Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ร้อยเรื่องหลากมุมกับ ภก.ปราโมทย์
•
ติดตาม
11 ก.พ. เวลา 16:18 • สุขภาพ
ไข้อีดำอีแดง อันตรายที่มากกว่าไข้หวัด
มีเพื่อนๆจากหลายโรคพยาบาลพูดถึงเรื่องไข้อีดำอีแดง ว่าพบผู้ป่วยในวอร์ดเด็กมากขึ้น จึงคิดว่าน่าสนใจและนำมาชวนคุยในวันนี้
หลายครั้งเรามักพูดว่า ไข้หวัดมักเกิดจากเชื้อไวรัส และสามารถหายเองได้ร่วมกับการดูแลรักษาแบบประคับประคองเพื่อบรรเทาเอาการ แต่สำหรับกรณีของไข้อีดำอีแดงนี้ มีธรรมชาติของการเจ็บป่วยที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
โรคไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย Streptococcus pyogenes หรือที่เรียกกันว่า Group A Streptococcus (GAS) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกับที่ก่อให้เกิดโรคคออักเสบจากแบคทีเรีย (Strep throat) โรคนี้มักพบในเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี และสามารถแพร่กระจายผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
โดยเชื้อ Streptococcus pyogenes ผลิตสารพิษ (Erythrogenic toxin) ซึ่งทำให้เกิดผื่นแดงทั่วร่างกาย โรคนี้สามารถแพร่กระจายผ่านทางการสัมผัสละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ รวมถึงการสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น เครื่องใช้ส่วนตัวหรือของเล่น อาการของไข้อีดำอีแดงมักเริ่มต้นภายใน 2-4 วันหลังจากได้รับเชื้อ โดยมักทำให้เกิดไข้สูง เจ็บคอ มีผื่นแดงปรากฏที่ลำคอ หน้าอก และลามไปทั่วร่างกาย ผิวหนังบริเวณที่เป็นผื่นจะมีลักษณะคล้ายกระดาษทราย
นอกจากนี้อีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญของโรคไข้อีดำอีแดง คือ ลิ้นสีแดงสด หรือที่เรียกว่า "ลิ้นสตรอว์เบอร์รี" (Strawberry tongue) ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของการติดเชื้อ Group A Streptococcus (GAS)
ที่บอกว่าไข้อีดำอีแดงแตกต่างจากโรคไข้หวัดอื่นๆในเด็กก็คือ การติดเชื้อ Group A Streptococcus (GAS) อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงอย่างไข้รูมาติก (Rheumatic fever) ซึ่งเป็นภาวะอักเสบที่เกิดจากการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ Streptococcus pyogenes หรือ Group A Streptococcus (GAS) ในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง โดยเฉพาะโรคลิ้นหัวใจรูมาติก (Rheumatic heart disease)
โรคดังกล่าวทำให้เกิดภาวะหัวใจอักเสบ (Carditis/Pancarditis), อักเสบที่ข้อต่อ (Migratory Polyarthritis),ผื่นผิวหนัง (Erythema Marginatum) เป็นต้น ซึ่งเป็นโรคแทรกซ้อนรุนแรงของไข้อีดำอีแดง
เด็กที่ติดเชื้อ Group A Streptococcus (GAS) จึงควรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการรักษาตามอาการ โดยให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัย เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการรักษาและป้องกันเชื้อดื้อยา หากท่านใดมีบุตรหลายที่มีอาการคล้ายๆกับที่ผมเล่ามา ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมต่อไป
อ้างอิง
https://www.cdc.gov/groupastrep/diseases-public/scarlet-fever.html
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK333425/
สุขภาพ
ความรู้รอบตัว
3 บันทึก
9
2
3
3
9
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย