13 ก.พ. เวลา 05:58 • ท่องเที่ยว
Hiraizumi

EP5: Hiraizumi Sakura Tunnel Chusonji Temple, Iwate/Matsushima, Miyagi

Day 5: 15/4/2024
 
เที่ยวญี่ปุ่นคนเดียวกับทริปตามล่าซากุระภูมิภาคโทโฮคุ ทั้ง 6 จังหวัด + HITACHI SEASIDE PARK
ช่วงเวลาเดินทาง 11-21 เมษายน 2024
EP4: Hiraizumi Sakura Tunnel อุโมงค์ซากุระริมถนน
Chusonji Temple - Motsuji Temple, Iwate วัดมรดกโลกประจำเมือง Hiraizumi
Matsushima, Miyagi จุดชมวิวที่ติด 1 ใน 3 จุดที่สวยของประเทศญี่ปุ่น
วันนี้ตั้งใจจะไปเที่ยววัดมรดกโลกคั่นกลางทริป จากที่วางแผนตอนแรกกลัวว่าเราไปซากุระหลายๆวันอาจจะเบื่อ เปลี่ยนไปเยี่ยมชมวัด ชมวิว เบรกๆน้องซากุระ กลัวเมาซากุระ 555 ใดๆก็ยังแวะเที่ยวซากุระอยู่ดี
วันนี้เป็นอีกวันที่ฟ้าเปิดมากๆ แดดเปรี้ยง ตอนแรกก็แอบลังเลอยู่นานว่าไปไหนดี เสียดายแสงแดด 555 โซนล่างซากุระก็กระหน่ำบานและพร้อมล่วงไปอย่างเร็ว ในเวลา 3 วัน เพราะอากาศพุ่งไป 25 องศา โซนบนเริ่มบานไปเยอะ แต่ด้วยพรุ่งนี้ย้ายไปนอน Morioka ยาวๆ เลยเลือกโซนนี้ก่อน ซึ่งนั่งรถไฟจาก sendai แค่ครึ่งชม
เริ่มจากนั่งรถไฟ Tohoku ShinkansenYamabiko 51YamabikoMorioka ประมาณ 35 นาที (3 ป้าย) ไปลงที่ Ichinoseki Station
เดินตามทางเชื่อมไปต่อด้วยด้วยไฟ Local Tohoku LineLocalMorioka 7 นาที (2 ป้าย) ไปลงสถานี Hiraizumi Station
Ichinoseki Station
สถานี Hiraizumi ค่อนข้างเงียบ เมืองเงียบๆ ใช้เวลาเดินไปราวๆ 1.5km ก็จะถึงอุโมงค์ซากุระ ระหว่างเดินแอบหันซ้ายหันขวา เอ๊ะ ไม่มีใครมากับเราบ้างเหรอ 555
Hiraizumi City
Hiraizumi Sakura Tunnel อุโมงค์ซากุระริมถนนยาวๆประมาณ 1.5km อยู่ระหว่างสถานีรถไฟไปจนถึงวัด Chusonji มีรถขับวิ่งผ่านไปมา ริมถนนที่สวยมาก ซากุระฟูฟ่องทอดยาวริมถนน พร้อมกับมีดอกที่เริ่มล่วงปลิวตามลมไปมา เหนือสิ่งอื่นใด เดินอยู่คนเดียว ในที่ไม่มีคนก็เลยตั้งกล้องถ่ายรูปตัวเองวนไปค่ะ 555 เดินตามทางไปเรื่อยๆ ใต้ต้นซากุระ สักพักก็จะถึงทางเข้าวัดแล้วค่ะ
Hiraizumi Sakura Tunnel
Chusonji Temple ทางเข้าวัดเดินขึ้นเนินเขาไป 2 ทางขนาบข้างไปด้วยต้นสนสูงๆ คล้ายๆกับวัดที่ Nikko แต่คนไม่เยอะ ระยะทางขึ้น 800m แต่เหนื่อยหอบค่ะ 555 ระหว่างทางมีจุดที่เห็นวิวพร้อมกับซากุระที่ล่วงโรยไปแล้ว ภายในมีวิหาร พิพิธภัณฑ์ หลายจุด ที่สำคัญเครื่องรางน่ารักมากกกก cf กลับไปเยอะมาก เพราะความน่ารัก
ทางเข้าวัด และทางเดินขึ้น
ที่วัดมีทัวร์ลงค่อนข้างเยอะเลย เจอหลายกลุ่มเลยค่ะ และเด็กนักเรียนมาขอพรกันเยอะมากๆ ค่ะ
บรรยากาศภายในวัด Chusonji Temple
ใช้เวลากันสักพักกับที่วัดแล้วเดินย้อนกลับมาทางเดิมที่เป็นอุโมงค์ ขากลับรู้สึกว่าซากุระร่วงปลิวเป็นฝนตามลม ตอนร่วงก็สวยไปอีกแบบเลยค่ะ อากาศร้อนและแสงแดดน่าจะมีผลต่อน้องจริงๆค่ะ เดินไปเดินกลับห่างกันไม่กี่ชมเอง คนโพสเองก็ถึงขั้นต้องถอดเสื้อแขนยาวเลยแล้วใส่เสื้อยืดเดินเลยค่ะ
ทางเดินขากลับ
ดูเวลาแล้วยังพอมีเวลาเหลือเลยว่าจะแวะไปที่วัด Motsuji Temple กันก่อน ซึ่งดูจาก Map บอกเดินไปได้ประมาณ 1km เป็น 1 km ที่หลอกมากค่ะ เพราะทางเข้าต้องอ้อมไปอีกทาง กับวันที่แดดร้อนจัด 25 องศาญี่ปุ่น นี่หน้าไหม้มากค่ะ เหงื่อซก
Motsuji Temple ภายในมีวิหาร มีสวนและสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง มีหินหินตั้งกลางบึง สร้างในรูปแบบคลื่นแรงกระทบฝั่ง (อ่านมาจากป้าย) พร้อมวิวภูเขาด้านหลัง วัดค่อนข้างเงียบเลยค่ะ กินลมชมวิวอยู่พักใหญ่ เลือกเดินกลับที่สถานีรถไฟ ชอบบ้านเมืองของที่นี่มากเลยค่ะ สงบสุดๆ ถนนโล่งๆ
Motsuji Temple
เรากลับเส้นทางเดิมกลับขามา โดยนั่งรถไฟ local ไปลงที่ Ichinoseki Station แล้วต่อ Shinkansen ไปลงที่ Sendai Station ค่ะ
เปลี่ยนมานั่งรถไฟ Local สาย Senseki LineLocalTakagimachi 40 นาที (15 ป้าย) ไปลงที่ Matsushimakaigan Station สถานีรถไฟ ที่มองลงไปเห็นวิวทะเลสวยๆเลยค่ะ
เริ่มต้นเที่ยว Matsushima ด้วยการขึ้นไป เลือกเดินขึ้นไป ราวๆ 1km มีเพื่อนเดินเยอะมากค่ะ
Saigyo Modoshi no Matsu Park เป็นจุดชมวิวที่ติด 1 ใน 3 จุดที่สวยของประเทศญี่ปุ่น ภาพด้านหน้าเป็นต้นซากุระ ต้นสน พร้อมอ่าวมัตสึชิมะ ที่เห็นทะเลกับเกาะต่างๆอยู่ด้านหลัง พร้อมเห็นสะพานสีแดงข้ามไปยังเกาะ Fukuurajima วันที่ไปซากุระล่วงโรยไปเกือบหมดแล้ว แต่ความทะเลกับภูเขาที่อยู่ด้วยกันก็สวยมากๆค่ะ
นอกจากนี้ข้างบนมีร้านคาเฟ่ที่วิวสวยมากแต่อดกินเพราะขี้เกียจรอคิวโต๊ะ บวกกับเมาแดดจากการเดินขึ้นเขามา ใครมาอย่าทำนะคะ ไม่ต้องเดินค่ะ นั่งแท็กซี่ใช้เงินแก้ปัญหาไป ค่อยเดินลงเอา ส่วนเราเดินขึ้นแต่ขาลงเรียกแทกซี่ค่ะ เรียกผ่าน app ใน google map ได้เลยค่ะ
วิวจากหน้าร้านกาแฟ
ค่าแท็กชี่ขาลงราวๆ 2500Y นั่งแท็กชี่ไปลงที่ Fukuurabashi Bridge เป็นสะพานแดงข้ามไปเกาะ Fukuura ค่าเข้าประมาณ 200Y ค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปบนสะพาน เจ้าของโพสเดินไปถึงแค่ปลายสะพานค่ะ ไม่ได้เดินเล่นบนเกาะ ไว้มีโอกาสแวะมาใหม่นะคะ อบากจะไปวัดต่อซึ่งใกล้เวลาปิด
กินเสร็จไปกันต่อที่ Godaido Temple วัดเล็กๆมีโบสถ์ไม้ตั้งอยู่บนเกาะติดกับท่าเรือ ตัววัดยื่นลงไปในทะเล ต้องเดินข้ามสะพานไม้ไป ใดๆต้องมีสติ ช่องห่างระหว่างแผนไม้ตกลงไปได้ทั้งขา
Godaido Temple
จากนั้นเดินไปที่ Zuiganji Temple ทางเข้าต้นสนต้นใหญ่ปลูกเรียงเป็นแถวยาว ตัวอาคารหลักของวัดมีภาพปิดทอง ประตูหน้าต่างจะเป็นรูปวาดสวยๆ แต่ใดๆวัดห้ามถ่ายรูป ได้เดินชมภาพวาด พิพิธภัณฑ์ศิลปะ พอมีรูปภาพจะเดินชื่นชมได้นานเป็นพิเศษ แต่ถ้าเป็นแค่วัดเฉยๆ จะเร็วยิ่งกว่าความเร็วแสง เดินเล่นจนห้าโมง วัดจะปิดโดนเชิญออก
Zuiganji Temple
โดยที่เที่ยวบริเวณนี้ในแต่ละจุดสามารถเดินไปได้หมดเลยค่ะ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ มีร้านอาหารคาเฟ่หลายร้าน ของขึ้นชื่อเมืองนี้คือหอยนางรม เมนูหอยนางรมทั้งแถบ
พอช่วงเย็นๆ นั่งรถไฟกลับ Sendai มื้อเย็นวันนี้ตั้งใจว่าจะไปลองร้านลิ้นวัวย่างเจ้าดังอีกร้าน Zenjirou สาขาที่เราไปอยู่นอกสถานี ร้านนี้แอบแพงกว่าทุกร้านที่เคยกินมา ตอนแรกก็รู้สึกว่ามันเหมือนกันทุกร้าน แต่พอได้มาซ้ำร้านนี้อีกรอบ กับเมื่อช่วงปลายปีได้มีโอกาสกลับไปพิสูจน์ความสงสัยนี้ใหม่ สรุปอร่อยกว่าจริงๆค่ะ ต้องไปลองนะคะ 555
ลิ้นวัวย่าง Zenjirou
จบวันแบบอิ่มอร่อย อิ่มวิว พร้อมขาลากตามเคยค่ะ วันนี้เราก็นอน APA Hotel TKP Sendai Eki Kita ที่เดิมค่ะ รู้สึกว่าเตียงนอนที่นี่ดูดวิญญาณมากค่ะ หัวถึงหมอนหลับสนิททุกวัน ไม่รู้ว่าเพราะเที่ยวเหนื่อยด้วยรึเปล่า หลับเร็วตื่นเช้าทุกวันแบบงงๆ ทั้งที่ตั้งใจจะออกสายๆ สรุปตื่นเช้าทุกวันค่ะ เลยได้งอกแผนเที่ยวเพิ่มวันละที่
EP6 จะพาทุกคนย้อนกลับไปเที่ยวกันต่อที่เมือง Yonezawa Yamagata พร้อมกับกินเนื้อ Yonezawa อย่าลืมติดตามกันนะคะ
โฆษณา