14 ก.พ. เวลา 02:30

เปิดข้างหลังภาพความรักแห่งเกาะเลสบอส Sappho and Erinna โดย ไซมอน โซโลมอน

ในบรรดาภาพวาดเกี่ยวกับ “ความรัก” ที่โด่งดังระดับโลก แน่นอนว่าต้องมีภาพเขียนสีน้ำบนกระดาษชื่อ Sappho and Erinna in a Garden at Mytilene (แซฟโฟและเอรินนาในสวนแห่งหนึ่งที่มิติเลเน) โดย ไซเมียน โซโลมอน (Simeon Solomon) เป็นผลงานคลาสสิคที่ถูกกล่าวขาน เพราะนี่คือภาพวาดความรักระหว่างหญิงสาวบนเกาะเลสบอส (Lesbos) ประเทศกรีซ เกาะแห่งนี้เป็นที่อยู่ของ “แซฟโฟ” (Sappho) กวีและนักดนตรีหญิงผู้รายล้อมด้วยหญิงสาวทั้งที่เป็นมิตรสหาย บริวาร และลูกศิษย์ของเธอ
ภาพวาด Sappho and Erinna in a Garden at Mytilene ชิ้นนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงซึ่งย้อนไปเมื่อราว 600 ปีก่อนคริสตกาลตรงกับยุคอารยธรรมกรีกโบราณที่เรื่องหญิงรักหญิงไม่สามารถจะเปิดเผยได้ โดยเกาะเลสบอสนี้เองที่เป็นรากศัพท์ของคำว่า เลสเบียน (Lesbian) หมายถึง หญิงที่เกิดมาพร้อมอวัยวะเพศหญิง แต่มีใจรักในเพศเดียวกัน
แซฟโฟมีผลงานบทกวีเนื้อหาเกี่ยวกับความรื่นรมย์ผสมผสานด้วยความขมขื่นของความรักระหว่างหญิงกับหญิง ชื่อของแซฟโฟถูกเอ่ยถึงในบันทึกของเฮอรอโดทัส (Herodotus) นักบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถือเป็นบิดาแห่งนักประวัติศาสตร์ของอารยธรรมตะวันตกด้วย
แต่น่าเสียดายต้นฉบับบทกวีของแซฟโฟที่ยังหลงเหลือครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดนั้น มีเพียงบทกวีหรือบทเพลงที่ชื่อว่า “Hymn to Aphrodite” เป็นบทกวีรำพันขอพรจากเทพีอโฟรไดต์ (ตามความเชื่อในตำนานเทพกรีกเทพีอโฟรไดต์หรือวีนัส เป็นเทพีแห่งความรัก) สอนวิธีสานสัมพันธ์กับคนรัก ซึ่งแม้ในบทกวีไม่ได้ระบุว่าคนนั้นเป็นเพศใดแน่ชัด แต่เรื่องราวที่เชื่อมโยงกับเรื่องเล่าของแซฟโฟทำให้ถูกตีความว่าเป็นการขอพรเพื่อสานสัมพันธ์คนรักระหว่างเพศหญิงและเพศหญิง
นอกจากเนื้อหาขอพรขอความสมหวังในรักแล้วบทกวีรำพันขอพรเทพีวีนัสนี้ยังเชื่อมโยงถึง ลัทธิบูชาเทพีอโฟรไดต์ที่แซฟโฟรวบรวมกลุ่มลูกศิษย์หญิงวัยเยาว์ของเธอจัดตั้งเป็นลัทธิ และมีพิธีกรรมร่ายกวีประกอบดนตรีสรรเสริญและขอพรจากเทพีอโฟรไดต์อย่างไรก็ตาม บทกวีและเรื่องราวชีวิตรักรายล้อมด้วยหญิงสาวบนเกาะเลสบอสของแซฟโฟที่เล่าขานต่อกันมา
กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นต่อ ๆ มา รวมถึงไซเมียน โซโลมอนศิลปินรักเพศเดียวกันชาวอังกฤษ ที่ได้วาดภาพสีน้ำบนกระดาษชื่อภาพ Sappho and Erinna in a Garden at Mytilene เมื่อ ค.ศ.1864 เรื่องราวในภาพเล่าถึงแซฟโฟและเอรินนาซึ่งเป็นกวีเช่นกันขณะกำลังจุมพิตกัน ในกิริยาที่ส่อนัยถึงการพลอดรักของคู่รักมากกว่าเพื่อน
ภาพของแซฟโฟถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหญิงสาวสวมเสื้อผ้ามิดชิดบุคลิกทะมัดทะแมงเมื่อเทียบกับภาพเอรินนาที่มีสีผิวนุ่มนวลกว่าและเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเปิดไหล่เผยเนินเนื้อส่วนหน้าอกสะท้อนบุคลิกหญิงสาวเย้ายวนในท่าทางเหมือนทั้งคู่กำลังพลอดรักกันองค์ประกอบอื่น ๆ
ในภาพที่สะท้อนถึงนัยแห่งการอยู่ในห้วงแห่งอารมณ์รักคือภาพนกพิราบขาวหนึ่งคู่พลอดรักอยู่เหนือหัวของสองสาวส่วนองค์ประกอบที่บ่งชี้ตัวตนของแซฟโฟ คือ บทกวีบนกระดาษและเครื่องดนตรีที่วางอยู่ด้านข้างส่วนภาพกวาง
เชื่อมโยงได้กับคำกล่าวของเพลโต นักปรัชญาชาวกรีก ที่เรียกแซฟโฟว่าเป็น “เทพธิดาผู้เป็นแรงบันดาลใจองค์ที่ 10”ตามตำนานเทพกรีกเทพธิดาแรงบันดาลแห่งกวีมี 9 นาง เป็นธิดาของมหาเทพซุสกับนางนีโมซิเน และเทพอพอลโล เทพของศิลปวิทยาการ เป็นผู้เลี้ยงดูพวกเธอทั้ง 9 ภาพกวางเกี่ยวข้องกับการขนานนามแซฟโฟเป็นเทพธิดาแรงบันดาลใจองค์ที่ 10 เพราะกวางเป็นหนึ่งในสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเทพอพอลโล
ไซเมียน โซโลมอน เป็นศิลปินชาวอังกฤษเชื้อสายยิวที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ.1840-1905 งานศิลปะภาพเขียนของเขาได้รับอิทธิพลการเขียนภาพจาก ดานเต เกเบรียล รอสเซ็ตติ (Dante Gabriel Rossetti) (ค.ศ.1828-1882) หนึ่งในหัวหอกศิลปินกลุ่มพรี-ราฟาเอล ซึ่งเป็นกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมลับ (Pre-Raphaelite Brotherhood)ในกรุงลอนดอนช่วงปี ค.ศ.1848
ด้วยแนวคิดต่อต้านแนวทางของสถาบันศิลปะแห่งชาติ (Royal Academy of Art) เน้นเชิดชูศิลปะวิจิตรยุคเรเนอซองส์ตามแบบของราฟาเอล (มาสเตอร์แห่งยุคเรเนอซองส์ เจ้าของภาพเขียนเลื่องชื่อ The School of Athens) โดยศิลปินกลุ่มพรี-ราฟาเอลสวนกระแสหลักของศิลปะยุคกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งมุ่งเน้นงานเขียนภาพที่อิงความสมจริงความเป็นธรรมชาติ ถ่ายทอดความรู้สึกแท้จริงที่ศิลปินต้องการแสดงออก เนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับความรักความตายและประเด็นทางสังคม โดยอาจได้แรงบันดาลใจมาจากงานกวีและงานเขียนได้ด้วย
อีกหนึ่งอิทธิพลต่อภาพเขียนของไซเมียน โซโลมอนคืองานของกวีชื่อ สวินเบอร์น (Swinburne) (ค.ศ.1837-1909) กวีร่วมสมัยกับโซโลมอน ที่ได้รับอิทธิพลมาจากงานเขียนกวีถ่ายทอดอารมณ์รัญจวนระหว่างหญิงกับหญิงของแซฟโฟมาอีกทอดไซเมียน โซโลมอนจึงสนใจประเด็นต้องห้ามในสังคมอย่าง รักร่วมเพศ และเลสเบียน (Homosexuality and Lesbianism) เขาเขียนภาพเกี่ยวกับเรื่องราวคู่รักเลสเบียน 3 ภาพในปี ค.ศ.1982 เขาวาดภาพด้วยดินสอ แสดงคาแรกเตอร์หรือภาพเหมือนเฉพาะส่วนลำคอและศีรษะของแซฟโฟและเอรินนา
ในภาพชื่อ Study of Sappho เป็นภาพสเกตช์พอร์ตเทรตเฉพาะส่วนศีรษะและลำคอของกวีแซฟโฟในรูปลักษณ์เป็นได้ทั้งชายและหญิง (ชายหน้าสวย) สวมมงกุฎช่อมะกอกและมีผิวเข้มแบบชาวเมดิเตอเรเนียนและ Study of Erinna ตามลำดับ และในปี ค.ศ. 1984 เขาวาดภาพสีน้ำบนกระดาษแสดงเรื่องราวทั้งคู่ขณะพลอดรักกันในภาพชื่อ Sappho and Erinna in a Garden at Mytilene ตามความเชื่อของคนยุคกลางศตวรรษที่ 19 ว่า กวีสาวกรีกสองคนนี้เป็นคู่รักกันบนเกาะเลสบอส
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชีวิตจริงของ ไซเมียน โซโลมอนไม่ได้สำเริงสำราญอย่างกวียุคกรีก เมื่อเขาถูกจับข้อหามีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายสหราชอาณาจักร ในช่วงปี ค.ศ. 1873-1874 ทำให้เขาหมดอนาคตในเส้นทางศิลปะในทันที
โฆษณา