ทางเลือกในการลงทุน กับ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงิน
ปัจจุบันในโลกของการลงทุน เรามีทางเลือกมากมาย และเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายเพียงแค่กดโทรศัพท์มือถือก็สามารถทำธุรกรรมการลงทุนต่างๆ ได้เลย
ในอดีตเราอยากนำเงินไปลงทุน เรามักจะนึกถึง การทำธุรกิจ การซื้อที่ดินหรือ อสังหาริมทรัพย์ หรือ การซื้อทองคำ เป็นต้น
แต่ปัจจุบัน และ มองไปถึงอนาคตนั้นมีทางเลือกเพื่อการลงทุนหลากหลายมากขึ้น
เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น เงินฝาก อสังหาริมทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน สลากออมสิน กองทุนรวม ตราสารหนี้ ประกันชีวิต ประกันชีวิตควบการลงทุน คริปโต และ อื่นๆ อีกมากมาย แล้วเวลาที่เราจะเลือกลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เราควรนึกถึงปัจจัยเรื่องอะไรบ้าง
1. ความเสี่ยง
กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล เงินฝาก อสังหาริมทรัพย์ ประกันชีวิต สลากออมสิน เป็นต้น
กลุ่มที่มีความเสี่ยงปานกลาง เช่น กองทุนรวม(ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุน) ประกันชีวิตควบการลงทุน ตราสารหนี้(ขึ้นอยู่กับผู้ออกตราสารหนี้)
กลุ่มความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น คริปโต
ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละคน ย่อมแตกต่างกัน ก่อนการลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงต่างๆ ของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้ดี อย่างรอบคอบ และ ควรกระจายความเสี่ยง เช่น อย่าเลือกลงทุนในสินทรัพย์เดียว
2. ระยะเวลาการลงทุน ในการสร้างผลตอบแทน (อาจแปรผันไปตามความพอใจในผลตอบแทนของแต่ละบุคคล)
ระยะสั้น ภายใน 1 ปี เช่น เงินฝาก หุ้น คริปโต กองทุนรวม
ระยะกลาง 2-5 ปี เช่น สลากออมสิน หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล ประกันชีวิตควบการลงทุน(ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุน)
ระยะยาว 6-20 ปี เช่น อสังหาริมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันชีวิตควบการลงทุน
ระยะเวลาในการลงทุน ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาจมีความยืดหยุ่นต่างๆ กันไป บางครั้งอาจลงทุนได้ ตั้งแต่ระยะสั้น ไปถึงยาวๆ ขึ้นอยู่กับความพอใจในผลตอบแทนของแต่ละบุคคล
3. สภาพคล่อง หรือ ความสารถในการเปลี่ยนเป็นเงินสด ได้เร็ว
สภาพคล่องต่ำ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันชีวิตควบการลงทุน พัยธบัตร ตราสารหนี้
สภาพคล่องสูง เช่น เงินฝาก หุ้น คริปโต กองทุนบางประเภท
แต่อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องที่สูง อาจต้องแลกมาด้วยผลตอบแทนที่ต่ำ หรือ อาจจะขาดทุน และ อาจมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียม ภาษี หรือ ค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าเดินทาง
4. ความรู้ และ ประสบการณ์
ควรเข้าใจในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ว่า สร้างผลตอบแทนอย่างไร มีความเสี่ยงอย่างไร และ หมั่น ติดตามข่าวสารทางการเงิน อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเรื่อง อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ เศรษฐกิจ และ การเมือง ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังต้องคอยวิเคราะห์และติดตาม พอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
5. ภาษี ค่าธรรมเนียม และ กฎหมาย
ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ทำให้กำไรเราลดลง เช่น ค่าธรรมเนียมในการจัดการต่างๆ ของ การ ซื้อ-ขายหุ้น ค่าธรรมเนียมกองทุน ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และ อื่นๆ
ภาษี เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีที่ดิน ภาษีเงินได้ และ อื่นๆ
ด้านกฎหมาย ควรศึกษากฎหมาย และ ข้อบังคับ ของการลงทุนในแต่ละประเภท ให้ดี รวมไปถึง
การใช้งาน แพลทฟอร์ม หรือ โบรกเกอร์ ที่ได้รับการยอมรับทางกฎหมายจากหน่วยงานรัฐบาล
นอกจากที่กล่าวไปแล้ว ก็มี ปัจจัยส่วนบุคคล สถานะทางการเงิน และ ปัจจัยทางจิตวิทยา โดยก่อนตัดสินใจเลือกลงทุน ควรทบทวน ปัจจัยต่างๆ และ เป้าหมายของการลงทุนอย่างรอบคอบ
AIA TOTAL WEALTH SOLUTION
ปัจจุบัน กลุ่มสินค้า ประกันควบการลงทุน ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย ตามแนวโน้มของประเทศอื่นๆ ไปในทิศทางเดียวกัน เพราะ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้เร็วกว่า มากกว่า ประกันชีวิตแบเดิมๆ โดย AIA ถือเป็นเจ้าตลาดในกลุ่มนี้ ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย เช่น ใช้แบบประกันเพื่อดูแลด้านประกันสุขภาพระยะยาว เบี้ยคงที่ หรือ การส่งต่อ มรดก ความมั่งคั่ง สำหรับ กลุ่มที่มีสินทรัพย์สูง เป็นต้น
โดยนโยบายการลงทุน ที่ผู้ลงทุน สามารถกำหนดได้เอง หรือ ใช้บริการ AIA INVESTPRO เพื่อเป็นตัวช่วยในการลงทุนแบบมือโปร
ประกันชีวิตควบการลงทุน เหมาะสำหรับการลงทุนระยะกลาง ไปถึง ระยะยาว นอกจากที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนมากกว่าประกันชีวิตแบบทั่วไปแล้ว ก็ยังให้ความคุ้มครองชีวิตที่สูง เพื่อรองรับความเสี่ยงหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งในการลงทุนแบบอื่นๆ ไม่มีให้
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
