7 ก.พ. เวลา 16:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ADVANC เจ้าของเครือข่าย AIS ปี 2567 กระแสเงินสดอิสระ เพิ่มขึ้น +160% | MONEY LAB

ล่าสุดทางบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เจ้าของเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ “แบรนด์ AIS” เพิ่งส่งงบการเงินงวดปี 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หากสงสัยว่า ผลประกอบการในปี 2567 ของบริษัท มีอะไรน่าสนใจบ้าง
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
หมายเหตุ: เนื่องจากทางบริษัท ADVANC มักจะเรียกแทนตัวเองว่า “AIS” ดังนั้นเพื่อให้เราไม่งงกัน ก็จะขอใช้คำเรียกบริษัท ADVANC ว่า AIS ในบทความนี้ไปเลย
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักธุรกิจของ AIS กันก่อนสักนิด โดย AIS จะมีอยู่ทั้งหมด 5 ธุรกิจ ประกอบด้วย
- บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายใต้แบรนด์ “AIS”
- บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ภายใต้แบรนด์ “AIS 3BB Fibre3”
- บริการลูกค้าองค์กร ภายใต้แบรนด์ “AIS Business” โดยธุรกิจนี้จะให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชัน เช่น คลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ สำหรับภาคธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
1
- การจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าไลฟ์สไตล์ดิจิทัล
- บริการดิจิทัลเซอร์วิส เช่น ด้านความบันเทิงและคอนเทนต์ รวมถึงบริการการเงินดิจิทัลด้วย
ทีนี้ เราลองมาดูที่ผลประกอบการของ AIS ในปี 2567 กันบ้างดีกว่า ซึ่ง MONEY LAB ไปลองวิเคราะห์ดูแล้ว สามารถสรุปสิ่งที่น่าสนใจออกมาได้ เป็น 3 ข้อ
1. รายได้และกำไร เติบโตขึ้น
ปี 2567
รายได้ 213,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน +13%
กำไรสุทธิ 35,075 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน +21%
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ผลประกอบการของ AIS เติบโต จะมาจาก
- รายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 124,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน +4.8%
โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 45.76 ล้านเลขหมาย และนอกจากนี้เอง “รายได้เฉลี่ยต่อหมายเลขต่อเดือน หรือ ARPU” ก็มีการเพิ่มขึ้นด้วย
- รายได้จากบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 29,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน +116% จากการที่รับรู้รายได้ของบริษัท TTTBB ที่ AIS ได้เข้าไปลงทุนเมื่อไม่นานมานี้ และรวมถึง ARPU ที่เติบโตขึ้นด้วย
โดยในปี 2567 แบรนด์ AIS 3BB Fibre3 มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นมาเป็น 5 ล้านราย
- รายได้จากบริการลูกค้าองค์กรและอื่น ๆ 9,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน +34%
โดยมาจากการให้บริการการเชื่อมต่อโครงข่ายข้อมูล และคลาวด์ รวมถึงการได้รับรู้ผลประกอบการของบริษัท TTTBB ด้วย
- รายได้ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย และรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับ NT หรือบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) รวม 13,130 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -7%
- และรายได้จากการขายอุปกรณ์และซิม 38,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน +3%
2. กระแสเงินสดอิสระ เติบโตขึ้น +160%
คุณผู้อ่านของ MONEY LAB คงคุ้นเคยกับคำนี้เป็นอย่างดี เพราะทาง MONEY LAB ได้พูดถึง “กระแสเงินสดอิสระ หรือ Free Cash Flow” อยู่บ่อยมาก
กระแสเงินสดอิสระ ก็คือ เงินสดที่บริษัทคงเหลืออยู่ หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำธุรกิจ ไปหมดแล้ว
โดยเงินสดเหล่านี้ เปรียบเสมือนเป็นเงินฟรี ที่บริษัทสามารถนำไปจ่ายคืนหนี้เงินกู้ได้ หรือสามารถนำไปจ่ายเป็นเงินปันผล หรือซื้อหุ้นคืน เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นก็ได้
สำหรับ AIS จะมีวิธีการคำนวณกระแสเงินสดอิสระ ดังนี้
กระแสเงินสดอิสระ = กระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงาน - ลงทุนในรายจ่ายฝ่ายทุน - ค่าใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่โทรคมนาคม - จ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่า
ปี 2566 กระแสเงินสดอิสระ 23,480 ล้านบาท
และปีล่าสุดคือ ปี 2567 กระแสเงินสดอิสระ 61,082 ล้านบาท
โดยเหตุผลที่ทำให้ AIS มีกระแสเงินสดอิสระเติบโตขึ้นมามากขนาดนี้ ก็มาจาก 3 สาเหตุ คือ
- บริษัทสามารถทำ EBITDA และกำไร ได้มากขึ้นกว่าปีก่อน
- บริษัทได้รับรายได้รับล่วงหน้า เป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท จากการให้เช่าอุปกรณ์โครงข่ายแก่ NT ด้วย
- และในปี 2567 ค่าใช้จ่ายในการลงทุน น้อยกว่าปี 2566 ถึงเกือบ 9,000 ล้านบาท
ตรงจุดนี้เอง เลยส่งผลให้ AIS มีกระแสเงินสดอิสระ เติบโตขึ้นถึง 160%..
3. ROIC สูงขึ้น
ROIC หรือ Return on Invested Capital เอง ก็เป็นอีกหนึ่งคำ ที่คนติดตามอ่าน MONEY LAB มาตลอด น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่แพ้คำว่ากระแสเงินสดอิสระเลย
ROIC คือเครื่องมือที่เราจะไว้ใช้วิเคราะห์ว่า บริษัทสามารถทำผลตอบแทนจากการลงทุนทำธุรกิจ กลับมาได้คุ้มค่า หรือไม่
ถ้า ROIC สูงกว่า 15% หมายความว่า ผลตอบแทนถือว่าคุ้มค่าต่อเงินที่ลงทุนไป
แต่ถ้า ROIC ต่ำกว่า 15% ก็หมายความว่า ผลตอบแทนถือว่าไม่ค่อยจะคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไปเลย
คำนวณหาโดย
(กําไรจากการดําเนินงานหลังหักภาษี / เงินลงทุนในธุรกิจ) x 100
ปี 2566 มี ROIC เท่ากับ 16.66%
ปี 2567 มี ROIC เท่ากับ 22.93%
ใน 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากที่ AIS จะสามารถทำ ROIC ได้สูงกว่า 15% ซึ่งถือว่าสูงมากแล้ว ในปีล่าสุดคือ 2567 AIS ยังสามารถทำ ROIC ได้สูงขึ้นอีกด้วย
1
หมายความว่า ประสิทธิภาพในการทำธุรกิจของบริษัท มีการพัฒนาขึ้นนั่นเอง
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราน่าจะเข้าใจถึงภาพรวมธุรกิจของ AIS และการเติบโตของผลประกอบการของบริษัทในช่วง 2 ปีมานี้ กันดีขึ้นแล้ว
โดยใน “คำอธิบายบทวิเคราะห์ของฝ่ายบริหารประจำปี 2567” เอง ก็ได้มีมุมมองของผู้บริหาร ต่อทิศทางการดำเนินงานของบริษัท ในปี 2568 อยู่ด้วย
สามารถสรุปได้ดังนี้
- รายได้จากการให้บริการหลัก เติบโตประมาณ 3% - 5%
- EBITDA เติบโตประมาณ 3% - 5%
- งบประมาณที่ใช้ในการลงทุน ประมาณ 26,000 - 27,000 ล้านบาท
พอเราได้เห็นมุมมองของผู้บริหารต่อทิศทางการเติบโตของบริษัทในปี 2568 แบบนี้แล้ว ก็เป็นเรื่องน่าติดตามกันต่อไปนะว่า
สุดท้ายแล้ว ผู้บริหารยังจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ให้ไว้ แบบที่ปีก่อน ๆ ทำได้มาตลอดหรือไม่ หรือจะมีเรื่องอะไรให้เราได้เซอร์ไพรส์กันอีก
แต่การที่บริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดอิสระ ให้เติบโตได้ถึง 160% ก็สามารถพูดได้เลยว่า เป็นเรื่องที่ดูเซอร์ไพรส์ไม่น้อยเลย..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
#ลงทุน
#หุ้นไทย
#ADVANC
References
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2566 ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
- งบการเงินปี 2567 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
โฆษณา