สรุป!! งบกระแสเงินสด และข้อสังเกต แบบเข้าใจง่าย 🤔🔍
ถ้าจะเปิดร้านอาหารร้านหนึ่ง “จัดหาเงิน” อาจจะกู้มา หรือขอเงินจากหุ้นส่วน แล้วนำเงินนั้นมา “ลงทุน” เพื่อให้เกิดร้านขึ้นมา ซื้อตึก ซื้ออุปกรณ์ และก็ต้องมีเงินสดหมุนเวียนใน “การดำเนินงาน” ภายในร้าน เพื่อซื้อวัตถุดิบ จ่ายค่าต่างๆ และได้เงินจากลูกค้า
งบกระแสเงินสด แบ่งเป็น 3 กิจกรรม: ดำเนินงาน ลงทุน และจัดหาเงิน และเงินสดที่เข้าบริษัท จะเป็นบวก ส่วนเงินสดที่ออกจากบริษัท เป็นค่าลบ
1. เงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน ดูเฉพาะเงินสดที่เข้าหรือออกที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของธุรกิจ ทำโดยอ้อม เริ่มจาก “กำไรก่อนภาษี” แล้วค่อยนำตัวเลขต่างๆ ที่ไม่ใช่เงินสด และที่ไม่เกี่ยวข้องกับส่วนนี้ มาบวกหรือลบออก เพื่อให้เหลือเฉพาะส่วนที่เป็นเงินสดเข้าออกจริง
ซึ่งเงินสดส่วนนี้จะมีการบวกลับค่าเสื่อมราคาเนื่องจากไม่ได้เงินสดออกไปจริง แต่แฝงอยู่ต้นขาย หรือค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารของงบกำไรขาดทุน และเงินสดส่วนนี้จะมีการปรับปรุงรายการให้เป็นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจตามปกติ ถ้ามีกำไร/ขาดทุนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจตามปกติ จะนำมาปรับปรุง
เงินสดส่วนกิจกรรมดำเนินงาน แบ่งเป็น ก่อน และหลัง การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน คือ การเปลี่ยนแปลงของลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดำเนินงาน ส่วนเจ้าหนี้การค้าเป็นหนี้สินดำเนินงาน
เช่น ต้นงวด มียอดลูกหนี้การค้า 5 ลบ. ต่อมาปลายงวดมียอดลูกหนี้การค้าเพิ่มเป็น 6 ลบ. ก็เหมือนว่า เงินสดเราไปค้างอยู่ที่ลูกหนี้เพิ่ม 1 ลบ. ยังไม่ได้เก็บเงินมา
ดังนั้นเมื่อลูกหนี้การค้า หรือ สินค้าคงเหลือ เพิ่มขึ้นระหว่างงวดจึงเป็นค่า “ลบ” แต่ถ้าลดลงระหว่างงวด ก็จะเป็นค่า “บวก”
ส่วน “เจ้าหนี้การค้า” ต้นงวดมียอดเจ้าหนี้การค้าทั้งหมด 5 ลบ.ต่อมาปลายงวดเรามียอดเจ้าหนี้การค้าลดลงเป็น 4 ลบ. ก็เหมือนว่า เราเอาเงินสดออกไปจ่ายเจ้าหนี้การค้า ยอดเจ้าหนี้ตรงนี้จึงลดลง
เมื่อเจ้าหนี้การค้า ลดลงระหว่างงวดจึงเป็นค่า “ลบ” แต่ถ้าเพิ่มขึ้นระหว่างงวด ก็จะเป็นค่า “บวก”
งบกำไรขาดทุน ควรมีความสอดคล้องกับเงินสดส่วนดำเนินงาน ทำธุรกิจมีรายได้ กำไร ก็ควรมีเงินสดส่วนกิจกรรมดำเนินงานเป็น บวก
ถ้ามีกำไรสุทธิเป็นบวก แต่งบกระแสเงินสดส่วนนี้ติดลบ หรือน้อยกว่ากำไรสุทธิมาก อาจต้องดูว่ามีปัญหาในการเก็บเงินลูกหนี้ หรือมีสินค้าคงเหลือเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ เพราะเงินสดไปค้างในส่วนนี้
2. เงินสดจากกิจกรรมการลงทุน ดูที่เกี่ยวกับการลงทุน เช่น ลงทุนที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ ลงทุนหุ้น/ตราสารหนี้ หรือขายกิจการ ขายเงินลงทุน ดูว่า เอาเงินไปลงทุนอะไรบ้างที่จะช่วยให้กิจการโตได้ในอนาคต ลงทุนมากเกินไปไหม มีเงินสดออกไปลงทุนอย่างมีข้อสังเกตไหม
ระวังบริษัทที่นำเงินออกไปลงทุนก้อนใหญ่ตลอด มากกว่าเงินสดส่วนกิจกรรมดำเนินงานเรื่อย ๆ
3. เงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงิน เช่น ไปกู้เงินมา เพิ่มทุน ใช้หนี้เงินกู้ จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น ควรดุว่า บริษัทแอบไปก่อหนี้อะไรบ้าง
ถ้าไม่มีเงินสดส่วนดำเนินงาน หรือลงทุนใหญ่ตลอด ก็มักจะต้องจัดหาเงินเข้ามาไม่ว่าจะกู้มาหรือเพิ่มทุน ซึ่งเมื่อกู้ยืมมา ก็จะมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น
เมื่อนำเงินสด 3 ส่วนมารวมกัน ได้เงินสดสุทธิ และจะไปกระทบกับเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ในงบดุล
#งบกระแสเงินสด #หมอยุ่งอยากมีเวลา #งบการเงิน #หุ้น
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
