14 ก.พ. เวลา 16:40 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

รีบรีวิว A Real Pain - ‘หนังที่จะพาคุณไปสำรวจความเจ็บปวดในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร’

ตอนแรกที่เห็นชื่อหนัง ‘A Real Pain’ นี่ก็แทบจะเปิดข้ามอยู่แล้ว เพราะไม่ถนัดกับหนังสายดราม่าเลยจริงๆ แต่พาดหัวโปสเตอร์หนังกวาดรางวัลมากมายเราก็เริ่มสนใจขึ้นมา และสุดท้ายที่ทำให้อยากดูเลยคือ เค้าบอกว่ามันเป็นหนังแนวดราม่า-คอมเมดี้
พอมีคอมเมดี้บ้างก็เริ่มเข้าทาง กับใบหน้านักแสดงอันคุ้นเคยด้วยอย่าง Jesse Eisenberg (-นักแสดงเรื่อง Now You See Me) แต่ที่อึ้งกว่าคือเพิ่งรู้ว่านอกจากพี่เค้าจะเล่นเองแล้วยังกำกับเอง และเขียนบทเองอีก! ควบสามตำแหน่งยังไม่พอ ด้วยบทภาพยนตร์นี้เองที่ทำให้หนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาบทภาพยนต์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมของปีนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ นักแสดงสมทบที่รับบทโดย Kieran Culkin ที่ได้มาเล่นเป็นญาติคู่หูตัวแสบ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมอีกต่างหาก ถ้าหนังจะมาขนาดนี้แล้วมันเลยต้องจองตั๋วเข้าไปซักหน่อยแล้ว
‘A Real Pain’ จะพาทุกคนไปสำรวจความเจ็บปวดกันกับสองคู่หูลูกพี่ลูกน้องอย่างเดวิด (Jesse Eisenberg) และเบนจี้ (Kieran Culkin) ที่ได้ฤกษ์นัดกันไปเที่ยวประเทศโปแลนด์บ้านเกิดของคุณย่าผู้ล่วงลับ จากการเข้าร่วมกรุ๊ปทัวร์เล็กๆ อย่าง Holocaust tour (ทัวร์ประวัติศาสตร์เหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว) เพื่อรำลึกถึงคุณย่า การเดินทางที่เหมือนจะราบรื่นก็ได้เกิดขึ้น พร้อมกับเหตุการณ์อีกมากมายที่ทั้งตลกร้าย บ้าบอ หดหู่ และโศกเศร้า ชวนตั้งคำถามว่าอะไรคือ A Real Pain? และเราจะจัดการความเจ็บปวดเหล่านั้นยังไงดี
ต้องบอกว่ามูดและโทนสีในหนังให้ความรู้สึกคล้ายเรื่อง The Secret Life of Walter Mitty ดูจบแล้วชั้นอยากไปโปแลนด์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ประทับใจมากเลยคืองานภาพของหนัง การกำกับภาพสวยมาก มีความเล่นมุมเล่นแสง ตามสถานที่ต่างๆ ที่เป็นฉากในหนัง ยิ่งใช้เพลงประกอบเปียโนคลาสสิคของโชแปงอย่าง Chopin - Nocturne op.9 No.2 ที่ให้อารมณ์ความมีชีวิตชีวา แต่ก็แฝงไปด้วยความวุ่นวายอยู่ในนั้นมันเข้ากันแบบสุดๆ
ดูหนังจบนี่ตอนรอรถไฟฟ้ามีแต่เพลงนี้วนเวียนอยู่ในหัว ได้เดินฟังเพลง Chopin ที่ให้อารมณ์แปลกๆ กลับบ้าน
***ต่อจากนี้อาจจะมีสปอยเนื้อหาเล็กน้อย***
หนังเปิดมาด้วยความคอมเมดี้อย่างความเข้ากันได้ (เหรอ) ของลูกพี่ลูกน้องคู่นี้ คนนึงชาวเมืองนิวยอร์กเกอร์ตัวแทนชาวอินโทรเวิร์ต และอีกคนที่โผงผางเปิดเผยสายชิว เจอกันครั้งแรกก็ชวนดูดบ้องกัญชาแล้ว ฮ่า บทก็จะมีความจิกกัด ปนตลกร้ายอยู่ในการสนทนาสุดเรียล ทำเอาแอบขำได้เรื่อยๆ ก่อนที่เรื่องจะค่อยๆ พาเราเข้าสู่พาร์ทแห่งอารมณ์ และแน่นอน ทั้งหมดผ่านตามบทสนทนาของตัวละครในเรื่องทั้งหมด
สมพอกับที่บทได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล นี่ชอบความเรียลของการพูดคุยกันของตัวละคร แต่มันกลับสื่อถึงอารมณ์ ชวนกระตุกให้หยุดคิดตามบ้าง หรือแม้กระทั่งทำให้เราคาดเดาอดีตความเจ็บปวดของคนๆ นั้นได้
ต่อมาตัวหนังได้ฉาบเรื่องราวอันเจ็บปวดผ่าน Holocaust tour ที่ทำให้เราหดหู่แบบพูดไม่ออก โปแลนด์น่าเจ็บปวดตั้งแต่เป็นประเทศแรกที่นาซีเยอรมันได้เข้าโจมตี ถือเป็นจุดเริ่มของสงครามโลกครั้งที่สองก็ว่าได้ เป็นประเทศที่ชุมชนชาวยิวเยอะมาก และพวกเขาไม่มีเวลาเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามเต็มกำลังขนาดนั้น ใครอยากเห็นภาพกว่านั้นแนะนำให้ไปดูหนัง ‘The Pianist’ เรื่องราวของนักเปียโนโปแลนด์เชื้อสายยิวกับเรื่องราวเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สอง
แต่หนังก็แสดงให้เห็นถึงความย้อนแย้งบางอย่างว่า นี่เรา! พยายามจะเข้าใจความเจ็บปวดนั้นจริงๆ รึเปล่า อย่างการไปดูค่ายกักกันด้วยการนั่งรถไฟเฟิร์สคลาสเนี่ย มันใช่หรือไม่ ทั้งที่ความเจ็บปวดของชาวยิวในตอนนั้นคือการถูกไล่ต้อนขึ้นรถไฟกันอย่างแออัดยัดเยียด
เราเข้าใจความเจ็บปวดของพวกเขาจริงๆ เหรอ แล้วเช่นนั้นเราควรจะทำยังไงล่ะ?
หนังชวนตั้งคำถามที่ไม่มีถูกไม่มีผิด และผู้ชมก็คงได้คำตอบแตกต่างกันไป
แล้วความเจ็บปวดของคนๆ หนึ่งล่ะ ดูผิวเผินคงเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่โหดร้าย แต่กล้าพูดเหรอว่าความเจ็บปวดของคุณมันก็แค่นั้นจริงๆ นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมากของหนังเรื่องนี้ ชวนเราตั้งคำถามว่าที่จริงอะไรคือ ‘A Real Pain’ เพราะเอาเข้าจริงไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ความเจ็บปวดก็คือความเจ็บปวดอยู่ดีมั้ย
และพวกเราก็มีวิธีมากมายที่จะรับมือกับมัน บ้างก็ร้องไห้ บ้างก็เล่าให้คนอื่นฟัง บ้างก็เก็บมันเอาไว้ แล้วแบบไหนคือถูก แบบไหนคือผิดล่ะ
ก็ไปตามหาคำตอบกันในหนังอีกครั้ง
เป็นหนังที่ให้อะไรมากกว่าที่คิด ชวนตั้งคำถามกับการกระทำของตัวละคร พาเปิดมุมมองใหม่ๆ ถึงหนังจะชวนหดหู่ แต่ความตลกร้ายที่แฝงๆ อยู่ก็ช่วยดึงความรู้สึกกลับขึ้นมาได้ ก็จะเหมาะหน่อยกับใครที่อยากดูหนังเหมือนไปเที่ยว ไม่รีบเร่งและค่อยๆ เข้าใจอารมณ์ของตัวละคร และไม่ต้องห่วงตามสไตล์หนังรางวัล ถ้าคุณจะเพิ่งมาเกทอะไรบ้างหลังดูจบไปแล้วหลายวันเหมือนเราคุณก็มีเพื่อนแล้วแหละ ฮ่า!
โฆษณา