11 ก.พ. เวลา 05:08 • ปรัชญา
แยกกลุ่มคนที่เข้ามาหากินในพระศาสนาออกไปก่อน กลุ่มนี้รับเงินรับทอง รับของถวายที่เกินจำเป็น กินหรูอยู่สบาย มีความเป็นอยู่ซ่อนเร้น เราจะสังเกตุเห็นได้โดยง่าย คิดว่าคงจะอยู่นอกคำถาม (นักล้วงกระเป๋าผู้อื่น)
จะมีอีกกลุ่มหนึ่ง ขนาดใหญ่มาก พวกนี้เขาไม่ได้รับประโยชน์อะไร ทั้งตัวเขาเอง ทั้งญาติพี่น้อง ก็ไม่มีใครได้รับประโยชน์
พวกชอบอวดอ้าง ไม่ทนต่อการซักถาม
คนพวกนี้สังเกตุได้จากความรู้ที่เขาพูดออกมาจะไม่มีที่มา ไม่มีที่ไป, ไม่ทนต่อการซักถาม, ถ้าถามมากเกินไปเดี๋ยวก็หงุดหงิด, ชอบที่สุดคือการพูดอยู่ฝ่ายเดียว
พวกพูดอย่างทำอย่าง
ตัวเองอยู่บ้าน นอนห้องแอร์แสนสบาย แต่บอกให้คนอื่นไปอยู่ป่า
พวกหลบเลี่ยงพุทธพจน์ เพราะตัวเองไม่มีความสามารถปฏิบัติตามได้ พวกนี้สนธนาธรรมกันครึ่งค่อนวัน ก็ไม่มีคำว่า มรรค หรือคำว่า อริยสัจ
พวกถือวาทกรรม
พูดสวยหรู พูดบ่อย แต่ที่แท้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดเรื่องอะไรกันแน่
พวกเกาะเปลือกไม้ แต่เข้าใจไปเองว่า ตัวได้เข้าถึงแก่นแล้ว
พวกเรียงลำดับใหม่
จาก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
กลายเป็น พระอาจารย์ ตัวกู ตัวกู
จาก ศีล สมาธิ ปัญญา
กลายเป็น หลับตา ทำบุญ ท่องคาถา
1
พวกศีลขาด
ความเป็นอยู่ลามาก พูดจาลามก ไม่แยแสมารยาท
พวกไม่กลัวบาป
พระพุทธเจ้าสอนอย่างหนึ่ง เอาไปพูดให้เป็นไปอีกอย่างหนึ่ง
พวกไม่เอาชาตินี้ จะเอาชาติหน้าอย่างเดียว
ควักกระเป๋าเท่าไหร่ก็ได้ เพื่อชาติหน้า
ๆลๆ
ดูคนให้ดูที่ความสะอาด เป็นแบบนี้
คนเดินตามพระพุทธเจ้า เป็นแบบนี้
โฆษณา