13 ก.พ. เวลา 06:27 • ข่าว

ฝึกซ้อมทีมแพทย์นานาชาติ ย้ายผู้ป่วยทางบก น้ำ อากาศ

จำลองเหมือนจริงแผนตอบโต้ภัยพิบัติ “อาเซียน”
เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสรุปผลการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติด้านการแพทย์และสาธารณสุขระหว่างประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ 6 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-14 ก.พ. 2568
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันภัยพิบัติมีความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้น เช่น พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟปะทุ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
ที่ผ่านมา สธ.และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ดำเนินการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภัยพิบัติด้านการแพทย์และสาธารณสุขระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน มาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อให้สามารถรับมือกับภาวะฉุกเฉินและภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สร้างความเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพทีมแพทย์ในการตอบโต้ภัยพิบัติร่วมกันระดับอาเซียนและทีมญี่ปุ่น
ตรงนี้เป็นไปตามปฏิญญาผู้นำอาเซียนด้านการจัดการภัยพิบัติทางการแพทย์และสาธารณสุข และปฏิญญาอาเซียนหนึ่งเดียวตอบโต้ภัยพิบัติทั้งในและนอกภูมิภาค หรือ One ASEAN One Response ที่เน้นย้ำความสำคัญของความเป็นปึกแผ่น การประสานงานและการลงมือปฏิบัติร่วมกันในการรับมือภัยพิบัติ
นายสมศักดิ์กล่าวว่า การฝึกซ้อมแต่ละครั้ง ประเทศสมาชิกอาเซียนจะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยการฝึกซ้อมแผนฯ ครั้งที่ 6 นี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพดำเนินการ มีการจำลองสถานการณ์เหตุภัยพิบัติขนาดใหญ่ (ระดับ 4) ที่เสมือนจริงที่สุด
ตั้งแต่กระบวนการที่สนามบิน ทดสอบกระบวนการสำคัญในการรับทีมแพทย์ มีการฝึกซ้อมแผนภาคสนาม 3 จังหวัด 3 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และนนทบุรี การซ้อมเคลื่อนย้ายลำเลียงผู้ป่วยทางบก น้ำ อากาศ และความร่วมมือกับกองทัพ รวมถึงการกำจัดสารพิษ การประเมินความต้องการด้านสุขภาพ สุขภาพจิต โรคติดต่อ และโรคไม่ติดต่อ
นอกจากเป็นการประเมินขีดความสามารถของประเทศไทยในการประสานรับทีมฉุกเฉินต่างชาติในภาวะภัยพิบัติ ยังช่วยพัฒนาความพร้อมของระบบสาธารณสุขและการแพทย์ฉุกเฉินไทยเมื่อเกิดภัยพิบัติ ช่วยให้ไทยและอาเซียนได้เตรียมความพร้อม ฝึกประสานงานเมื่อต้องประสบภัยพิบัติและต้องขอรับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ
รวมถึงเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างประเทศอาเซียน สามารถนำบทเรียนไปพัฒนาประเทศของตนเองให้ดียิ่งขึ้น และร่วมมือกันเผชิญกับภัยพิบัติ ลดการสูญเสียของประชาชนและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
"ต้องขอขอบคุณญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียนที่ทำให้การฝึกซ้อมในครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จ และเกิดความร่วมมือในการบริหารจัดการภัยพิบัติด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างยั่งยืน” นายสมศักดิ์กล่าว
โฆษณา