ช่วงนี้หุ้น OKJ ก็กลายเป็น Talk of the town สำหรับนักลงทุนพอสมควร
ก็จะขอแชร์ในมุมมองส่วนตัว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย
หรือกำลังถือหุ้นตัวนี้อยู่แต่อย่างใด
สำหรับแบรนด์ร้าน "โอ้กะจู๋" จริง ๆ แล้วแบรนด์ก็อาจมีจุดขายที่ตรงตัว และชัดเจน ว่าเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพด้วยผักออแกนิค คือสด สะอาด และที่สำคัญคือ ส่งตรงจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ที่ปลอดสารทุกชนิด
แต่คำถามก็คือสิ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะคิดคล้าย ๆ กัน ก็คือ "เรื่องราคา" ที่อาจดูจับต้องได้ยากสำหรับคนทั่วไป ที่ใส่ใจสุขภาพ
ทำให้คิดว่า กลุ่มลูกค้าที่จะมาทานร้านผักเพื่อสุขภาพที่ส่งตรงกับฟาร์มอย่าง "โอ้กะจู๋" นั้น เขามาทานเพื่อ อยากกินอาหารสุขภาพจริง ๆ ในทุก ๆ วัน หรือ อยากจะลองมาทานเพื่อเป็นแฟชัน หรือสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ กันแน่
จริง ๆ การมาทานร้าน โอ้กะจู๋ ถ้าเอาแบบอิ่ม ๆ ก็ตกคนละ 500 - 800 บาท แล้ว
ซึ่งราคานี้ ในมุมมองคนทั่วไปคือราคาที่ต้องจ่ายเป็นประจำ ถ้าอยากกินผักปลอดสารจริง ๆ หรือ ?
ซึ่งแน่นอน ถ้าแบรนด์ พยายามเจาะเน้นไปทางกินเป็นแฟชันเพื่อสร้างประสบการณ์ แบบร้านดัง ๆ ที่เราก็สามารถกินได้เป็นบางโอกาส อย่าง MK, Momo Paradise, Kouen, Maguro, Sushiro, Katsi midori, หรือร้านโอมากาเสะต่าง ๆ แบบนี้ ก็ไม่น่าเป็นอะไร
เพราะลูกค้าไปกินเพื่อเป็นแฟชัน เพื่อเป็นเทรนด์ เพื่อไปลองอะไรใหม่ ๆ
หรือเพื่อแลกกับประสบการณ์ดีดี และความทรงจำดีดี
แต่การที่แบรนด์พยายามจะสื่อว่า เป็นแบรนด์ร้านผักเพื่อสุขภาพ ส่งตรงจากฟาร์ม
สโลแกนแบบนี้ ก็อาจจะสื่อความหมายนัยยะของแบรนด์ที่อาจจะดูเข้าถึงง่าย
แต่ประเด็นคือ แค่จะอยากเปลี่ยนจากกินสลัดผักร้านโลคอลหรือตลาดนัดทั่วไป
มาเป็นกินสลัดผัก ที่ปลอดสารพิษจริง ๆ แล้วทำไม เราต้องจ่ายแพง ?
แน่นอนว่า ถ้า โอ้กะจู๋ เจาะกลุ่มคนทั่วไป (ที่รักสุขภาพ)
จากเดิมถ้ากินสลัดผักธรรมดาแบบมีเนื้อสัตว์ ถ้าเอาแบบอิ่ม ๆ ดีดี ก็อาจจะจานละ 100 - 200 บาท
แต่แค่ถ้าอยากเพิ่ม Option คือกินผักปลอดสาร ทำไมถึงต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหลายเท่าตัว ?
ซึ่งจริง ๆ การที่ลูกค้าสามารถมาทานสลัดผักในราคา 500 บาทขึ้นไปได้ในทุก ๆ วัน ก็อาจต้องเป็นลูกค้ากลุ่มคนรวย หรือมีรายได้สูงอยู่แล้ว
บางที สิ่งที่เป็นตัวตนแบรนด์จริง ๆ ในมุมของเจ้าของแบรนด์
ก็อาจจะเป็นภาพลักษณ์ของความเป็นแบรนด์พรีเมียม ที่เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงโดยธรรมชาติ
นั่นเพราะว่าร้านโอ้กะจู๋ ส่วนใหญ่เป็นร้านขึ้นห้าง อยู่ตามศูนย์การค้าที่เป็นแหล่งช็อปปิงสำหรับคนมีกำลังซื้อ และเก็บค่าเช่าแพงอยู่แล้ว
แต่ในวันนี้ ดูจากคอมเมนต์ ฟีดแบค หรือมุมมองของใครหลายคนตามสื่อต่าง ๆ ในโซเชียล ก็ดูเหมือนจะสื่อไปในทางลบซะเยอะเหลือเกิน
อาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของแบรนด์ร้านอาหาร
ที่ดูสามารถกินได้เป็นประจำ กินแล้วสุขภาพดี ดูไม่แฟชั่น
แต่อาจติดปัญหาหนึ่งอย่าง คือราคาอาหารที่เข้าถึงยากหรือเปล่า ?
เพราะเอาง่าย ๆ ถ้าเจ้าของแบรนด์ ต้องการเจาะกลุ่มคนทั่วไปที่รักสุขภาพ และดู Casual ไม่แฟชั่นสำหรับคนทั่วไป
ใครหลายคน ก็คงไม่ได้ไปกินน้ำผลไม้ปั่น อย่าง Oh! Juice (ผักผลไม้สดจากฟาร์ม) แทนน้ำผลไม้ปั่นโลคอล (ซึ่งอาจจะสดหรือไม่สดจากฟาร์ม) ได้ทุก ๆ วันหรอกกระมัง
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
