ปรากฏการณ์ใหม่ ละครสั้นจีน 90 วิกวาดเงินหมื่นล้าน กำลังบุกตลาดโลก ทำไมคนดูยอมจ่าย โตไวจนแซงหนังโรง
ละครสั้นจากประเทศจีนกวาดรายได้กว่า 5.04 หมื่นล้านหยวน หรือราว 6.91 พันล้านดอลลาร์ ด้วยกลยุทธ์ทำให้คนดูติดละครแล้วยอมจ่ายเงินเพื่อดูต่อ จากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกล่าวว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนกว่าครึ่งหนึ่งกำลังรับชมละครสั้น และมากกว่า 1 ใน 3 ของพวกเขาดูละครสั้นทุกวัน ทำให้การแข่งขันภายในประเทศสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตละครสั้นกำลังหลีกเลี่ยงการแข่งขันในจีนและมองหารากฐานใหม่ที่จะขยายธุรกิจไปทั่วโลก
Mini Soap Opera หรือ ละครสั้น คือสื่อแบบใหม่ที่กำลังมาแรงจากจีนซึ่งแตกต่างจากคลิป TikTok ที่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่คอนเทนต์เช่น การทำชาเลนจ์ (Challenge) หรือการเต้นและลิปซิงค์ โดยละครสั้นเป็นซีรีส์ที่ผลิตโดยมีโครงเรื่องที่ชัดเจน และการหักมุมที่น่าติดตามเช่นเดียวกับละครทั่วไป แต่เนื้อหาของละครสั้นมีความยาวเพียงแค่ 60 ถึง 90 วินาที ในขณะที่ซีรีส์อาจยาวมากกว่า 50 ตอน ดึงดูดคนดูด้วยกลยุทธ์ทำให้ติดละครแล้วยอมจ่ายเงินเพื่อดูต่อในแอปพลิเคชัน
จากกระแสตอบรับที่น่าพอใจและทำให้รายได้ของอุตสาหกรรมละครสั้นพุ่งทะยานเพิ่มขึ้น 35% สู่ 50,440 ล้านหยวน (6,910 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีที่ผ่านมา และสามารถแซงรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศของจีนได้ แต่ยิ่งได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ ต้นทุนก็สูงมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเหล่าผู้ผลิตละครสั้นจึงพยายามหลีกหนีการแข่งขันที่ดุเดือดภายในประเทศและเล็งเป้าไปยังการขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น และวางรากฐานการผลิตในสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะสามารถประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับที่ TikTok เคยทำ
ปรากฏการณ์ใหม่ ละครสั้นครองใจผู้ชมทั่วโลก
“ละครสั้น” ของประเทศจีนเริ่มขึ้นในปี 2018 หลังจาก TikTok เปิดตัวไม่นาน บริษัทต่าง ๆ เช่น Kuaishou Technology และ Tencent Holdings ได้ดึงดูดผู้ชมวัยหนุ่มสาวหลายสิบล้านคนที่ชอบเลื่อนหน้าจอเพื่อหาคอนเทนต์ใหม่ๆ, วิดีโอที่กำลังเป็นกระแส และต้องรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการรับสารของผู้บริโภคที่ชอบเสพสื่อเนื้อหาสั้นและเข้าใจได้ง่าย
หนึ่งในละครสั้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2023 คือ "The Double Life of My Billionaire Husband" ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 100 วินาทีในการดำเนินเรื่อง ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ภายในระยะเวลาที่สั้นขนาดนี้
“ผมคิดว่าละครสั้นจะกลายเป็นรูปแบบความบันเทิงที่โดดเด่น และอาจแซงตลาดภาพยนตร์ดั้งเดิมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า” Joey Jia ซีอีโอของ ReelShort ที่เป็นผู้ผลิตละครสั้น "The Double Life of My Billionaire Husband" กล่าว
จากความนิยมที่พุ่งสูงทำให้รายได้จากอุตสาหกรรมละครสั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 35% ในปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการขายโฆษณาบวกกับการใช้จ่ายของผู้ชมจนสามารถแซงรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศของจีน
จากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกล่าวว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนกว่าครึ่งหนึ่งกำลังรับชมละครสั้น และมากกว่าหนึ่งในสามของพวกเขาดูละครสั้นทุกวัน
“จีนมีห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งสำหรับละครสั้น ไม่มีที่ไหนในโลกที่สามารถแข่งขันได้ สิ่งที่เราทำคือการมอบความสุขให้กับผู้คน ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าและความถี่ที่สูงขึ้น” Reeves Deng อดีตนักลงทุนจากเซินเจิ้นผู้ก่อตั้งบริษัท Luckyshort กล่าว
แม้ว่าในปัจจุบันผู้ผลิตในจีนสามารถผลิตละครสั้นใหม่ได้ถึง 5,000-8,000 เรื่องต่อปี ซึ่งมากกว่า 10 เท่าของจำนวนที่ผลิตในส่วนอื่น ๆ ของโลก ตามรายงานจากเติง ขณะเดียวกัน จำนวนบริษัทใหม่ที่ลงทะเบียนเพื่อทำธุรกิจละครสั้นในปี 2024 ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ย่อมมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเช่นกัน แต่ละครเหล่านี้ยังคงมีต้นทุนการผลิตเพียงไม่กี่หมื่นดอลลาร์ ซึ่งนับว่าต่ำกว่าราคาที่ต้องจ่ายในการผลิตรายการทีวีทั่วไปแต่พวกเขาสามารถสร้างรายได้หลายล้านดอลลาร์จากการขายโฆษณาและการเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ชมเพื่อดูตอนที่เหลือได้ ซึ่งนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลเป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันคนนิยมใช้เงินเพื่อซื้อความสะดวกสบาย
จีนมุ่งขยายตลาดละครสั้นออกนอกประเทศ หลังการแข่งขันในประเทศสูงมากเกินไป
จากการแข่งขันภายในประเทศที่ดุเดือดทำให้หลายบริษัทใหญ่ในวงการละครสั้นกำลังมองหาตลาดต่างประเทศเพื่อขยายธุรกิจและหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์ในประเทศ ซึ่งการเติบโตของแพลตฟอร์มเหล่านี้ทำให้เหล่าผู้เล่นรายใหญ่ (China’s biggest players) ในอุตสาหกรรมสตรีมมิ่งภาพยนตร์และทีวีของจีนต้องปรับตัวให้เข้ากับการผลิตสื่อในรูปแบบสั้น
เช่น iQiyi และ Tencent ซึ่งเป็นตัวแทนของ Netflix และ Hulu ในจีน ก็เริ่มที่จะจัดทำลิขสิทธิ์ละครสั้นสำหรับลูกค้าในประเทศและผู้ชมต่างประเทศเพื่อขยายตลาดให้กว้างมากขึ้น เช่นเดียวกันกับ ShortMax แอปพลิเคชันละครสั้นที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในโลกกำลังขยายตัวในเอเชียด้วยเนื้อหาที่มีการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ
ขณะที่ Mega Matrix แพลตฟอร์มที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ตั้งเป้าขยายเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลาง เช่นเดียวกับ Tving จากเกาหลีใต้ JioCinema จากอินเดีย และ Vidio แพลตฟอร์มวิดีโอท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียก็เตรียมปล่อยเนื้อหาละครสั้นออกสู่ตลาด โดยผู้บริหารในอุตสาหกรรมคาดว่าตลาดละครสั้นต่างประเทศจะเติบโตถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
ผู้เล่นจากจีนจำนวนมากกำลังตั้งฐานการผลิตในสหรัฐฯ โดยหวังจะสร้างความสำเร็จแบบเดียวกับ TikTok โดยผู้ผลิตละครสั้นทั้งหลายนั้นมีแผนที่จะทำงานร่วมกับนักแสดงที่สามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมต่างประเทศมากขึ้น และบริการสตรีมมิ่งละครสั้นเหล่านี้ใช้การดึงดูดผู้ชมจากแพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, X และ TikTok โดยให้ผู้บริโภคชมตอนละหนึ่งนาทีก่อนจะนำพวกเขาให้เข้าสู่แพลตฟอร์มของตัวเอง
แม้จะมีการแข่งขันในตลาดที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้ผลิตละครสั้นก็ยังคงไม่ย่อท้อ พวกเขากล่าวว่า “ผู้คนต้องการบริโภคเนื้อหานี้ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับการใช้เวลาหลายชั่วโมงดูภาพยนตร์ในโรงหนัง และละครสั้นนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถบริโภคเนื้อหาได้ในเวลาสั้นๆ ได้” Nan Yapeng รองประธานที่ Crazy Maple Studio กล่าว
ที่มา: Bloomberg
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney
- 76
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
