นติดอาวุธ): ปืนกลขนาด 12.7 มม. และสามารถติดจรวดหรือระเบิดเบา
ประวัติการใช้งาน
เริ่มบินครั้งแรก: ปี 1948
ใช้งานหลัก: ฝึกนักบินไอพ่นรุ่นแรกของสหรัฐฯ และหลายประเทศทั่วโลก
ประเทศที่ใช้งาน: มากกว่า 30 ประเทศ รวมถึง ไทย ซึ่งเคยใช้ T-33 ในกองทัพอากาศ
เลิกใช้งาน: ส่วนใหญ่ถูกปลดระวางตั้งแต่ช่วงปี 1980-2000
T-33 ในกองทัพอากาศไทย
กองทัพอากาศไทยเคยใช้ T-33A เป็นเครื่องบินฝึกนักบินไอพ่น โดยได้รับมอบจากสหรัฐฯ ผ่านโครงการช่วยเหลือทางทหาร (MAP) และใช้งานเป็นเวลาหลายสิบปีก่อนจะปลดประจำการ
แม้ว่า T-33 จะเลิกใช้ในทางทหารแล้ว แต่บางลำยังถูกเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์ หรือใช้งานโดยนักบินพลเรือนที่สะสมเครื่องบินเก่า
สนใจข้อมูลด้านใดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ T-33 ไหม?
ณ ปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2025) เครื่องบิน Lockheed T-33 Shooting Star ส่วนใหญ่ได้ถูกปลดประจำการจากกองทัพอากาศทั่วโลกแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีบางประเทศที่ยังคงใช้งาน T-33 อยู่ในบทบาทที่จำกัด เช่น การฝึกบินหรือภารกิจเฉพาะทาง นอกจากนี้ เครื่องบิน T-33 บางลำยังคงถูกใช้งานโดยนักบินพลเรือนหรือองค์กรที่สะสมเครื่องบินเก่าเพื่อการแสดงทางอากาศหรือการบินเพื่อการศึกษา
ในประเทศไทย กองทัพอากาศไทยได้รับเครื่องบิน T-33 รุ่นแรกในปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955) และใช้งานจนกระทั่งปลดประจำการในปี พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994)
ปัจจุบัน เครื่องบิน T-33 ที่เหลืออยู่มักถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์หรือใช้ในการแสดงทางอากาศโดยกลุ่มนักบินที่สนใจเครื่องบินรุ่นเก่า
เครื่องบิน Lockheed T-33 Shooting Star เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเครื่องบินฝึกไอพ่นยุคต่อมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ เครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นต้น (Advanced Jet Trainer) และเครื่องบินไอพ่นขับไล่เบารุ่นใหม่ ๆ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างสำคัญของเครื่องบินที่ได้รับอิทธิพลหรือพัฒนาต่อจาก T-33
---
1. Northrop T-38 Talon (สหรัฐอเมริกา)
พัฒนาต่อจากแนวคิดของ T-33 โดยใช้เครื่องยนต์ไอพ่นแบบคู่
เป็น เครื่องบินฝึกไอพ่นความเร็วเหนือเสียง รุ่นแรกของโลก
ยังคงถูกใช้งานโดยกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในปัจจุบัน
2. Boeing T-7A Red Hawk (สหรัฐอเมริกา)
พัฒนาแทน T-38 และใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย
เป็นเครื่องบินฝึกไอพ่นสำหรับนักบินของ F-22 และ F-35
คาดว่าจะเข้าประจำการอย่างเต็มรูปแบบในกองทัพอากาศสหรัฐฯ
3. BAE Systems Hawk (สหราชอาณาจักร)
พัฒนาโดยอังกฤษ เป็นหนึ่งในเครื่องบินฝึกที่ได้รับความนิยมสูง
ถูกใช้งานในกองทัพอากาศหลายประเทศ รวมถึง กองทัพอากาศไทย (Hawk 127)
4. KAI T-50 Golden Eagle (เกาหลีใต้)
พัฒนาโดยเกาหลีใต้ร่วมกับ Lockheed Martin
ออกแบบให้เป็นเครื่องบินฝึกไอพ่นที่สามารถติดอาวุธได้
บางรุ่นพัฒนาเป็นเครื่องบินขับไล่เบา เช่น FA-50 ที่ฟิลิปปินส์และไทยใช้งาน
5. Yakovlev Yak-130 (รัสเซีย)
พัฒนาเพื่อฝึกนักบินขับไล่ไอพ่นของรัสเซีย
สามารถเลียนแบบพฤติกรรมการบินของ Su-30, Su-35 และ MiG-29
---
สรุป
T-33 วางรากฐานให้เครื่องบินฝึกไอพ่นยุคใหม่ โดยเฉพาะเครื่องบิน T-38 Talon ที่เป็นตัวเชื่อมสำคัญ ก่อนที่เทคโนโลยีจะก้าวไปสู่ Boeing T-7A, KAI T-50 และ Yak-130 ซึ่งรองรับการฝึกนักบินขับไล่ในปัจจุบัน
คุณสนใจรายละเอียดของเครื่องบินรุ่นใดเป็นพิเศษไหม?
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จากพี่ไพบูลย์ และ ข้อมูลประกอบจาก Chat GPT มากๆ ครับ
ความรู้รอบตัว
เรื่องเล่า
การบิน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย