18 ก.พ. เวลา 12:00 • นิยาย เรื่องสั้น

ทำยังไงไม่ให้เขียนแล้วทิ้งกลางทาง ❓

หลายคนน่าจะเคยมีไอเดียในหัวซึ่งมันสุดยอดมาก และเมื่อเริ่มลงมือเขียนด้วยแอปของแพล็ตฟอร์มนั้น ๆ ด้วยความคาดหวังว่าผู้คนจะชื่นชอบมัน… แล้วเราก็โชคดี เราบรรยายได้เก่งและเปิดไอเดียได้ดี เรื่องของเรามีคนอ่านครับ และคนก็ติดมันอย่างจริงจังด้วย
แต่ แต่ แต่
มันกลับกลายเป็นเราเองต่างหากที่อยู่ดีดีก็หมดไฟ ตัน งงกับตัวเองว่าจะไปต่อยังไงดี
มันเกิดได้หลายแบบมากเลย เช่น
👉 อยู่ ๆ ตัวละครก็มีการเดินทางของตัวเอง มีเสียงของตัวเอง แล้วพอเวลาเราตามเขาไปก็ปรากฏว่า เขาเปลี่ยนเส้นทางเรื่องที่เราเคยวางต้น กลาง จบแบบหลวม ๆ ไปแล้ว กลายเป็นว่าเราเมาหมัด งง ไม่รู้จะไปยังไงต่อดี อันนี้หลายคนเรียกมันว่าการออกทะเล แล้วก็ไม่มีเข็มทิศ พาไปไหนก็ลำบาก
👉 อยู่ ๆ ก็ตัน มีโครงเรื่องแล้วแต่บรรยายไม่ออกไปซะอย่างนั้น คือก่อนหน้านั้นก็เขียนมาได้เรื่อย ๆ นะ แต่อยู่ ๆ ก็คิดไม่ออกซะอย่างนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะคิดสถานการณ์ไม่ค่อยออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ที่ไม่ใช่จุดสำคัญของเรื่อง อันนี้จะยิ่งคิดไม่ออกใหญ่เลย คือจุดสำคัญอะรู้แล้ว แต่ระหว่างทางนั่นแหละที่เป็นปัญหา พอติดปุ๊บมันก็ไปต่อไม่ได้ ทีนี้ยาวเลย
👉 สายด้น ไม่มีโครงอะไรเลย เริ่มต้นโดยการมีไอเดีย เขียนเสร็จหนึ่งตอนแล้วเอาลงเลย อันนี้น่าจะเป็นคนชอบการผจญภัย รู้เรื่องไปพร้อม ๆ กับการเขียน แล้วพอถึงจุดหนึ่งก็… เราจะไปทางไหนดีนะ หรือก็คือออกทะเลไปเลย เมื่อรู้สึกตัวว่าออกทะเลไปแล้วก็ไปต่อไม่ได้อีก...
👉 นอยด์ต่อคอมเมนต์ อันนี้หนักหน่อย เราว่าเราเขียนมาดีแล้วนะ แต่เมื่อเจอคอมเมนต์ โดยเฉพาะกลุ่มท็อกซิกเข้าไปก็รู้สึกนอยด์ หยุดเขียน เท หรือไม่ก็เอาไปปรับตามคอมเมนต์จนออกทะเลเพราะมันไม่ใช่ทิศทางที่อยู่ในใจ สุดท้ายเลยเข้าสู่การไม่อยากเขียนแล้ว เทดีกว่า
👉 เพอร์เฟ็กต์แมน เขียนแล้วรู้สึกว่าเรายังไม่เก่ง ยังไม่เพอร์เฟ็กต์ ยังเขียนไม่ดีพอ บวกกับคอมเมนต์ที่ได้อ่าน รีวิวที่ได้เจอ ก็เลยหยุดเขียน เทไปซะดื้อ ๆ พร้อมกับเกิดอาการนอยด์ในตัวเอง ความมั่นใจต่ำ อย่างนี้ก็มีเยอะ
👉 อยู่ ๆ ก็หมดรัก เราเลิกกันเถอะ แบบนี้มักจะเกิดกับคนเจ้าโปรเจกต์ คิดเยอะแต่เขียนไม่ทัน ระหว่างเขียนก็มีไอเดียเรื่องใหม่อีกแล้ว ในหัวก็ไปคิดถึงเรื่องต่อ ๆ ไป จนหลายคนตัดสินใจเลิกงานเก่าไปบอกรักโปรเจ็กต์ใหม่แทน
👉 ยอดวิวไม่มี คอมเมนต์ไม่มา อันนี้เศร้าหน่อย แต่สำหรับคนเริ่มต้นมันก็เกิดขึ้นได้ครับ โดยเฉพาะกับเรื่องแรก ๆ พอเราเขียนด้นด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่เราแบ่งปัน แต่ผู้คนกลับไม่ตอบสนองเรา จึงทำให้หลายคนหยุดแล้วขึ้นเรื่องใหม่ หรือไม่ก็ลาออกจากการเป็นนักเขียนไปเลยก็มี
เอาจริง ๆ น่าจะมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เราเทงาน เขียนไม่จบ หยุดกลางคัน ซึ่งแต่ละเหตุก็เป็นที่เข้าใจได้ แต่เราคงไม่อยากเป็นอย่างนั้นกันใช่มั้ย ?
การเขียนไม่จบนอกจากจะเป็นการปล่อยให้คนอ่านค้างแล้ว ยังมีความร้ายกาจซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราทำมันบ่อย ๆเราจะไม่รู้ข้อบกพร่องของตัวเองจริง ๆ สักที เพราะงานเขียนจะประเมินได้ตอนที่มันจบแล้ว เราถึงจะมีการเก็บเวลประสบการณ์ได้ครบ
แล้วทางแก้ล่ะ เราพิมพ์ปัญหาและสาเหตุมาอย่างยืดยาว แต่เดี๋ยวคำตอบอาจจะสั้นนิดเดียว นั่นก็คือ
ลองหยุดด้นสด แล้วแบ่งงานเป็นขั้น ๆ ไปครับ...
ปกติเราแบ่งงานออกเป็น 5 ขั้นใหญ่ ๆ ก่อน
1️⃣ Spark ✨
นั่นคือขั้นตอนหาแรงบันดาลใจ เราเชื่อว่าทุกคนมีอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงมือหรอกใช่มั้ยครับ แต่เราอยากให้เพิ่มเข้าไปอีกนิดนึง ให้ลองเลือกแรงบันดาลใจอันที่เราคิดว่าอยากทำที่สุด และดูว่าเรื่องไหนจะมีความนิยมที่สุด เดี๋ยวอันนี้จะมีเทคนิคมาเล่าให้ฟังอีกที
2️⃣ Story Finding 🔍
มี 4 ขั้นตอนที่สำคัญซ่อนอยู่นะครับ คือ
📍Core ได้แรงบันดาลใจมาแล้ว เรามาค้นหาแกนมันก่อน นั่นจะประกอบด้วย Premise, Theme และ Genre หาสามอย่างนี้ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสิ่งที่เราอยากจะทำ อยากจะเล่า แล้วยึดมันไว้เป็นแกนหลัก เป็นหัวใจของการทำงานครับ
📍Lock Story Line และ Log Line คือการจัดการกับองค์ประกอบหลักของเรื่องของเราครับ เขียนสั้น ๆ หาให้เจอ และที่สำคัญของขั้นตอนนี้คือเราจะดูว่าเราคลิ๊กกับมันมั้ย นั่นจะทำให้เราเห็นภาพใหญ่ ๆ ปลายทาง สำคัญมากเลยนะครับกับการเห็นภาพเป้าหมายที่ปลายทางของเรา เพราะมันจะทำให้เรามีแผนที่ ไม่พาเราออกทะเล
เราต้องรู้ว่าเรื่องของเราเกิดขึ้นในโลกแบบไหน ตัวละครของเราเป็นใคร เขาจะต้องทำอะไร มีอุปสรรคหลักอะไรมาขัดขวาง สุดท้ายแล้วเขาทำสำเร็จหรือไม่ และเขาได้เรียนรู้อะไร ถ้าในทั้งหมดนี้เราไม่คลิ๊กต้องหาจนกว่าจะเจอที่ใช่ ลองเปลี่ยนไปมาได้ในขั้นตอนนี้ครับ ถ้าไม่ใช่ไม่รักรีบบอกเลิกกันไปก่อน เก็บเขาไว้ในลิ้นชัก รอวันที่มีอะไรมาทำให้เราคลิ๊กค่อยลองกลับมาพัฒนาอีกครั้งก็ได้
📍Character ค้นลึกเข้าไปในตัวเอก หาให้เจอว่าเขาเป็นคนแบบไหน ยังไง อะไรที่จะทำให้เราอยู่กับเขาไปได้จนจบขั้นตอนอันยาวนานต่อจากนี้ ถ้าไม่รักแล้วจะใช้ชีวิตร่วมกันเหนื่อย และเราอาจจะเทเขาไปก็ได้นะ
📍Plot ทีนี้เข้าสู่ส่วนสำคัญมากคือการสร้างโครงเรื่องขึ้นมา เราจะเห็นการเดินทาง เห็นจุดสำคัญต่าง ๆ ของเรื่องที่เดี๋ยวเราจะเอาไปลำดับ ออกแบบ สร้างสรรค์ ตัวผลงานจริง ๆ ให้ออกมา และมันจะเป็นแผนที่หลักใหญ่ที่จะทำให้เราเห็นโครงทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ในขั้นตอนนี้ควรแม่นยำในตัวละครของเรานิดนึง หากมีอะไรที่มันส่อแนวโน้มทำให้เราและคนดูไม่เชื่อ ให้รีบแก้ไขในตอนนี้เลยครับ
และอย่าลืมว่าในทุกขั้นตอนที่เราทำควรจะมีการหาข้อมูลอยู่ตลอด เพราะการหาข้อมูลนอกจากจะทำให้เราสร้างเรื่องได้อย่างสมจริงและถูกต้องแล้ว มันยังกระตุ้นไอเดียเราได้อีกด้วย
3️⃣ Treatment 📋
หรือก็คือโครงเรื่องขยาย ในขั้นตอนนี้เอาจริง ๆ มันสนุกมากเลยนะ เพราะเราจะทำอยู่สองอย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ การออกแบบเหตุการณ์ สถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเอาไปเขียนเรื่องของเราต่อไป และอีกอย่างคือการออกแบบการลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง มันก็คือการออกแบบการเล่าเรื่องนั่นเอง เราจะแบ่งตอนกันในขั้นตอนนี้ด้วย ก็ลองดูว่าแต่ละตอนจะเริ่มจากตรงไหนและจบตรงไหน และถ้าหากทำขั้นตอนนี้สำเร็จ ขั้นตอนต่อไปก็จะง่ายขึ้นมาก ๆ เลยครับ
4️⃣ ขั้นตอนการเขียนนิยาย ✍️
ตอนนี้เรา “เขียน” แล้ว ไม่ได้ “แต่ง” นิยายเพราะเราแต่งไปแล้ว ออกแบบไปหมดแล้ว ในขั้นตอนนี้เราจะสนุกกับการบรรยาย การลำดับประโยค การสร้างบทสนทนาไปตามโครงเรื่องที่เราได้ออกแบบไว้ เรารู้แล้วว่าเรื่องเราเป็นยังไง จะเล่าอะไรก่อนหลัง ดังนั้นในขั้นตอนนี้สามารถปล่อยตัวเองไปกับอารมณ์ในเรื่องได้แล้ว สนุกกับการสร้างลีลา สำบัดสำนวนได้เต็มที่โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเราจะคิดเรื่องไม่ออก
5️⃣ พักไว้ให้เย็น แล้วแก้ไขมัน 🧑‍🔧
เนื้อจะอร่อยที่สุดไม่ใช่ตอนออกจากเตา แต่ตอนที่มันเย็นแล้วต่างหาก อย่าเพิ่งรีบโพสต์แต่ละตอนที่เรามี พักไว้ ลองอ่านใหม่ แล้วดูว่าอะไรที่ไม่เข้าท่า ไม่เข้าที ก็รีบเอามันออกไป อะไรที่ตอนเขียนยังคิดไม่ออก มันอาจจะออกมาตอนเรามองในสายตาของคนอ่านก็ได้ครับ
💌 การแบ่งการเขียนเป็นแต่ละขั้นตอนแบบนี้จะช่วยให้เราไม่หยุดกลางทางได้ มันอาจจะดูเหมือนเยอะแยะ ยุ่งยาก แต่อย่างน้อยหากเราจะเท เราก็เทตั้งแต่ขั้นตอนที่เรารู้ตัวว่าเราไม่คลิ๊กด้วยแล้วครับ มันจะไม่หยุดกลางคันระหว่างที่มันอยู่ในสายตาคนอ่านอย่างแน่นอน และเราก็มั่นใจได้ว่าเราจะไม่มีทางคิดเรื่องไม่ออกขณะลงมือเขียนและกำลังออกสู่สายตาประชาชน
และระหว่างที่มันกำลังอยู่บนแพล็ตฟอร์ม หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอก็ข้ามคอมเมนต์ไปก่อนก็ได้นะ ลงให้ครบแล้วค่อยกลับมาอ่านทีเดียว มันจบแล้ว มันเป็นของคนอ่านแล้วครับ ส่วนเราค่อยรับคอมเมนต์ไปแก้ตัวใหม่ที่เรื่องหน้า
อย่างน้อยเราจะมีผลงานออกมา และไม่เป็นคนครึ่ง ๆ กลาง ๆ ในสายตาคนอื่นอีกต่อไป
โฆษณา