7 ก.พ. เวลา 14:59 • ไลฟ์สไตล์

Recap 2024

Jan
เริ่มต้นปี เราอยู่ที่จังหวัดตรัง เป็นทริปต่อเนื่องจากปลายปี 2023 ที่เราเดินทางมาหาครอบครัวของแฟน ถึงจะเคยมาจังหวัดตรังหลายครั้งแล้ว แต่ก็ชอบทุกครั้งที่มา ด้วยบรรยากาศสบายๆ ไม่เร่งรีบ ทะเลสวยมาก อาหารก็อร่อย เป็นการเริ่มต้นปีที่รู้สึกดีนะ
ช่วงกลางเดือน เราก็ได้ไปเที่ยวต่อเนื่องที่เขาใหญ่กับที่ทำงานของแฟน ซึ่งเราคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เพราะเคยทำงานที่นั่นเช่นกัน ทุกคนดูไม่เปลี่ยนไปเลย สนุกสนาน เฮฮา อยู่ด้วยแล้วอยากกลับไปทำงานด้วย เพราะตอนนั้นเราไม่สนิทกับใครเลยในที่ทำงานปัจจุบัน แอบเศร้านิดๆนะ
ช่วงสิ้นเดือนเรารู้ผลการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นว่าผ่าน ก็ดีใจมาก ถึงจะมั่นใจว่าผ่านตั้งแต่แรกก็เถอะ เป็นเดือนแรกของปีที่ดีอยู่นะ
Feb
เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน เราเดินทางไปไหว้ตรุษจีนที่บ้านฝั่งพ่อ เป็นปีแรกที่ไม่มีอาม่าอยู่แล้ว เพราะเสียไปช่วงปีที่แล้ว พอมาถึงบ้านก็คิดถึงอาม่าอยู่นะ "พวกมึงกินข้าวรึยัง" "ไม่มาหากูเลยนะ" คำถามเดิมๆที่ฟังจนจำได้ทุกปี ไม่มีอีกแล้ว และที่ทำให้แย่ไปกว่าเดิมคือญาติฝั่งพ่อบางคนก็ไม่ได้พูดดีกับเราเหมือนเดิม เหมือนตอนที่มีอาม่าอยู่ เรารู้สึกแย่นะ ละก็ตั้งใจว่าจะไม่ไปอีกแล้ว ปีนี้ 2025 เราก็ตัดสินใจไม่ไปจริงๆ เพราะไม่อยากรู้สึกแย่ ขอโทษอาม่าที่ไม่ได้ไปไหว้ หวังว่าคงเข้าใจ
ต่อมาเราได้ไปเที่ยวเขาวงพระจันทร์กับที่บ้าน เป็นทริปแห่งความทรงจำที่ดีอีกทริปเลย เพราะเหนื่อยมาก แต่ก็สนุกมากเช่นกัน ไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันกับที่บ้าน ญาติฝั่งแม่ และลูกพี่ลูกน้องแบบนี้ อยากให้มีทริปแบบนี้อีก
Mar
เป็นเดือนที่มีความตื่นเต้นอยู่นิดนึง เพราะใกล้ถึงวันหยุดยาวเดือน Apr ซึ่งเรามีทริปไป เกาหลี+มาเก๊า กับแฟน (เป็นทริป Surprise จากแฟน ตอนแรกหลอกเรามาตลอดว่าจะกลับบ้านที่ตรัง)
ช่วงสิ้นเดือนได้ไปไหว้อากงที่วัด กับบ้านฝั่งแม่ ทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตา บรรยากาศอบอุ่น ตอนไหว้เสร็จ กู๋พาทุกคนไปเลี้ยงข้าวด้วย เป็นความทรงจำที่ดีของเรากับที่บ้านฝั่งแม่เลย ตั้งแต่อากงเสียทำให้ทุกคนมีโอกาสมารวมตัวกัน กินข้าวด้วยกัน หวังว่าอากงจะดีใจ คิดถึงมากนะ
Apr
แฟนเรา Surprise ที่สนามบินว่าไม่ได้ไปตรัง แต่ไปเกาหลี!!! เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เอาจริงๆเราก็ตกใจ แต่เหมือนมี Sense บางอย่างตั้งแต่แรกว่าจะโดน Surprise อยู่แล้ว เพราะแฟนเรามีท่าทีแปลกๆก่อนหน้านี้หลายอย่าง 5555 แต่ก็ Surprise อยู่ดี ดีใจด้วยที่ได้ไป ตื่นเต้นเลย อยากไปเที่ยว ตปท. มาก
เกาหลีไม่ทำให้ผิดหวัง ถึงจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่อลังการมากมายเหมือนประเทศอื่น แต่เป็นประเทศที่ Vibe ดีมากๆ บ้านเมือง ผู้คน อาหาร ดีไปหมดเลย และสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นมากที่สุดคือ การได้เห็นดอกพ็อดกด หรือซากุระเกาหลี ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชอบอะไรแบบนี้ แต่มันตื่นเต้นมาก อยากเห็นมันบานแบบสะพรั่งเยอะๆ เราไปช่วงที่มันเริ่มร่วงแต่ก็ยังมีเยอะอยู่ ยังสวยอยู่ จังหวะที่ลมพัดละดอกมันร่วงลงมาคือฟินมาก เหมือนในหนังเลย เข้าใจแล้วว่าฤดูใบไม้ผลิมันดียังไง อยากไปเห็นฅากุระญี่ปุ่นบ้างเลย 5555
มาเก๊าก็ดีนะ เพราะไปต่อเครื่อง เลยได้เที่ยวประมาณ 2 วัน เป็นเมืองที่เล็กแบบไม่คาดฝัน เพราะช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถเที่ยวสถานที่สำคัญได้หมดเลย เป็นทริปที่รู้สึกคุ้มค่ามาก
May
กลับสู่โลกแห่งการทำงานแบบเต็มตัว เดือนนี้ไม่มี Event ใดๆทั้งสิ้น 5555
Jun
ต้นเดือนเราได้ไปงานแต่งของพี่ข้างบ้าน ซึ่งจริงๆแล้วเหมือนญาติกัน เพราะครอบครัวฝั่งแม่ กับเพื่อนบ้าน รู้จักกันมาหลายสิบปีแล้ว คอยช่วยเหลืออะไรกันต่างๆนาๆ รู้สึกดีใจแทนกับพวกเขา เพราะเป็นวันที่เห็นพวกเขาดูมีความสุขมากๆ ละก็เหมือนเป็นวันรวมญาติอีกวันนึงเลย
ช่วงกลางเดือนเราได้รับการติดต่อจาก hr บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ว่าสนใจไปสัมภาษณ์งานไหม ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก เพราะเราเคยไปสัมภาษณ์งานที่นี่ ตำแหน่งเดียวกันนี้เมื่อปีก่อนในช่วงเวลาใกล้ๆกันมาแล้ว และก็ผิดหวังไปในตอนนั้น ซึ่งเมื่อเราได้รับโอกาสที่สองก็ Said yes แน่นอน!
July
เข้าสู่เดือนวันเกิดของเรา ทำให้เรารู้สึกดีเสมอ เหมือนเราตื่นเต้นในการเข้าสู่วันพิเศษของตัวเอง แต่ปีนี้มันวุ่นวายสุดๆไปเลย
เราได้รับการติดต่อว่า ผ่านสัมภาษณ์งาน!!! แต่สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ สอบ Toeic ให้ได้คะแนนตามที่กำหนด และตรวจร่างกาย เรารู้ว่าผ่านวันศุกร์ เราจองไปสอบวันเสาร์ทันที เพราะอยากรีบทำให้เสร็จสิ้น หรือถ้าพลาดก็มีโอกาสแก้ตัว แต่วันอาทิตย์ดันตรงกับวันสอบภาษาญี่ปุ่นด้วย กลายเป็นว่าเราสอลวันละภาษา 55555 แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีนะ ได้คะแนน Toeic เกินกว่าที่คาด ส่วนภาษาญี่ปุ่นไม่ผ่าน แต่คะแนนก็ไม่ได้เลวร้าย มีกำลังใจที่จะสอบใหม่อีกครั้งอยู่
สถานีต่อไปตรวจร่างกาย ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีอะไร แต่มันตรวจละเอียดมาก ไม่เคยเจอขนาดนี้ โดยเฉพาะการเป่าปอด ซึ่งทำหลายรอบมากกว่าพยาบาลจะโอเค ทำให้เราต้องลุ้นผลไปอีกอาทิตย์นึง แอบกลัว แต่สุดท้ายก็ผ่าน
สิ้นเดือนเราขอลาออกจากที่ทำงานปัจจุบัน ก็บอกเหตุผลไปตามตรง ทุกคนก็ดูตกใจนะ เพราะเราไม่แสดงสัญญาณอะไรมาก่อนเลย
Aug
ต้นเดือน พี่ที่ทำงานใหม่เรานัดไปกินข้าว ทั้งๆที่ยังไม่เริ่มงาน ได้เจอทุกคนครั้งแรก ตื่นเต้นมาก เรารู้สึกโอเคกับทุกคนเลย อยากเริ่มงานไวๆ
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เราบอกลาทุกคนที่ทำงานเก่า ถือว่าจบกันด้วยดี ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับใคร ถึงเราจะไม่ค่อยสนิทกันมาก แต่ก็แอบใจหายเล็กๆอยู่มาตั้ง 2 ปี ทุกวันนี้พี่บางคนยังทักมาคุยด้วยอยู่เลย มันก็แปลกดี
16 Aug วันแรกของการเริ่มงานใหม่ ตรงกับกิจกรรม CSR ได้ไปเที่ยวบางกระเจ้ากับทุกคน สนุกดีนะ ทำให้เรารู้จักทุกคนก่อนเริ่มงานจริง
อาทิตย์แรกของการทำงาน เราต้องไปเทรนนิ่งที่ระยอง 1 อาทิตย์ เป็นเรื่องแปลกสำหรับเราเลย เพราะไม่เคยไปนอนค้างทำงานต่างจังหวัด ปกติตัวจะติดโต๊ะเท่านั้น แต่สนุกดี ได้รู้จักคนใหม่ๆ เป็นน้องๆพึ่งจบทั้งนั้นเลย ทำให้เรารู้สึกว่า เราแก่แล้วแหะ
Sep
เดือนแรกของการทำงานที่ใหม่แบบจริงจัง ต้องปรับตัวอยู่พอสมควรนะ ทั้งเรื่องของงาน และเรื่องของคน แต่โดยรวมก็พอใจกับความก้าวหน้าของตัวเองในแต่ละวันนะ
เรารู้สึกว่าปรับตัวเข้ากับคนในแผนกได้ดี สนิทกันมากกว่าที่ทำงานเดิม อาจเพราะวัยที่ใกล้กัน และงานที่ต้องพูดคุยปรึกษากันตลอด ไม่เหมือนที่ทำงานเก่าที่เราอายุห่างกับพี่ที่ทำงานมาก และลักษณะงานก็ต่างคนต่างทำมากกว่า ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน จริงๆมันมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
Oct
น้องในทีมแจ้งลาออก! เพราะมีปัญหากับหัวหน้างาน แอบตกใจนิดนึง เราพึ่งเข้ามาก็มีคนออกซะแล้ว และมันก็ส่งผลกับเราโดยตรงด้วย เพราะเราได้รับมอบหมายให้ดูแลงานแทนน้องคนนั้น จนกว่าจะมีคนมาใหม่ กลายเป็นว่าเราได้พี่เลี้ยงใหม่ แต่จริงๆก็โอเคนะ พี่ในแผนกโอเคหมดเลย และงานก็ดูมีอะไรมากกว่าส่วนที่เราเข้ามาทำในตอนแรก
เดือนนี้ผ่านไปด้วยการเทรนงานกับน้องที่จะลาออกอย่างเข้มข้นตลอดทั้งเดือน
Nov
เราเริ่มรู้สึกว่าปรับตัวกับงานได้แล้ว แต่งานที่นี่ค่อนข้างจุกจิกพอสมควร เดือนนี้ก็ผ่านไปด้วยการทำงาน และเรียนรู้อย่างเข้มข้น
Dec
เริ่มจากเรื่องงานก่อน มีเรื่องพีค คือบริษัทมีการ Re-organize ครั้งใหญ่ เมเนเจอร์แผนกเรา และพี่อีกคนถูกย้าย และมีเมเนเจอร์ กับคนแผนกอื่น 2 คนย้ายเข้ามาแทน เราเข้างานไม่กี่เดือนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกแล้ว สุดท้ายชีวิตต้องเดินต่อ ทุกๆอย่างมันก็ผ่านไปได้โอเคจนถึงทุกวันนี้นะ
ต่อมา เราสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นอีกรอบ แต่รอบนี้ทำใจมาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะไม่พร้อมเลยจริงๆ โฟกัสเรื่องงานมากจนไม่ได้อ่านหนังสือ ด้วยความที่ยังใหม่กับงานด้วย เลยไม่ค่อยมีเวลา ถึงตอนนี้รู้ผลแล้วว่าไม่ผ่าน แอบผิดหวังในตัวเองอยู่นะ เราตั้งใจจะแก้ตัวอีกครั้งช่วงกลางปีนี้ ไใรู้ว่าจะมีเวลาอ่านหนังสือไหม เพราะงานเราก็ยังหนัก แต่จะทำให้ได้เลย
สุดท้ายเป็นเรื่องที่เราตั้งตารอมาตลอดทั้งปีคือ การไปเที่ยวจีนกับครอบครัวช่วงปีใหม่ ทริปนี้แพลนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เราคิดว่าตัวเองจะไม่ได้ไปแล้ว เพราะย้ายงาน ละอยู่ในช่วงโปรซึ่งลาไม่ได้ แต่หัวหน้าก็ใจดีให้ลา แต่เราไม่กล้าขอลา 5 วันตามแพลนเดิม ขอแค่ 3 วัน ทำให้เราต้องเลื่อนตั๋ว และตามคนอื่นๆไปทีหลังแทน ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ต้องนั่งเครื่องบินไป ตปท. คนเดียว ปกติเราเป็นผู้ตาม จึงไม่ค่อยคล่องเรื่องในสนามบินเท่าไหร่ ครั้งนี้ต้องทำการบ้านก่อนไปพอสมควรเลย เพราะต้องพึ่งพาตัวเอง
ทริปนี้ผ่านไปได้ด้วยดี รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่มาคนเดียวได้ และได้เที่ยวกับครอบครัวและแฟน ทำให้ความฝันของแม่สำเร็จด้วย เป็นทริปที่สนุกมาก หนาวมาก ทำให้สนิทกับแม่ และน้องๆมากขึ้น ได้ใช้เวลาด้วยกันมาก ซึ่งปกติจะไม่มีช่วงเวลาแบบนี้เลย ไว้จะพยายามหาทริปครอบครัวแบบนี้บ่อยๆ มันดีมากจริงๆ
สรุป
2024 เป็นปีที่มีเรื่องราว และการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับตัวเองเยอะมากเลย ได้ท่องเที่ยวเยอะมากด้วย ทุกอย่างทำให้เรารู้สึกว่า ตัวเองเติบโตขึ้นจริงๆในปีนี้ ปี 2025 ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะเจอกับอะไร ขอให้ตัวเองมีสติ มองอนาคตด้วยใจที่เป็นบวก อยู่กับปัจจุบันให้มาก สู้นะเว้ย :)
โฆษณา