Golden Kamuy
หนังผจญภัยในแบบที่ไม่ได้ดูมานาน
แม้ว่าช่วงหลังจะมีเวลาอ่านมังงะน้อยลง แต่ Golden Kamuy เป็นมังงะเรื่องล่าสุดที่ได้อ่าน ก็เนื่องมาจากหนัง Golden Kamuy ที่ออกฉายทาง Netflix เมื่อปี 2024 สร้างความประทับใจผมมาก ที่ชื่นชอบมากคือมันเป็นหนังผจญภัยบริสุทธิ์ที่ไม่ได้ดูแบบนี้มานานแล้ว โดยมีศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่การตามล่าหาทอง มีทั้งการรวบรวมรวบรวมแผนที่ขุมทรัพย์ การเผชิญภัยจากสัตว์ป่า การเอาชีวิตรอดในสถานการณ์วิกฤติ ตัวละครที่ชัดเจนไม่ต้องซับซ้อนมากนัก
Golden Kamuy เป็นเรื่องราวที่ผสมผสานประวัติศาสตร์ แอ็กชัน และการผจญภัยเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีฉากหลังเป็นยุคเมจิที่ญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นชาติสมัยใหม่ เหตุการณ์สำคัญในเรื่องเกิดขึ้นหลังสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ซึ่งตัวเอก "ไซจิ สุกิโมโตะ" ทหารผ่านศึกผู้ได้รับฉายาว่า "สุกิโมโตะคนอมตะ" ได้เข้าร่วมรบในสมรภูมิที่โหดร้ายที่สุดของสงคราม นั่นคือการบุกยึดเนิน 203 เมตร สงครามครั้งนั้นทำให้สุกิโมโตะได้รับบาดแผลลึกทั้งทางกายและใจ หลังปลดประจำการเขาได้กลายเป็นนักผจญภัยในภารกิจตามล่าขุมทอง
ยุคตื่นทองในฮอกไกโดกลายเป็นฉากหลังของการแย่งชิงทรัพย์สมบัติล้ำค่า ซึ่งแผนที่ถูกซ่อนหรือสักไว้ในตัวนักโทษหลบหนีจำนวน 24 คน จะได้แผนที่สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อรวมรวบรอยสักนักโทษมาให้คน ซึ่งก็มีทั้ง ซามูไรหลงยุค ฆาตกรต่อเนื่อง ฯลฯ อีกทั้ง กลุ่มคนมากมาย ทั้งทหาร อาชญากร และนักล่ารางวัล ต่างพยายามแย่งชิงทองคำนี้
ขณะที่สุกิโมโตะได้รับความช่วยเหลือจากอาชิริปะ เด็กสาวชนพื้นเมืองไอนุที่มีทักษะการล่าสัตว์และใช้ชีวิตในป่าราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตัวละครสะท้อนถึงความแตกต่างระหว่างญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยอำนาจและอารยธรรม กับวิถีชีวิตของชนพื้นเมืองที่ดำรงอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
เรื่องราวเต็มไปด้วยการหักหลัง การเอาตัวรอด และการต่อสู้เพื่อเป้าหมายของแต่ละฝ่าย ทุกตัวละครล้วนมีอดีตและแรงผลักดันที่ทำให้พวกเขาต้องเข้าสู่เกมล่าทองนี้ ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายทหารผู้ต้องการสร้างรัฐอิสระ กลุ่มนักโทษที่มีรอยสักบอกตำแหน่งทองคำ หรือชนพื้นเมืองที่ต้องการปกป้องสมบัติของบรรพบุรุษ ภายใต้ความดุเดือดของฉากต่อสู้และการไล่ล่า
สิ่งที่ทำให้ Golden Kamuy ทำได้ดีคือการถ่ายทอดรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ทางทหารในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น อาหาร การล่าสัตว์ และวิถีชีวิตของชนพื้นเมืองที่ถูกนำเสนออย่างเคารพและลึกซึ้ง
อย่างไรก็ตาม ซีรีส์นี้ยังสะท้อนถึงความโหดร้ายของการตื่นทองในฮอกไกโด ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของชาวไอนุอย่างมาก การเข้ามาของผู้คนจากต่างถิ่นเพื่อแสวงหาทองคำได้ทำลายสมดุลทางธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวไอนุ เรื่องราวใน Golden Kamuy แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความเจริญที่นำมาซึ่งความมั่งคั่ง กับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับผู้คนและสิ่งแวดล้อม
ต้องถือว่าหนัง Golden Kamuy ปี 2024 เป็นเหมือนไพลอต โปรเจ็กหรือตอนนำร่อง แล้ว ปี 2025 ก็ออกมาเป็นซีรีส์ เล่าเรื่องต่อเนื่องกันเลย ซึ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือ ทั้งสองฉบับของ Golden Kamuy ยังคงเอกลักษณ์ในด้านการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ แม้ว่าเวอร์ชั่นหนังอาจเผชิญกับข้อจำกัดด้านเวลาที่ทำให้บางส่วนของเรื่องถูกเร่งรัด แต่ก็ยังสามารถถ่ายทอดบรรยากาศของฮอกไกโดในยุคตื่นทองได้อย่างน่าสนใจ
ส่วนในซีรีส์นั้นการดำเนินเรื่องลื่นไหลมาก และการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้งขึ้น ทำให้เรื่องราวของ "คนอมตะ" และการล่าขุมทองในดินแดนหนาวเย็นกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำ โดยเฉพาะการยึดเนื้อหาหลังทั้งหมดเหมือนในมังงะ แม้กระทั้งมุกตลก ซึ่งต้องยอมรับว่ามุกบางทีมันสนุกในมังงะ แต่พอถ่ายทอดเป็นภาพแล้วมันดูขัดๆ ก็ตาม
8/10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
