ไต้หวันหัวจะปวด ทรัมพ์ขู่ขึ้นภาษีชิพไต้หวัน 100%
โดนัลด์ ทรัมพ์ เตรียมเตรียมโบกกำแพงภาษีสูงขึ้นอีกกับประเทศคู่ค้าใกล้ชิดของสหรัฐ ไม่ใช่เฉพาะแค่จีน แคนาดา หรือ เม็กซิโก เท่านั้น โดยเพ่งเล็งประเทศที่เกินดุลย์การค้ากับสหรัฐมากเป็นพิเศษ โดยจะปรับตัวเลขภาษีให้สอดคล้องกับอัตราที่ประเทศคู่ค้าเรียกเก็บกับสินค้าของสหรัฐ ที่ทรัมพ์ มองว่าเป็นการเอาเปรียบ ถ้าปรับให้มันตรงกัน ก็จะยุติธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์บ่นได้
ซึ่งในมุมมองของทรัมพ์ คือไม่ต้องการให้สินค้าต่างชาติ ไม่ว่าประเภทไหนก็ตาม เข้ามาตีตลาดสินค้าอเมริกันในบ้าน เพื่อให้สินค้าในบ้าน และ นอกบ้าน สามารถแข่งขันในด้านราคาอย่างเท่าเทียม อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมผู้ผลิตในประเทศด้วย เพราะยังไงก็ตาม อเมริกันต้องมาก่อนชาติอื่นๆ
แต่ทั้งนี้ นโยบายกดดันด้านภาษีอย่างสุดโต่ง คือ โดนหมด ไม่สนลูกใคร ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ทรัมพ์จะไม่ได้แค่ทำสงครามการค้ากับจีน แต่เปิดศึกกับทั้งโลก ไม่เว้นแต่ชาติที่นับถือกันเป็นพี่น้องร่วมสาบานอย่างไต้หวัน ก็ไม่ละเว้นหรืออย่างไรท่านพี่ นี่น้องไต้ฯ คนดีของพี่นะ
เพราะไต้หวันก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ค้าขายกับสหรัฐมายาวนาน และเกินดุลย์มาตลอด จากตัวเลขการส่งออกล่าสุดในปี 2024 พบว่า ไต้หวันนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ มูลค่า 4.23 หมื่นล้านเหรียญ แต่ส่งออกไปสหรัฐสูงถึง 1.16 แสนล้านเหรียญ ทำสหรัฐขาดดุลย์ไต้หวันเกือบ 7.4 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 54.6% จากเมื่อปีที่แล้ว
นี่ขนาดรวมตัวเลขที่รัฐบาลไต้หวันช่วยซื้ออาวุธ และเครื่องบินรบจากสหรัฐไปตั้งมากมายในปีที่ผ่านมาแล้วนะ
ก็จะไม่ให้ขาดดุลย์ได้อย่างไร แค่ชิพที่ผลิตจากไต้หวันในแต่ละปี มากกว่าครึ่งส่งออกไปที่สหรัฐ รวมมูลค่าก็ทะลุแสนล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว มากกว่าปริมาณชิพที่ส่งไปตลาดจีนและฮ่องกง ถึง 2 เท่า
ทรัมพ์เห็นตัวเลขแล้วก็คงของขึ้น ท่าจะไม่ได้การแล้ว และโทษว่า ไต้หวันกำลังปล้นอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิพของสหรัฐ เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็จัดไป ด้วยการขู่จะขึ้นภาษีชิพนำเข้าจากไต้หวันถึง 100% เลยทีเดียว
ดังนั้นสิ่งที่ไต้หวันต้องแก้ อยู่ในคลิปคำแถลงของทรัมพ์ กลางที่ประชุม World Economic Forum ที่ ดาวอส ครั้งที่ผ่านมาแล้วว่า
"สาส์นของผมถึงทุกๆผู้ประกอบการบนโลกนี้นั้นง่ายมาก : จงมาผลิตสินค้าของคุณในอเมริกา แล้วเราจะให้อัตราภาษีขั้นต่ำที่สุดกว่าทุกชาติบนโลก"
ซึ่งไต้หวันก็ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องให้ผู้ผลิตชิพยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน ควักเงินลงทุนในโรงงานที่สหรัฐเพิ่ม
โดย ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ได้ออกมากล่าวผ่านสื่อด้วยท่าที ระมัดระวังเป็นพิเศษว่า รัฐบาลไต้หวัน ยินดีที่จะเจรจากับทรัมพ์ ในประเด็นที่ผู้นำสหรัฐเป็นกังวล และยินดีที่จะร่วมมือกับพันธมิตรด้านประชาธิปไตยของเรา ที่จะขยายขอบเขตห่วงโซ่อุปทานด้านเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐ
และผู้นำไต้หวันอยากจะย้ำในฐานะประเทศที่มีอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกว่า ไต้หวันมีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ใหม่ๆได้ตลอดเวลา
ดังนั้น หากทรัมพ์อยากให้ไต้หวันเข้ามาลงทุนเปิดโรงงานในสหรัฐเพิ่ม ไต้หวันก็จะทำ หรือให้ซื้อโดรนสากกระเบือ ยันเรือรบ (ทั้งๆที่ผลิตเองก็ได้) ไต้หวันก็จะซืัอ ขอให้บอกมา
น้องไต้ฯ แสนดีขนาดนี้ ศิษย์พี่ยังทำกับน้อง กับนุ่ง ได้ลงคอ น่าสงสาร 🥲
ถึงจะดูว่า คำขู่ของทรัมพ์ในการใช้กำแพงภาษีเป็นอาวุธ ในการดึงประเทศคู่ค้าให้ยอมทำตามกติกาของสหรัฐ แต่ บ็อบ โอ'ดอนเนล หัวหน้าทีมวิเคราะห์ของ TECHnalysis Research ในแคลิฟอร์เนีย ตั้งข้อสงสัยว่า ทรัมพ์เข้าใจกลไกในระบบอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์จริงๆ หรือเปล่า
เพราะการสร้างโรงงานผลิตชิพสักแห่ง มันไม่ได้ง่ายเหมือนตั้งร้านสะดวกซื้อ ต้องใช้เงินลงทุน สร้างระบบสายการผลิต ที่ใช้เวลาหลายปี แต่ความต้องการชิพชั้นสูง มีแต่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งไต้หวันคือผู้ผลิตชิพชั้นสูงป้อนสู่ตลาดโลกถึง 90% ทว่า ทรัมพ์กลับคิดแต่จะใช้กำแพงภาษีดีดสินค้าต่างชาติออกไป
ดังนั้นการขึ้นภาษีกันไต้หวัน รังแต่จะทำให้ราคาชิพสูงขึ้น ที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทนักพัฒนาอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆในสหรัฐเอง และก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของบริษัทผู้ผลิตชิพอเมริกันด้วย เพราะการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ มันไม่สามารถทำได้แค่เพียงข้ามวัน
แต่ในเมื่อทรัมพ์มองว่า ชิพ TSMC ของไต้หวัน ก็ไม่ต่างอะไรจาก สินค้าโหลๆ ของ Temu น้องไต้ฯ ก็ต้องเหนื่อยใจหน่อย โชคดีที่น้องไต้ฯ ยังพอมีเงิน ก็ต้องใช้เงินแก้ปัญหากันไป จนกว่าลูกพี่จะพอใจ🙃
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 58
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
