Book of love หนังสือที่เขียนโดย Dr. Hakim ผู้อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักและเป็นกาวใจในทุกความสัมพันธ์ที่ร้างลา ในเกมเขาทำหน้าที่บำบัดเมย์และโคดี้ให้กลับมารักกัน หนังสือที่ดูน่าเชื่อถือนี้แนะนำให้ทั้งสองเริ่มซ่อมความสัมพันธ์แล้วสร้างความร่วมมือกันและกัน และทำให้ทั้งคู่กลับไปในวันวานที่ต่างมีกันและกันดี
แต่ถ้าโรสลูกสาวของทั้งสอง ไม่เคยเจอหนังสือเล่มนั้น ดันไปเจอเล่มอื่นที่ชื่อว่า Work of love ปี 1847 ที่เขียนโดย Søren Kierkegaard นักปรัชญาชาวเดนมาร์กและอธิษฐานต่อเล่มนี้แทน เขาจะไกด์สองคนนี้ให้กลับมารักกันอย่างไร?
"ท่านจงรักเถิด" คำที่ปรากฏบ่อยของหนังสือเล่มนี้ อาจเป็นคำที่เมย์และโคดี้พบเจอจนไม่ลืมระหว่างบำบัด ถึงจะเห็นบ่อยจนไปสะกดจิตได้แต่มิน่าช่วยสนับสนุนให้สองคืนดีกันเท่าไหร่ในวันที่จะร้างลาหรอกนะ แต่ความยากยิ่งทวี เพราะก่อนทั้งคู่จะกลายเป็นตุ๊กตาจากคำอธิษฐานของลูกสาวต่อหนังสือ Work of love พวกเขาได้กล่าวกับลูกว่าจะหย่ากัน ฟังดูแทบไม่มีตัวสมานได้ไม่ว่ามองจากที่ใดก็ตาม
บางทีจากจุดนี้ Kierkegaard อาจให้ทั้งสองวาปไปยังจุดเริ่มต้นแห่งความรัก จุดที่ความรักก่อตัวขึ้น ซึ่งต่างกันเล็กน้อยกับ Dr. Hakim
ใน Work of love แม้ไม่พูดโจ่งแจ้งว่าให้ปัจเจกเลือกรักเพราะศรัทธาก็ตาม แต่ความรักก็มาจากพระเจ้า พระองค์คือศูนย์กลางแห่งรัก และการจะเข้าถึงความรักได้มิผ่านอารมณ์อันเป็นเรื่องทางโลกที่บิดพลิ้วง่าย แต่อาศัยศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเป็นการนั้นแล้ว ความรักจึงถือได้ว่าเป็นรักแท้อันดำรงอยู่อย่างไร้ขีดจำกัด
บางทีนี่อาจไม่เพียงพอให้คนที่จะหย่าร้างเปลี่ยนใจ(แม้จะติดอยู่ในร่างตุ๊กตาก็เถอะ!) แต่คงกระตุกจิตสำนึกทั้งสองได้บ้าง อย่างน้อยในแง่ที่ว่าพวกเขาต่างก็เคยรักกัน พวกเขาอาจมีเยื่อใยบาง ๆ อยู่ก็ได้ และนั้นเป็นการบำบัดต่อไปของ Kierkegaard
ข้อบำบัดต่อไป Kierkegaard ไม่ใช้ท่ายากเหมือน Dr. Hakim ที่เน้นการผจญภัยร่วมกัน เขาเพียงเผยแสดงให้ทั้งสองเห็นแฟลชแบ็คว่าหน้าที่ของพวกเขาทำให้ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปขนาดไหน
*สำหรับชื่อ หากผู้อ่านอ่านจนจบจะรู้สึกว่านักปรัชญาไม่ได้เล่นเกมเหมือนในชื่อ ความจริงทีแรกผู้เขียนต้องการตั้งชื่อว่า 'หาก Book of love ไม่ได้เกิดแต่ถูกแทนที่เป็น Work of love จะไกด์เมย์และโคดี้ยังไง?' ซึ่งตรงกับเนื้อหามากกว่า แต่สำหรับชื่อที่ใช้ปัจจุบันก็เพราะ ผู้เขียนต้องการให้ตรงกับงานเขียนชุด 'เมื่อนักปรัชญาเล่นเกม' ที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
อ้างอิง
ผู้เขียนอ้างอิงบท VI: Love Abides เสียส่วนใหญ่ แม้จะมีบทอื่น ๆ อยู่บ้างตามที
นอกจากนี้ส่วนของประวัติย่อของ Søren Kierkegaard ผู้เขียนนำย่อหน้าจากในหนังสือ A Little History of Philosophy ฉบับแปลไทย มาปรับใช้และแก้ไขบางส่วนให้กระชับขึ้น