8 ก.พ. เวลา 17:11 • ข่าวรอบโลก

"Woke สิ้นสุดลงแล้วในยุโรป ซึ่งต้องการยุคทองของตัวเอง"

"We will make Europe great again"
"เราจะทำให้ยุโรปยิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง"
Geert Wilders หัวหน้าพรรคขวาจัดเพื่อเสรีภาพ (PVV) ของเนเธอร์แลนด์และส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรรัฐบาล กล่าวที่การประชุมกลุ่ม Patriots for Europe ที่กรุงมาดริด
วิลเดอร์สโจมตีการอพยพที่ผิดกฎหมาย, อาชญากรรม, และอุดมการณ์ตื่นรู้
พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะรักษาความปลอดภัยตามชายแดน, ขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมาย, และฟื้นฟูความสงบสุขทั่วทั้งยุโรป
โดยมีผู้นำอย่างวิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี, และมารีน เลอเปน สมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศส เข้าร่วมการประชุม
นับเป็นข้อความที่ชัดเจนว่ายุคแห่งพหุวัฒนธรรม ได้สิ้นสุดลงแล้ว
บทความเสริม
Woke ตื่นรู้หรือมืดบอด
วิทยาลัยการทัพบก
ประเด็นสังคม ฉบับที่ B2 26 พ.ย. 67
เมื่อก่อนเราไม่ค่อยได้ยินคำว่า Woke (โว้ค) มากนัก จนกระทั่งกลุ่มคนรุ่น Gen Z และ Alpha ที่เติบโตขึ้นมา มีการพยายามเรียกร้องสิทธิ ต่างๆ ในสังคม จึงทำให้กระแส Woke หลั่งไหลไปทั่วโลก และปรากฎชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
การเคลื่อนไหวของ Woke นั้นพัฒนาการจากจุดเริ่มต้นของการเห็นสังคมที่เลือกปฏิบัติ, ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ, รวมไปถึงการละเลยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม
และยังมีกลุ่มเปราะบางที่เรียกร้องเรื่องเพศ, สีผิว ที่เกิดขึ้นในทั่วทุกมุมโลก คนหลายกลุ่มเลือกต่อสู้ทางสังคมหรือกฎหมายที่ไม่ยุติธรรม ด้วยการส่งเสียงตะโกน, ก้าวร้าว, เดินขบวน, ถือป้ายที่เต็มไปด้วยประเด็นหลากหลาย
หากพูดในบริบทสังคม คำว่า Woke เปรียบเหมือนการตื่นรู้จากความมืดบอด (ซึ่งก็มาจากคำว่า Wake) ที่เราจะพบเห็นมากขึ้นจากการเรียกร้องเรื่องต่างๆ ในช่วง 3- 4 ปีที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตาม คนบางส่วนเริ่มไม่เห็นด้วยกับวัฒนธรรมการตื่นรู้นี้สักเท่าไหร่นัก เพราะรู้สึกว่าบางเหตุการณ์ หรือในบางกรณี ชาวตื่นรู้เองก็ข้ามเส้นจนเกินไปมากเหมือนกัน
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2017 คำว่า Woke ได้รับเลือกจากออกซ์ฟอร์ดฯ ให้บัญญัติลงในพจนานุกรมอย่างเป็นการ ศัพท์ที่บัญญัติแต่ละครั้ง ถือเป็นการสื่อว่าสังคมให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพจนานุกรมออกซ์ฟอร์ด ให้ความหมายของ Woke ว่า เป็น คำคุณศัพท์ (adjective)
หมายถึงการตื่นรู้ หรือตระหนักถึงความไม่เท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ, สีผิว, และเพศ
จริง ๆ Woke ไม่ใช่คำใหม่ แต่ถูกใช้มาตั้งแต่ยุค 80-90s แล้ว ผู้ที่ทำให้คำนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง น่าจะเป็นนักร้องเพลงโซ (Erykah Badu)
ซึ่งเพลงนี้ถูกนำมาใช้ในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนผิวดำ ซึ่งส่งอิทธิพลไปทั่วโลก เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
1
เมื่อ Woke กลายเป็นแฟชั่นกระแสหลัก จึงทำให้เกิดสภาวะที่เรียกว่า ตาสว่างแต่เปลือก
1
คือการเกาะกระแสโดยไม่ได้เข้าใจความหมายที่แท้จริง ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น การเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องสิทธิ LGBT แต่ในไทม์ไลน์กดไลก์กดแชร์ fake news ที่ว่าการเป็นเกย์สามารถรักษาหายได้ด้วยการพบจิตแพทย์
อีกประเด็นหนึ่งคือ การตาสว่างอย่างสุดโต่ง ยกตัวอย่างเหตุการณ์จริง ที่คนกลุ่มหนึ่่งเห็นว่าสุดโต่ง แต่คนอีกกลุ่มอาจเห็นว่าถูกต้องแล้ว เช่น กระแสต่อต้านการที่คนกลุ่มใหญ่ในสังคมรับเอาวัฒนธรรมคนกลุ่มน้อยมาใช้ รวมไปถึงการด่าหรือประจานคนที่ไม่ยอมออกมาร่วมเคลื่อนไหวว่าเป็นพวก ignorant
ไม่เว้นแม้กระทั่งการเมือง นโยบายเรื่อง Woke ก็ทำให้ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยทรัมป์มีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับวัฒนธรรม woke ว่าวัฒนธรรม woke เป็นสิ่งที่ทำให้สังคมอ่อนแอและไม่สามารถเผชิญกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เขาชูประเด็น Woke เพราะรู้ว่าประชาชนเริ่มเบื่อกับการที่ต้องระวังคำพูดตลอดเวลา เบื่อที่ถูกมองว่าล้าหลัง ถ้าไม่เห็นด้วยกับ Woke
การวิจารณ์ของทรัมป์เกี่ยวกับ woke มักจะเน้นไปที่การมองว่า เป็นการทำให้สังคมมุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่ไม่สำคัญ, และละเลยปัญหาที่แท้จริงที่ต้องการการแก้ไข, เป็นพลังที่บ่อนทําลายค่านิยมดั้งเดิมของอเมริกาและสร้างความแตกแยก
แม้ในการกล่าวสุนทรพจน์แห่งชัยชนะ ทรัมป์ก็ยังได้แสดงวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับอเมริกา โดยมุ่งเน้นไปที่ลัทธิชาตินิยม, กฎหมาย, ความสงบเรียบร้อย, และค่านิยมดั้งเดิม
และกล่าวว่า woke เป็นกลไกที่สร้างความตึงเครียดทางสังคมมากกว่าการสร้างความสามัคคี หรือแม้แต่ผู้สนับสนุนเขาอย่าง อีลอน มัสก์ ยังมีมุมมองเกี่ยวกับการต่อต้าน woke ซึ่งมองว่ากระแสนี้ได้ฆ่าลูกชายของเขานั้น ทำให้เขารู้ซึ่งถึงกระแส woke ว่ามีผลกับเขาโดยตรง และทำให้เขาประกาศว่าจะทำร้ายกระแสนี้ให้สิ้น
1
ในสังคมไทย คำว่า Woke ไม่ได้เป็นแค่การตื่นรู้ แต่มันเริ่มกลายเป็นความกลัวที่จะถูกมองว่าเลือกปฏิบัติ เมื่อเกิดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมก็ Woke กันอย่างพร่ำเพรื่อ เพื่อแสดงออกว่า “ฉันเป็นคนดี ฉันมีจริยธรรม
มีบทความที่สร้างประเด็นไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า คนที่ Woke ไม่ได้รู้สึกตื่นรู้จริง ๆ แต่อยากให้ทุกคนมองตัวเองว่าเป็นคนตื่นรู้ เป็นคนดี มีจริยธรรม และกลายเป็นเครื่องมือหากินของนักโฆษณาและประชาสัมพันธ์
“ถ้าคุณใช้สินค้าแบรนด์นี้ คุณเป็นคนรักษ์โลก”
หรือการที่แทบทุกแบรนด์เปลี่ยนโลโก้เป็นธงสายรุ้งในเดือนมิถุนายน ต้อนรับ Pride Month
แต่ถามว่า บริษัทหรือแบรนด์เหล่านั้นมีนโยบายจริงจังเกี่ยวกับสิทธิของกลุ่มคน LGBTQ+ หรือไม่ และเพื่อไม่ให้กลายเป็นคนตกยุคตกกระแส คนหนุ่มสาวจึงต้องพยายามแสดงออกว่าตื่นตัวเรื่องความเท่าเทียม
ซึ่งก็ดูเป็นเรื่องดีที่ประเด็นทางสังคมเป็นที่สนใจมากขึ้น และคนชายขอบจะมีช่องทางส่งเสียง ความเท่าเทียมกลายเป็นกระแส แต่มันก็ตามมาด้วยผลกระทบในแง่ลบ
Woke เป็นปรากฏการณ์ทางสังคม จึงตัดสินถูกผิดไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงๆ ว่า Woke ช่วยให้เกิดการตื่นตัวเรื่องสิทธิความเท่าเทียม แต่บางทีก็กลายเป็นว่าละเมิดสิทธิคนอื่น หรือยิ่งไปกว่านั้นก็นำไปสู่การสร้างความเกลียดชังกันเองในสังคม
การแก้ไขนี้จำเป็นต้องมีการสร้างการสนทนาและความเข้าใจระหว่างกลุ่มต่างๆ ความเข้าใจที่เปิดกว้าง และให้พื้นที่แก่ทุกฝ่ายในการแสดงออกถึงความคิดเห็นและความเชื่อที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดพื้นที่สำหรับการยอมรับความแตกต่างและลดความตึงเครียดในสังคม
ท้ายที่สุดแล้ว Woke คือการตื่นรู้และไม่เพิกเฉยกับความเหลื่อมล้ำหรือความอยุติธรรมในสังคมโลกยุคใหม่ แต่ก็ต้องไม่เป็นไปอย่างฉาบฉวย หรือถูกนำไปเป็นจุดขายเพื่อแปะป้ายให้ตัวเองดูดี
ขณะเดียวกันก็ต้องไม่มากเกินไปจนกลายเป็นการยัดเยียด จน Woke กลายเป็นเครื่องมือบีบบังคับและทิ่มแทงคนอื่นที่เห็นต่างได้ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนมีปากเสียงและพื้นที่ในการแสดงออกอย่างเสรี
หากพูดในบริบทสังคม คำว่า Woke จึงเปรียบเสมือนการตื่นรู้จากความมืดบอด ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามบริบท และขึ้นอยู่กับว่า คุณกำลังเอ่ยคำนี้กับ ‘กลุ่มไหน’
พ.อ.หญิง ณภัค ภัคคะกรณ์
อจ.หก.สมย.วทบ.
ที่มา
Woke ตื่นรู้หรือมืดบอด
(ดาวน์โหลดด้วย chrome ไม่ได้, แต่ mi ได้)
ที่มา วิดิโอสั้น
📹 Woke is over in Europe, which needs its own golden age - Wilders
“We will make Europe great again,” Geert Wilders, leader of the Dutch right-wing Party for Freedom (PVV) and part of the ruling coalition declared at the Patriots for Europe gathering in Madrid, echoing Trump’s promise of a golden age for America.
1
Wilders slammed illegal immigration, crime, and woke ideology, vowing to secure borders, expel illegal migrants, and restore sanity across Europe.
With leaders like Hungarian PM Viktor Orban and French lawmaker Marine Le Pen in attendance, the message was clear: the era of multiculturalism is over.
📌Subscribe to @SputnikInt
โฆษณา