ความสุดโต่งของตลาดหุ้น
การคาดเดาตลาดหุ้นนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากทุกคนคงจะเคยได้ยินนักลงทุนหลายๆคนเคยบอกไว้
ผมเองก็คิดแบบเดียวกัน ย้อนกับไปเมื่อ4ปีที่แล้วที่เริ่มลงทุนเวลาผมซื้อหุ้นๆนึงผมมักมีความหวังว่าหุ้นตัวเองจะขึ้นด้วยเหตุผลนั่นนี่
เช่น ผมเคยซื้อหุ้นต่ำบาทที่เป็นอุตสาหกรรมเหล็กโดยไม่ได้รู้จักอะไรเล้ยย5555 เพียงแค่ว่าช่วงนั้นหุ้นต่ำบาทมันขึ้นกันเลยซื้อเพื่อเดาว่ามันจะขึ้น สรุปก็คือ ติดดอย555 🤣
แล้วก็มีอีกหลายๆเหตุการณ์ที่ผมเคยคาดเดาแล้วส่วนใหญ่ผลที่ออกมามักจะผิด ดังนั้น การคาดเดาตลาดนั้นเป็นสิ่งที่ผมว่าทำไม่ได้ในความคิดของผมนะครับ
หลายๆคนคงเห็นนักวิเคราะห์ออกมาบอกว่าตลาดหุ้นอเมริกาเป็นฟองสบู่ตั้งแต่เมื่อ2ปีที่แล้วจนตอนนี้มันก็ยังไม่ลงสักกะทีซึ่งผมก็คิดแบบเดียวกับนักวิเคราะห์นะ หุ้นแพงเต็มไปหมดแต่มันก็ยังขึ้นได้
ในทางกลับกัน
หุ้นไทยนั้นเต็มไปด้วยหุ้นที่ถูกมากบางตัวเป็นผล 7-8% ในธุรกิจที่ไม่ได้โตอะแหละแต่ก็สามารถอยู่ได้ในสภาวะแบบนี้
PE 12-15 มีเต็มไปหมด ในขณะที่หุ้นอเมริกานั้น PE 30เป็นเรื่องปกติบางตัวเล่นกันเป็นร้อย
ผมคิดว่าสิ่งที่มีผลให้เกิดความสุดโต่งคือ “ความหวัง”
ในตลาดอเมริกา ความหวังของนักลงทุนนั้นเต็มไปหมด ทำให้คนซื้อซ้อนๆกันไปเรื่อยๆ แล้วก็คาดหวังว่าผลประกอบการณ์จะออกมาดี
ในตลาดหุ้นไทยนั้น ความคาดหวังนั้นช่าง “เหือดแห้ง” เพราะหุ้นว่าถูกแล้วเข้าไปซื้อเจอถูกกว่าซ้ำไปกว่านั้น หุ้นบางตัวเจอผู้บริหารเอาหุ้นไปจำนำแล้วโดน Force sell ความคาดหวังที่เหือดแห้งกลายเป็นริบหรี่ทันที555
แต่ผมเชื่อว่าในสถานการณ์ที่ความหวังนั้นริบหรี่ ยังมีโอกาสอยู่เสมอ 🤍🤍
ผมไม่อยากคาดเดาเกี่ยวตลาดหุ้นไทยนะว่ามันจะขึ้นหรือลงเพราะเดาไปก็มีแต่เจ็บตัว
ดังนั้น โฟกัสที่ธุรกิจเท่านั้น!!!! หาหุ้นที่ยังอยู่รอด!!!!
หวังว่าโพสต์นี้ถ้าเพื่อนๆพี่ๆอ่านจะได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างนะครับผม ❤️
สู้ตาย!!!✌🏻
ขอบคุณสำหรับการติดตามและกดไลค์กดแชร์ด้วยครับผม ❤️
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
