ทบ.ไทย น่าจะต้องอยู่กับรถถังจากจีนไปอีกนาน ??
แล้วถ้าอยากเปลี่ยนมีทางไหนได้บ้าง
1- รถถังหลัก (MBT) จุดเด่นเป็นเรื่องการป้องกันด้วยเกราะที่หนา ขณะที่ยานรบอื่น เช่น รถถังกลาง (MT) ที่มีน้ำหนักราว 35 ตัน ซึ่งโดยมากดัดแปลงจากยานเกราะสายพาน ติดอาวุธได้เทียบเท่า MBT โดยเป็นป้อมปืน 105 120 125 มม. แต่มีเกราะไม่เท่า เช่น มีเกราะระดับ STANAG 4569 level 4 ถึง 6 (ใส่แผ่นเสริม) แปลว่า MT อาวุธเท่า MBT ได้ แต่เกราะไม่เท่าอยู่ดี
2- แต่ MBT มาตรฐานตะวันตก ราคาสูงลิ่ว ต่อให้เป็นของมือสองที่ refurbished ก็ตาม นั่นทำให้ ทบ. เลือก VT4 ที่มีราคาคันละ 5+ ล้านดอลลาร์ ที่ถูกกว่าถึงครึ่งหนึ่งได้ และแม้จะเป็นราคานี้ ทบ. ก็ไม่สามารถซื้อในจำนวนมากๆ ได้อยู่ดี รวมทั้งเลือกวิธี เช่น บรรจุอัตราลด ระดับ 1 คือ 2 ใน 3 จากที่ควรมี (2 จาก 3 ร้อย.ถ. ต่อ 1 พัน.ถ.) หรือแม้แต่เปลี่ยนอัตรา พัน.ถ. เป็น พัน.ม.ลว. (ล้อยาง) และในสมุดปกขาว ทบ. ไม่มีแผนจัดหารถถังจนถึงปี 80
3- MT ราคาถูกลงที่เป็นมาตรฐานตะวันตก เช่น Kaplan ที่อินโดนีเซียผลิตเอง (เทคโนโลยีตุรกี) ยังมีราคาคันละ 7.5 ล้านดอลลาร์ แพงกว่า VT4 ด้วยซ้ำ MT อื่น มีราคาสูงกว่านี้อีก เช่น Sabrah ที่ฟิลิปปินส์ซื้อไปคันละ 9 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ VT5 ของจีน ราคาย่อมถูกลงไปชัดเจน
4- อาจตีความได้ว่า ถ้าไม่อยากได้รถถังจากจีน สิ่งที่ ทบ. พอจ่ายได้ จะเป็นแค่ MT อย่าง Kaplan ไม่ใช่ MBT แถมราคาอาจสูงกว่า VT4 ด้วย ซึ่งถ้าอยากได้ MT จริง VT5 ก็จะอยู่ในฐานะได้เปรียบเรื่องราคาอย่างมากอีกนั่นเอง
5- ถ้าเทคโนโลยีจีนเรายอมรับได้ หรือไม่มีป้ญหาใหญ่โตที่ส่งผลต่อความพร้อมรบ ตรงนี้จะจบไป เราก็ไปต่อกับรถถังจีนยาวๆ จะเป็น MBT หรือ MT ก็แล้วแต่ เซฟงบได้ เราใช้รถถังจีนแต่รบด้วยหลักนิยมกับยุทธวิธีตะวันตกแทน
6- แต่ถ้าเกิดมีปัญหาล่ะ เราจะมีทางออกอะไรได้บ้าง
> รถถังไฮบริดจีนผสมตะวันตก = ขอถ่ายทอดเทคโนโลยีจากจีน เพื่อให้เรามาดัดแปลงแก้อะไรเองได้ เช่น ระบบไหนไม่ถูกใจ ก็เปลี่ยนใช้ระบบตะวันตกแทน หรืออยากได้ระบบอะไรก็ใส่เองได้
> MT มาตรฐานตะวันตก = ยอมจ่ายแพงขึ้นประมาณหนึ่ง แต่ให้เอกชนมีส่วนร่วมการผลิต เพราะแม้จ่ายแพง แต่เงินจำนวนหนึ่งยังอยู่ในประเทศอยู่ดี อย่างไรก็ตาม MT ยังสู้ MBT ไม่ได้ อาจจะใช้ผสมๆ กันไป เป็น MBT จีน ผสมกับ MT ตะวันตก
> MBT มาตรฐานตะวันตก = น่าจะเกินงบประมาณรับไหว
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
