11 ก.พ. เวลา 04:30 • ไลฟ์สไตล์

ทำไมต้องให้ช็อกโกแลต วันวาเลนไทน์ เปิดที่มา พร้อมประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!

เคยสงสัยไหมว่าทำไม "ช็อกโกแลต" ถึงได้กลายเป็นขนมหวานที่ถูกมอบเป็นของแทนใจ ไขที่มาของ "วันวาเลนไทน์" ทำไมต้อง 14 กุมภาพันธ์
ทำไมถึงนิยมมอบช็อกโกแลตให้กันในวันวาเลนไทน์?
ช็อกโกแลต กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการบอกรัก และการส่งมอบความปรารถนาดีให้แก่กัน ซึ่ง ช็อกโกแลต มีประวัติมายาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 3 แห่งโรมัน เนื่องจากในยุคดังกล่าวจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ชายชาวโรมันสมรส เพราะต้องการเกณฑ์ผู้ชายไปรบต่อสู้ข้าศึกโดยที่ไม่ต้องมีห่วงกังวลใด ๆ ถึงขนาดใครฝ่าฝืนจะมีโทษประหารชีวิต ด้วยเหตุความรักที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ นี้ ทำให้การเจอกันเป็นเรื่องยาก จึงนิยมมอบของขวัญแทนใจแทนความรัก ซึ่งก็คือช็อกโกแลต
นักบุญ “วาเลนไทน์” ที่ช่วยชายหญิงลักลอบจัดพิธีแต่งงาน โดนจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 สั่งประหารชีวิต
ที่มาของ "วันวาเลนไทน์" วันแห่งความรักที่แลกมาด้วยความเศร้า
อย่างไรก็ตามมีชายหญิงหลายคู่ลักลอบแอบจัดพิธีสมรสกันโดยมีนักบุญที่ชื่อว่า “วาเลนไทน์” ทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบพิธีแต่งงานให้ ต่อมาภายหลังจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ทราบข่าว จึงได้สั่งประหารชีวิตนักบุญวาเลนไทน์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงเป็นที่มาของวันระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ก่อนพัฒนามาเป็น วันแห่งความรัก, สารภาพรัก และบอกรัก จนถึงปัจจุบัน
การที่ช็อกโกแลตเคยเป็นสัญลักษณ์ของ เสรีภาพ มิตรภาพ และสันติภาพ ในช่วงที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง อาจมาจากการที่ช็อกโกแลตนั้น สามารถช่วยกระตุ้นอารมณ์รักได้ด้วย เพราะมีเรื่องเล่าขานกันมาว่า นายมองเตชูมา นักรบผู้พิชิตแห่งสเปน มักจะดื่มช็อกโกแลตเป็นประจำเสมอ ก่อนไปหาเหล่าสาว ๆ ในฮาเร็มของเขา ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้ช่วยกระตุ้นอารมณ์รักนั่นเอง
บริษัทขนมญี่ปุ่น ทำแคมเปญการตลาด ให้ผู้หญิงมอบช็อกโกแลตให้ฝ่ายชาย
การมอบช็อกโกแลตกลายเป็นธรรมเนียมของญี่ปุ่น
ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์นั้น ได้ถูกจัดเป็นธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว และจะต้องเป็นฝ่ายหญิงที่ต้องเป็นผู้มอบช็อกโกแลตให้กับฝ่ายชายเท่านั้น โดยธรรมเนียมนี้เกิดขึ้นจาก การที่บริษัทขนมญี่ปุ่น Mary Chocolate ได้นำเอาเทศกาลวันวาเลนไทน์มาทำเป็นแคมเปญการตลาดเพื่อส่งเสริมการขาย โดยเชิญชวนให้ฝ่ายหญิง มาซื้อช็อกโกแลตเพื่อไปมอบให้ฝ่ายชาย โดยใช้ข้อความว่า "เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในรอบ 1 ปี ที่ผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นฝ่ายแสดงความในใจให้กับชายที่ตนรัก"
และต่อมา บริษัทขนมญี่ปุ่นอย่าง Morinaga ไปจนถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องต่างๆ ก็ได้ออกแคมเปญทำนองนี้เช่นกัน จนกลายมาเป็นธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้
ในปัจจุบัน การมอบช็อกโกแลตของชาวญี่ปุ่น ไม่จำเป็นต้องมอบให้เฉพาะคนรักหรือคนที่แอบชอบเท่านั้น ยังสามารถมอบให้ในฐานะอื่น ๆ ได้อีกด้วย และไม่ใช่เพียงแค่ฝ่ายหญิงที่มอบให้ฝ่ายชายเท่านั้น แต่ฝ่ายชายก็ยังคงต้องมอบกลับให้ฝ่ายหญิงด้วย โดยในวันที่ 14 มีนาคม จะเป็นวัน "ไวท์เดย์ (White Day)" คือวันที่ฝ่ายชายจะเป็นผู้มอบของขวัญเป็นการตอบแทนฝ่ายหญิง
นักวิจัยพบว่า ในดาร์กช็อกโกแลต มีสารทีโอโบรมีน ที่สามารถออกฤทธิ์แก้ไอ
ประโยชน์ของช็อกโกแลตที่ดีต่อสุขภาพ
จากกงานวิจัย ดาร์กช็อกโกแลตที่มีเปอร์เซ็นต์ของโกโก้อย่างน้อย 70% ขึ้นไป จะมีผลดีต่อสุขภาพ เนื่องจาก Dark Chocolate มีระดับฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมาก ซึ่งเป็นสารเสริมสร้างสุขภาพของหัวใจ ช่วยให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น และยังช่วยลดอาการอุดตันของหลอดเลือดอีกด้วย ส่วน White Chocolate ถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่า การที่มีส่วนประกบของนมอาจเป็นตัวที่ขัดขวางการดูดซับฟลาโวนอยด์
นอกจากนี้ในงานวิจัยยังระบุอีกด้วยว่าควรกิน Dark Chocolate ในปริมาณเทียบเคียงกับระดับแคลอรี่ที่เราทานในแต่ละวัน โดยที่ Dark Chocolate 100 กรัมให้พลังงาน 500 แคลอรี่
นอกจากนี้นักวิจัยพบว่า ในดาร์กช็อกโกแลต มีสารทีโอโบรมีน ที่สามารถออกฤทธิ์แก้ไอ ได้ดี แต่ถ้าอยากกินดาร์กช็อกโกแลตเพื่อแก้ไอ ควรค่อย ๆ เคี้ยวทีละนิดแล้วกลืน เพื่อให้ผงโกโก้ไปเคลือบตรงช่วงคอ จึงสามารถลดอาการไอได้ และลดอาการซึมเศร้า ดาร์กช็อกโกแลตมีสารเซโรโทนินโดพามีน และฟีนิลไทลามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ค่ะ และยังมีสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โมโนเอมินเอ็กซิเดส
ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับยาต้านโรคซึมเศร้านั่นเอง ทำให้สารสื่อประสาทต่าง ๆ สามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ความคิดแจ่มใสขึ้นไปด้วยนั่นเอง
ข้อแนะนำสำหรับการกิน Dark Chocolate
ถึงแม้ว่า Dark Chocolate จะมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ก็ยังมีน้ำตาลและนมผสมอยู่บ้าง จึงควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกิน 100 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ ผู้ที่ป่วยเป็นไมเกรน และโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการกินดาร์กช็อกโกแลตจะดีกว่า เพราะว่าดาร์กช็อกโกแลตมีสารเคมีที่ชื่อ ไทรามีน ที่จะยิ่งกระตุ้นอาการปวดไมเกรนให้หนักขึ้นกว่าเดิม และมีกรดออกซาลิกสูง ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : http://pptv36.news/17JE
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา