10 ก.พ. เวลา 10:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

North American T-6 Texan เคยประจำการในกองทัพอากาศไทย โดยถูกใช้เป็นเครื่องบินฝึกขั้นสูง

สำหรับนักบินทหารก่อนจะไปประจำการในเครื่องบินรบที่ซับซ้อนกว่า
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ T-6 Texan ในไทย
ช่วงเวลาประจำการ: ประมาณช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงช่วงทศวรรษ 1970
บทบาทหลัก: ใช้เป็นเครื่องฝึกนักบินและบางครั้งอาจใช้ในภารกิจลาดตระเวนหรือโจมตีเบา
รุ่นที่ใช้: ไทยอาจได้รับทั้ง T-6G Texan ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดจากรุ่นดั้งเดิม
การปลดประจำการ
T-6 ถูกแทนที่ด้วยเครื่องบินฝึกที่ทันสมัยขึ้น เช่น Pilatus PC-9 และ Aero L-39 Albatros
เครื่องบินรุ่นนี้ถือเป็นหนึ่งในเครื่องฝึกยอดนิยมทั่วโลกและมีอิทธิพลต่อการฝึกนักบินทหารของไทยในยุคนั้นครับ
North American T6 texan
North American T-6 Texan เป็นเครื่องบินฝึกขั้นสูงที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกับเครื่องบินฝึกและโจมตีเบาในยุคเดียวกัน เช่น
1. Yakovlev Yak-11 (โซเวียต)
  • 1.
    ​เป็นเครื่องบินฝึกขั้นสูงของกองทัพอากาศโซเวียต พัฒนาในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
  • 2.
    ​ใช้เครื่องยนต์สูบเดียวระบายความร้อนด้วยอากาศคล้าย T-6
  • 3.
    ​ความเร็วสูงสุดประมาณ 460 กม./ชม. (T-6 = 335-340 กม./ชม.)
  • 4.
    ​ถูกใช้โดยหลายประเทศคอมมิวนิสต์ เช่น จีนและเวียดนาม
2. Fiat G.59 (อิตาลี)
  • 1.
    ​เป็นเครื่องบินฝึกที่พัฒนาต่อจาก Fiat G.55 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ในสงครามโลกครั้งที่ 2
  • 2.
    ​ใช้เครื่องยนต์ Merlin คล้าย P-51 Mustang
  • 3.
    ​มีสมรรถนะสูงกว่า T-6 แต่มีบทบาทคล้ายกัน
3. CAC Wirraway (ออสเตรเลีย)
  • 1.
    ​เป็นเครื่องบินฝึกและโจมตีเบาที่พัฒนาโดย Australian Commonwealth Aircraft Corporation (CAC)
  • 2.
    ​ได้รับแรงบันดาลใจจาก North American NA-16 ซึ่งเป็นต้นแบบของ T-6
  • 3.
    ​ใช้ในกองทัพอากาศออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
4. Pilatus P-2 (สวิตเซอร์แลนด์)
  • 1.
    ​เป็นเครื่องบินฝึกที่พัฒนาในยุคเดียวกัน
  • 2.
    ​มีการออกแบบคล้าย T-6 แต่ใช้ระบบลงจอดแบบหางล้อ (taildragger)
แม้ว่า T-6 Texan จะเป็นเครื่องบินฝึกหลักของหลายประเทศ แต่บางประเทศก็พัฒนาเครื่องบินฝึกของตนเองที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกัน เช่น DHC-1 Chipmunk (แคนาดา) ที่เป็นเครื่องฝึกขนาดเล็กกว่า T-6 และใช้แทนกันได้ในบางกรณีครับ
North American T-6 Texan สามารถดัดแปลงเพื่อติดอาวุธได้ และมีการใช้งานจริงในภารกิจรบในหลายประเทศ โดยเฉพาะในบทบาท เครื่องบินโจมตีเบา (Light Attack Aircraft) และ สนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด (CAS - Close Air Support)
ตัวอย่างการใช้งานในภารกิจติดอาวุธ
  • ​T-6G ในสงครามเกาหลี
  • 1.
    ​กองทัพอากาศเกาหลีใต้ใช้ T-6G ติดตั้งจรวดและระเบิดขนาดเล็กในการโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน
  • 2.
    ​T-6G ในสงครามเกาหลี
  • ​กองทัพอากาศเกาหลีใต้ใช้ T-6G ติดตั้งจรวดและระเบิดขนาดเล็กในการโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน
  • ​T-6 ในสงครามแอลจีเรีย
  • 1.
    ​ฝรั่งเศสใช้ T-6 ติดตั้งปืนกล และจรวดเพื่อโจมตีกองกำลังต่อต้าน
  • 2.
    ​T-6 ในสงครามแอลจีเรีย
  • ​ฝรั่งเศสใช้ T-6 ติดตั้งปืนกล และจรวดเพื่อโจมตีกองกำลังต่อต้าน
  • ​T-6 ในสงครามกลางเมืองแองโกลา
  • 1.
    ​กองทัพโปรตุเกสดัดแปลง T-6 เป็นเครื่องบินสนับสนุนการรบ ติดตั้งปืนกล 7.62 มม. และระเบิดขนาดเล็ก
  • 2.
    ​T-6 ในสงครามกลางเมืองแองโกลา
  • ​กองทัพโปรตุเกสดัดแปลง T-6 เป็นเครื่องบินสนับสนุนการรบ ติดตั้งปืนกล 7.62 มม. และระเบิดขนาดเล็ก
  • ​อาวุธที่สามารถติดตั้งได้
  • 1.
    ​ปืนกลขนาด 7.62 มม. หรือ .50 นิ้ว (ติดใต้ปีกหรือตัวเครื่อง)
  • 2.
    ​จรวดอากาศสู่พื้น เช่น HVAR (High Velocity Aircraft Rocket)
  • 3.
    ​ระเบิดขนาดเล็ก (ประมาณ 100-250 ปอนด์)
  • 4.
    ​ถังควันหรือระเบิดแสง (ใช้สำหรับภารกิจนำวิถีให้เครื่องบินรบ)
  • ​แม้ว่า T-6 จะไม่ได้ออกแบบมาเป็นเครื่องบินรบโดยตรง แต่ด้วยความแข็งแรงและความสามารถในการบรรทุกน้ำหนัก ทำให้สามารถดัดแปลงให้ใช้ในการรบได้ในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะในสงครามกองโจรและภารกิจสนับสนุนทางอากาศครับ
North American T-6 Texan เป็นเครื่องบินฝึกที่ออกแบบให้รองรับ นักบิน 2 คน นั่งแบบ เรียงกันตามแนวยาว (tandem seating) คือ นักบินฝึกหัดอยู่ด้านหน้า และ ครูฝึกอยู่ด้านหลัง
หน้าที่ของแต่ละคน
  • ​นักบินฝึกหัด (Student Pilot) – ที่นั่งด้านหน้า
  • 1.
    ​ทำหน้าที่บังคับเครื่องบินตามคำสั่งของครูฝึก
  • 2.
    ​ฝึกบินในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การบินขึ้น-ลง, การบินด้วยเครื่องวัด, การบินผาดแผลงเบื้องต้น
  • 3.
    ​ฝึกใช้งานอุปกรณ์ในห้องนักบิน
  • 4.
    ​หากเป็นภารกิจโจมตีเบา อาจเป็นผู้ควบคุมอาวุธ
  • 5.
    ​นักบินฝึกหัด (Student Pilot) – ที่นั่งด้านหน้า
  • ​ทำหน้าที่บังคับเครื่องบินตามคำสั่งของครูฝึก
  • ​ฝึกบินในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การบินขึ้น-ลง, การบินด้วยเครื่องวัด, การบินผาดแผลงเบื้องต้น
  • ​ฝึกใช้งานอุปกรณ์ในห้องนักบิน
  • ​หากเป็นภารกิจโจมตีเบา อาจเป็นผู้ควบคุมอาวุธ
  • ​ครูฝึก (Instructor Pilot) – ที่นั่งด้านหลัง
  • 1.
    ​ให้คำแนะนำและสั่งการนักบินฝึกหัด
  • 2.
    ​มีระบบควบคุมเสริมที่สามารถบังคับเครื่องแทนนักบินฝึกหัดได้ (dual control)
  • 3.
    ​ตรวจสอบการทำงานของเครื่องบินและแก้ไขข้อผิดพลาดของนักบินฝึกหัด
  • 4.
    ​หากเป็นภารกิจรบ อาจทำหน้าที่นำทางและวิเคราะห์เป้าหมาย
  • 5.
    ​ครูฝึก (Instructor Pilot) – ที่นั่งด้านหลัง
  • ​ให้คำแนะนำและสั่งการนักบินฝึกหัด
  • ​มีระบบควบคุมเสริมที่สามารถบังคับเครื่องแทนนักบินฝึกหัดได้ (dual control)
  • ​ตรวจสอบการทำงานของเครื่องบินและแก้ไขข้อผิดพลาดของนักบินฝึกหัด
  • ​หากเป็นภารกิจรบ อาจทำหน้าที่นำทางและวิเคราะห์เป้าหมาย
  • ​ข้อได้เปรียบของการจัดที่นั่งแบบ Tandem
  • 1.
    ​ช่วยให้ครูฝึกสามารถดูพฤติกรรมของนักบินฝึกหัดได้ชัดเจน
  • 2.
    ​ลดการบดบังทัศนวิสัยด้านข้างและด้านหน้า ทำให้การฝึกมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • 3.
    ​ใช้รูปแบบการจัดที่นั่งเหมือนกับเครื่องบินรบยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งช่วยให้การฝึกสมจริง
  • ​โดยรวมแล้ว T-6 Texan เป็นเครื่องบินฝึกที่ช่วยสร้างนักบินให้พร้อมสำหรับเครื่องบินรบที่ซับซ้อนกว่า เช่น P-51 Mustang, F-86 Sabre หรือแม้แต่เครื่องบินเจ็ตสมัยใหม่ ครับ
ในช่วงที่ North American T-6 Texan ถูกผลิตและจำหน่าย ราคาต่อเครื่องจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต แต่โดยประมาณมีรายละเอียดดังนี้
ราคาของ T-6 Texan ในยุคนั้น
  • ​ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (1940s):
  • 1.
    ​ราคาต่อเครื่องประมาณ 17,000 - 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • 2.
    ​เทียบกับค่าเงินปัจจุบัน (2024) จะอยู่ที่ประมาณ 300,000 - 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • 3.
    ​ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (1940s):
  • ​ราคาต่อเครื่องประมาณ 17,000 - 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ​เทียบกับค่าเงินปัจจุบัน (2024) จะอยู่ที่ประมาณ 300,000 - 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ​ช่วงหลังสงคราม (1950s - 1960s):
  • 1.
    ​รุ่น T-6G ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มีราคาประมาณ 30,000 - 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • 2.
    ​หลายประเทศได้รับเครื่องบินในโครงการช่วยเหลือทางทหาร (Military Assistance Program - MAP) ทำให้ราคาที่กองทัพต้องจ่ายอาจต่ำกว่าราคาตลาด
  • 3.
    ​ช่วงหลังสงคราม (1950s - 1960s):
  • ​รุ่น T-6G ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ มีราคาประมาณ 30,000 - 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ​หลายประเทศได้รับเครื่องบินในโครงการช่วยเหลือทางทหาร (Military Assistance Program - MAP) ทำให้ราคาที่กองทัพต้องจ่ายอาจต่ำกว่าราคาตลาด
  • ​ราคามือสอง (1970s - 1980s):
  • 1.
    ​เมื่อ T-6 ถูกปลดประจำการ ราคาขายต่ออาจอยู่ที่ 5,000 - 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องบิน
  • 2.
    ​ราคามือสอง (1970s - 1980s):
  • ​เมื่อ T-6 ถูกปลดประจำการ ราคาขายต่ออาจอยู่ที่ 5,000 - 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับสภาพเครื่องบิน
  • ​เปรียบเทียบกับเครื่องบินอื่นในยุคนั้น
  • 1.
    ​P-51 Mustang (เครื่องบินขับไล่) → ประมาณ 50,000 ดอลลาร์ ต่อเครื่อง
  • 2.
    ​B-17 Flying Fortress (เครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก) → ประมาณ 250,000 ดอลลาร์ ต่อเครื่อง
  • 3.
    ​Douglas C-47 Skytrain (เครื่องบินลำเลียง) → ประมาณ 88,000 ดอลลาร์ ต่อเครื่อง
  • 1.
    ​สรุปแล้ว T-6 Texan เป็น เครื่องบินฝึกที่มีราคาค่อนข้างถูก และคุ้มค่าในการใช้งาน จึงถูกผลิตออกมามากกว่า 15,000 ลำ และถูกใช้โดยกองทัพหลายประเทศทั่วโลกครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Chat GPT และภาพเครื่องบินสวยๆ จาก พี่ไพบูลย์มากครับ
โฆษณา