10 ก.พ. เวลา 03:00 • สิ่งแวดล้อม

ปั้นอนาคตการผลิตของไทยอย่างยั่งยืนด้วย ESG นวัตกรรม และ AI จาก Fujitsu

ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความต้องการด้านความยั่งยืนที่เพิ่มขึ้น Fujitsu พลิกโฉมอนาคตการผลิตในประเทศไทย ซึ่งภาคอุตสาหกรรมมีส่วนช่วยสร้างมากกว่า 30% ของ GDP และขับเคลื่อน 60% ของการส่งออกทั้งหมด ด้วยเป้าหมายของประเทศในการผลักดัน Thailand 4.0 และมุ่งสู่ ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2065
ผู้ผลิตไทยเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความไม่มีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ระบบข้อมูลที่แยกส่วน และการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน Fujitsu จึงนำเสนอโซลูชันดิจิทัลขั้นสูง เช่น IoT, AI และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตปรับปรุงการดำเนินงาน ลดการปล่อยคาร์บอน และก้าวสู่อนาคตอุตสาหกรรม 4.0 อย่างยั่งยืน
ก้าวสู่ประสิทธิภาพและความยั่งยืนด้วยดิจิทัล
Fujitsu ตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้ผลิตต้องปรับปรุงระบบการดำเนินงานให้ทันสมัย เพื่อรองรับความคาดหวังของลูกค้า ต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ด้วยการนำดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการผลิต ผู้ผลิตสามารถมองเห็นกระบวนการทำงานแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ และก้าวไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนได้เร็วขึ้น
นวัตกรรมสำคัญจาก Fujitsu ประกอบด้วย:
  • การปรับกระบวนการผลิตสู่ระบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน: ลดปัญหาข้อมูลแยกส่วน ปรับปรุงกระบวนการ และแสดงผลข้อมูลตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าแบบเรียลไทม์ สร้างข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยตัดสินใจได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดของเสีย
  • ห่วงโซ่อุปทานที่คล่องตัวและยั่งยืน: ใช้ข้อมูลเรียลไทม์และการคาดการณ์ความต้องการด้วย AI เพื่อปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลังและการผลิต พร้อมการติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
  • เปลี่ยนเป้าหมาย ESG สู่ความสำเร็จทางธุรกิจ: พัฒนาเครื่องมือในการติดตาม ESG และเพิ่มกลยุทธ์เชิงพยากรณ์ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและปรับปรุงการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส
สำหรับผู้ผลิตในประเทศไทยที่เผชิญปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เช่น ต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ระบบที่แยกส่วนในหลายไซต์การผลิต และความต้องการการตรวจสอบย้อนกลับในซัพพลายเชน โซลูชันดิจิทัลของ Fujitsu สามารถช่วยธุรกิจเพิ่มผลผลิต ป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น และเสริมสร้างเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จคือ การนำโซลูชัน RPA (Robotic Process Automation) มาใช้กับ UBE Group ในประเทศไทย สามารถช่วยลดกระบวนการที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และลดความไม่มีประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Fujitsu ในการสนับสนุนผู้ผลิตไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน
มุ่งสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Fujitsu สนับสนุนผู้ผลิตให้บรรลุเป้าหมายด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) ด้วยการช่วยจัดการข้อมูลให้เป็นระบบ เพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนการผลิตและการใช้ทรัพยากรและลดการปล่อยก๊าซ CO2 ด้วยโซลูชันเหล่านี้ ธุรกิจสามารถเปลี่ยนเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้เป็นกลยุทธ์ที่นำไปใช้ได้จริง และตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ในขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตกำลังเปลี่ยนแปลง Fujitsu ยืนหยัดเป็นผู้นำ พร้อมสนับสนุนธุรกิจด้วยเครื่องมือที่ช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืน คล่องตัว และมีความสามารถในการแข่งขัน
อ่านข่าวและบทความอื่น ๆ ได้ที่ https://www.mreport.co.th/?utm_source=bd
ติดตาม M Report ได้ที่
LINE Official : https://bit.ly/357ySYm
โฆษณา