Wrong Place Wrong Time ตื่นมาอีกทีในวันที่ไม่มีใครตาย
Wrong Place Wrong Time แปลไทยโดย น้ำพุสำนักพิมพ์ ในชื่อ #ตื่นมาอีกทีในวันที่ไม่มีใครตาย เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ "เจ็น" ทนายความสาววัยสี่สิบกว่าที่กลายเป็นพยานในเหตุการณ์ที่ "ท็อดด์" ลูกชายวัยรุ่นของเธอแทงชายแปลกหน้าคนหนึ่งเสียชีวิตบนถนนหน้าบ้าน ท็อดด์เป็นเด็กเนิร์ดฟิสิกส์ที่อนาคตไกล ไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะดับอนาคตของตัวเองด้วยการสังหารใครก็ไม่รู้ ท็อดด์ถูกจับกุมทันทีหลังก่อเหตุ เจ็นและ "เคลลี" สามีของเธอถูกตำรวจปฏิเสธการเข้าพบลูกจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้
แต่เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เจ็นกลับพบว่าลูกชายของเธออยู่ที่บ้าน ในห้องนอนของเขาเอง เมื่อเจ็นถามถึงเรื่องคดี ทุกคนก็ดูจะไม่เข้าใจว่าเธอพูดเรื่องอะไร นั่นก็เพราะเธอได้ตื่นขึ้นมาในวันก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น และหลังจากนั้นทุกคืนที่เข้านอน เจ็นจะถอยหลังไปในอดีตมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่เหมือนปาฏิหาริย์นี้ทำให้เธอมีความหวังว่าจะสืบพบเบาะแสเกี่ยวกับแรงจูงใจของท็อดด์ และยับยั้งอาชญากรรมที่จะทำลายครอบครัวของเธอได้
ทว่าการย้อนกลับไปในอดีตครั้งนี้ทำให้เจ็นตระหนักว่ามีบางสิ่งที่เธอมองข้ามมาตลอดชีวิต ความลับดำมืดที่ถูกซุกซ่อนไว้ภายใต้ท่าทางแสนธรรมดา ความจริงที่จะสั่นคลอนทุกสิ่งที่เธอเคยเชื่อ และต่อให้เธอรู้แล้วในตอนนี้ เธอก็ไม่อาจจัดการอะไรได้ตามใจ เพราะการย้อนเวลานี้ไม่มีกฎตายตัว เจ็นไม่มีทางรู้เลยว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่ในอดีต และทุกการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ในอนาคตที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ต้องยอมรับเลยว่านักเขียนคนนี้มีของ คือพล็อตแบบนี้มันน่าสนใจแต่การจะถ่ายทอดให้ออกมาสนุกนั้นทำได้ยาก เพราะจะต้องสอดแทรกกฎของการย้อนเวลาที่ใช้เป็นแกนหลักไปพร้อมๆกับการดำเนินเรื่องหลัก ซึ่งส่วนตัวมองว่าจุดนี้ค่อนข้างทำได้ดี หนังสือจะทำให้คนอ่านต้องลุ้นก่อนว่าเจ็นจะต้องย้อนไปจนถึงเมื่อไหร่ ซึ่งในตอนที่อ่านเราจะพบว่าบางครั้งเจ็นก็ย้อนเวลาไปทีละวัน แต่บางครั้งก็กระโดดข้ามไปเป็นสัปดาห์หรือเป็นปี นั่นแปลว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่ในวันที่เฉพาะเจาะจงเหล่านั้นแน่นอน
อีกเรื่องคือการทิ้งปมที่พลิกไปพลิกมา ทำให้จับทางได้ยากเพราะมันมีความเป็นไปได้หลายแบบมาก โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องราวของ "ไรอัน" ตัวละครลับอีกตัวที่ถูกนำมาเล่าสลับกับเรื่องราวในฝั่งของเจ็น ไรอันเป็นตำรวจไฟแรงที่มีพี่ชายทำงานผิดกฎหมาย และ (ขอแอบสปอยล์เล็กๆตรงนี้) เป็นตำรวจคนเดียวกันกับที่เจ็นพบตราตำรวจของเขากองอยู่ในห่อเดียวกันกับของน่าสงสัยชิ้นอื่นๆในบ้านของเธอ แต่เมื่อเธอลองสืบดูกลับพบว่าไรอันเสียชีวิตไปแล้ว
เนี่ย! อ่านแค่นี้ก็น่าสนใจสุดๆแล้ว!! 😆 แต่จะบอกว่าความเข้มข้นของเนื้อเรื่องไม่ได้มีแค่นี้ เพราะมันดุเดือดขึ้นทุกหน้าแบบไม่มีแผ่ว เรียกได้ว่าลุ้นกันจนกระทั่งหน้าสุดท้ายเลย ใครยังไม่มีไปจัดกันได้ คอนิยายหักมุมน่าจะถูกใจอยู่นะ https://s.shopee.co.th/8Uu1e89B9l
การแสร้งเป็นอาชญากรมันต่างกับการเป็นอาชญากรตรงไหนกันล่ะ
แต่นอกจากความพีคของความจริงที่เจ็นได้เจอจากการย้อนเวลา มองลงไปลึกๆแล้วเรื่องนี้มันขมใช้ได้เลยนะ มันคือเรื่องของการละทิ้งตัวตนเพื่อบางสิ่งบางอย่าง จนในที่สุดก็หลงลืมไปว่าหน้าตาที่แท้จริงของตัวเองเป็นอย่างไร การต้องใช้ชีวิตอยู่กับคำลวงนั้น เป็นธรรมดาที่ผู้ที่ถูกหลอกจะรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกหักหลัง แต่ในอีกแง่หนึ่งผู้ที่โกหกเองก็อาจต้องทุกข์ทนกับความลับที่ตนปกปิดไว้ไปตลอดชีวิตเช่นกัน
ชื่อของพวกเขาเปลี่ยนไป แต่ความรักของพวกเขายืนหยัดอยู่ได้
การกระทำของเจ็นส่งผลให้ชีวิตครอบครัวของพวกเธอเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเล็กน้อย นั่นทำให้เจ็นได้ตระหนักว่า "ความรักที่แท้จริง" นั้นมีพลานุภาพที่แข็งแกร่งกว่าสิ่งใดในโลก เพราะถึงแม้สิ่งต่างๆจะเปลี่ยนไป แต่สุดท้ายความรักก็จะชักนำให้คนสองคนที่ถูกลิขิตให้ต้องคู่กัน วนเวียนมาพบกันด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งจนได้ แถมประโยคนี้ยังเป็นการแอบเฉลยปริศนาอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครไขได้ในไทม์ไลน์เก่าอีกด้วยนะ 😉
I would burn in hell to keep you safe
ไมเคิล คอร์เลโอเน (Godfather III)
ความจริงที่เราได้จากเรื่องนี้คือ ต่อให้คุณมีอุดมการณ์แรงกล้าแค่ไหน เมื่อถึงคราวที่ต้องเลือก คนแทบทุกคนจะเลือกคนที่เรารักมากกว่าการปกป้องโลกเสมอ เรายอมทำสิ่งที่รู้ว่าผิด หันหลังให้ความเชื่อของตัวเอง กลายเป็นคนในแบบที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็น ทั้งหมดนี้เพียงเพื่อต้องการให้คนที่รักมีความสุขและปลอดภัย
ตัวละครแทบทุกตัวในนิยายเล่มนี้เป็นแบบนั้นเลย พวกเขาไม่ได้ขาวสะอาด พวกเขาล้วนทำสิ่งที่เลวร้าย แต่ทุกอย่างที่ทำลงไปก็เพราะรัก อาชญากรตัวเป้งจะรอดตัวไปได้ก็ไม่เป็นไรถ้าครอบครัวฉันยังอยู่ ฉันจะทำผิดจริยธรรมของอาชีพก็ไม่เป็นไรถ้าลูกฉันไม่ต้องอด ฉันจะต้องกลายเป็นคนชั่วก็ไม่เป็นไรถ้าฉันจะปกป้่องคนที่รักเอาไว้ได้ นี่แหละคือความจริงของโลกนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
