13 ก.พ. เวลา 05:35 • ข่าว

ทรัมพ์ ดับฝัน เซเลนสกี้ ที่อาจต้องเสียดินแดนถาวร และไม่ได้เข้า NATO

ถัดจากสงครามในกาซ่า จุดหมายต่อไปที่โดนัลด์ ทรัมพ์ ต้องการบริหารทักษะ "The Art of Deal" ของตัวเอง ก็คือสงครามยูเครน โดยล่าสุด มีรายงานข่าวว่า ทรัมพ์เตรียมตัวที่จะไปเจอกับ วลาดิมีร์ ปูติน หลังจากที่โทรคุยกับ เซเลนสกี้ แล้ว เพื่อจบสงคราม 3 ปีกับรัสเซีย
ซึ่งสิ่งที่เซเลนสกี้ต้องการ เดาได้ไม่ยาก เขาอยากได้ดินแดนที่รัสเซียยึดไป คืนมา พร้อมแผนงบประมาณการฟื้นฟูประเทศ และ ต้องการปลดแอกจากรัสเซียไปร่วมเป็นพันธมิตรกับชาติตะวันตกเต็มตัว นั่นคือการเข้าร่วม NATO และ EU ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่รัสเซียยืนยันหนักแน่นว่า "ให้ไม่ได้"
แต่เมื่อ โดนัลด์ ทรัมพ์ ที่แบกตำแหน่งผู้นำสหรัฐใหญ่เท่าโลก ออกหน้าที่จะเป็นคนกลางแล้ว สำหรับศิลปะในการเจรจา ต้องพยายามถอนธงที่ทั้ง 2 ฝ่ายปักไว้ว่า "ให้ไม่ได้" หรือ "ยอมไม่ได้" เอาออกไปก่อน แล้วถอยกลับมามองใหม่ว่า อะไรที่ให้ได้ แล้วอะไรที่ให้ไม่ได้
1
ซึ่งประเด็นที่ทรัมพ์ จะเอาไปคุยกับปูติน ก็สะท้อนผ่านถ้อยคำของ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมคนล่าสุดในรัฐบาลทรัมพ์ 2 ที่ร่วมหารือในวงประชุม NATO เมื่อวันพุธ (12 ก.พ. 25) ที่ผ่านมาว่า สหรัฐต้องการให้สงครามระหว่างยูเครน และ รัสเซีย ต้องจบ! บนพื้นฐานของความเป็นไปได้
1
แม้พีท เฮกเซธ จะไม่ได้ระบุว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นไปได้ แต่มันก็มีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ก็คือ การคืนดินแดนให้ยูเครนอย่างที่เคยเป็น ก่อนปี 2014 และการเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ของยูเครน
2
ทำให้เราได้รู้ว่าการทวงดินแดนคืนของ ที่เซเลนสกี้เปิดไว้เป็นเงื่อนไขในการยุติสงครามนั้น รัสเซียต้องคืนดินแดนที่ยึดไปจนถึงส่วนของคาบสมุทรไครเมีย ที่ถูกผนวกรวมเป็นของรัสเซียไปในปี 2014 ผ่านการลงประชามติ และเป็นส่วนที่ทรัมพ์มองว่า "ไม่สมเหตุผล" เช่นเดียวกับการที่ยูเครน จะเข้า NATO เช่นกัน
2
นอกจากนี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ยังพูดตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อมในที่ประชุมว่า สหรัฐจะไม่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงในยุโรป และ ยูเครน เป็นอันดับต้นๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะรัฐบาลทรัมพ์ต้องเอาเวลาไปป้องกันดินแดนตนเอง และ ทำสงครามการค้ากับจีน
 
และย้ำด้วยว่า สหรัฐจะไม่เกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน และจะไม่ส่งทหารสหรัฐเข้าไปในยูเครนด้วย นั่นเป็นหน้าที่ของกองกำลังของยุโรป หรือ นอกยุโรปก็ได้ แต่สหรัฐไม่เชื่อว่าการที่ยูเครนเข้ามาใน NATO จะให้ผลลัพธ์ที่สมเหตุผลในการบรรลุข้อตกลงในการเจรจา
3
ชัดเจนมาก จะให้ชัดกว่านี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว โดยชาติสมาชิก NATO ส่วนใหญ่นั้นเห็นด้วยว่า ถ้าจะให้รัสเซียยอมถอยถึงขั้นคืนไครเมียให้ยูเครน สงครามคงไม่มีวันจบ แต่ก็มีจุดหนึ่งที่ รัฐมนตรีสหรัฐยังพูดไม่เคลียร์ คือเงื่อนไขการคืนดินแดนของรัสเซีย ต้องคืนเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่า "สมเหตุผล" สำหรับสหรัฐ หากนับดินแดนของยูเครนตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามในปี 2022 นี่ยังถือว่าเป็นไปได้ที่จะเจรจาหรือไม่
3
แต่นั่นอาจต้องเป็นหน้าที่ของทรัมพ์ ในการเจรจากับปูตินในอนาคตอันใกล้นี้ที่ซาอุดิอารเบีย แต่เป็นการคุยกัน 2 คน โดยเซเลนสกี้เป็นแค่วงนอก ซึ่งไม่ต่างจากการเจรจาสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์ที่ผ่านมาของทรัมพ์ ที่มักจะคุยกันผู้นำอิสราเอลแค่ 2 คน ทิ้งชาวปาเลสไตน์หลังกำแพงไว้แค่วงนอกเช่นกัน
2
ทรัมพ์ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในทำเนียบว่า "ผมคิดว่าเราเดินอยู่บนเส้นทางในการบรรลุสันติภาพแล้วนะ, ผมคิดว่าปูตินต้องการสันติภาพ เซเลนสกี้ก็ต้องการสันติภาพ ผมก็ต้องการสันติภาพ ผมไม่ชอบเห็นคนฆ่ากันตาย"
และทรัมพ์ยังบอกด้วยว่า ถ้าจะให้ยูเครนได้ดินแดนคืนจนถึงก่อนปี 2014 นั้นคงไม่ได้ แต่ดินแดน "บางส่วน" ที่ยูเครนเสียไป จะได้คืนแน่นอน แต่การรับยูเครน เป็นส่วนหนึ่งของ NATO ทรัมพ์ไม่เคยมีภาพนี้ในหัว
เพราะขนาดสมาชิกที่มีอยู่ใน NATO ยังโดนทรัมพ์จิกหัวเช้า-เย็นให้มาลงขัน จะมาหวังให้สหรัฐจ่ายเงินเป็นเบี้ย เป็นหอย เหมือนสมัยไบเดนนั้นไม่ได้ สำหรับทรัมพ์แล้ว การที่คนเรามันจะเป็นพันธมิตรกันได้ มันก็ต้องช่วยกัน "Contribute" ไม่ใช่มาขออย่างเดียว
4
แต่นั่นอาจไม่ใช่มุมมองเดียวกันกับ เซเลนสกี้ ที่เชื่อว่า เป็นเพื่อนกัน มันก็ต้องช่วยเหลือกัน เป็นพี่ใหญ่สุด ก็ต้องดูแลน้องๆ ไม่ให้ใครมารังแกได้ ดังนั้น การรับประกันความมั่นคงปลอดภัยของยูเครน จะขาดสหรัฐในสมการไม่ได้เด็ดขาด เซเลนสกี้ถึงกับกล่าวว่า "การรับประกันความมั่นคงที่ปราศจากสหรัฐ นั่นไม่เรียกว่าความมั่นคงที่แท้จริงหรอกครับ"
3
ถึงจะดูว่าแต่ละฝ่ายก็มีจุดที่ยอมไม่ได้ แต่ทรัมพ์แกก็มีวิธีเจรจาหักดิบแบบสุกเอา เผากิน ในแบบของแก อย่างเช่น การตกลงยกกาซ่า ยกเยรูซาเล็ม ให้คู่กรณีดื้อๆ แลกกับเงินทุนฟื้นฟูประเทศ แล้วตัดจบเลย มาไว เคลมไว แบบรัฐบาลเวลาน้อย มาตกลงปิดดีล ทำธุรกิจ ไม่ได้จะมาสร้างครอบครัว เลี้ยงลูก เลี้ยงเต้า เพราะฉะนั้น เซเลนสกี้ควรทำใจเสียเถอะ อย่าคาดหวังจะรอผู้นำสหรัฐ ที่ใจดีเป็นพ่อทูลหัวอย่างไบเดน คงต้องรบต่ออีกหลายปี
2
แต่ถ้าทุกอย่างมันง่าย เหมือนไวยากรณ์ของทรัมพ์ คงไม่ต้องรบกันแต่แรก และทรัมพ์ต้องไม่ลืมว่า ปูติน ไม่ใช่เนทันยาฮู และ ยูเครนก็หาใช่ประเทศสิ้นไร้ไม้ตอก เพราะสุดท้าย ทุกคนก็มีสิ่งหนึ่งที่ "เสียไม่ได้" เหมือน กัน นั่นก็คือ "ศักดิ์ศรี" นั่นเอง
5
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
1
โฆษณา