การนำ AI มาใช้ในธุรกิจ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มการเงินการธนาคารเท่านั้น เพราะนอกจากการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลการเงินและการจัดการการลงทุนแล้ว AI ยังสามารถใช้ในเชิง Healthcare Innovation ได้ เช่น การวิเคราะห์ภาพถ่ายทางการแพทย์หรือฟิล์มเอกซ์เรย์ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคและติดตามสุขภาพผู้ป่วย
แม้ว่าการนำ AI มาใช้ในธุรกิจจะส่งผลให้มีการเลิกจ้างพนักงานบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า AI ก็สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานได้เช่นกัน โดยข้อมูลจาก Work Trend Index ของ Microsoft พบว่า 78% ของพนักงานในธุรกิจ SME ตัดสินใจนำ AI เข้ามาใช้ในการทำงาน โดย 90% ของพนักงานให้เหตุผลว่า AI ช่วยประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้น และ 85% บอกว่าพวกเขาสามารถเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่าได้
จะเห็นได้ว่าธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่หรือเล็กก็สามารถนำ AI เข้ามาปรับใช้ในองค์กรได้ ขอเพียงเลือกใช้ให้เหมาะสม จากวิกฤต AI Disruption ก็จะกลายเป็นโอกาสแห่ง Digital Transformation ซึ่งในมุมมองของนักลงทุนแล้ว การที่ทุกคนหันมาใช้ AI ย่อมเป็นโอกาสการลงทุนในเทคโนโลยีนี้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจต้นน้ำของ AI อย่างเซมิคอนดักเตอร์ ธุรกิจกลางน้ำอย่างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ไปจนถึงธุรกิจปลายน้ำอย่างผู้พัฒนาแอปพลิเคชันและซอฟต์แวร์
ทั้งนี้ ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากการนำ AI เข้ามาใช้งาน คือกลุ่มธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตัวเองในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะกลุ่มที่นำ AI และ Machine Learning (ML) มาปรับใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไปจนถึงการปรับโครงสร้างองค์กรในลักษณะ Digital Transformation ซึ่งในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุน Wellington Global Innovation ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ B-GTO ได้เข้าลงทุนในกลุ่มธุรกิจนี้ เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต