15 ก.พ. เวลา 10:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ

# ทำไมบริษัทประกันถึงไม่ตรวจสอบประวัติสุขภาพลูกค้าก่อน

ช่วงนี้ประกันสุขภาพกำลังมาแรงมากตีคู่มากับกระแส Co-payment และคำถามที่ตามมาและเป็นข้อสงสัยจากลูกค้าแนนหลายๆคนก็คือ “ทำไมบริษัทประกันถึงไม่ตรวจสอบประวัติลูกค้าก่อนอนุมัติกรมธรรม์” ในที่นี้แนนหมายถึงเวลาที่ลูกค้าถามว่าต้องสำรองจ่ายไหม คำตอบที่ได้คือ
“ทุกๆกรมธรรม์ประกันสุขภาพมีโอกาสสำรองจ่ายค่ะ เช่น กรณีอายุกรมธรรม์ยังไม่เยอะแล้วลูกค้าตรวจเจอโรคร้ายแรง บริษัทต้องทำการตรวจสอบประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนไหม ซึ่งถ้าการเจ็บป่วยครั้งนั้นมีความจำเป็นทางการแพทย์ที่จะต้องรักษาทันทีก็ต้องสำรองจ่ายก่อนค่ะ แล้วหลังจากตรวจสอบประวัติแล้วไม่พบประวัติบริษัทก็จะคืนเงินที่สำรองจ่ายให้ค่ะ”
และลูกค้าหลายๆคนก็จะถามว่า “แล้วทำไมบริษัทไม่ตรวจสอบประวัติให้เสร็จก่อนแล้วค่อยอนุมัติล่ะ จะได้มั่นใจว่าลูกค้าไม่เคยเป็นมาก่อน และลูกค้าจะได้ไม่ต้องสำรองจ่าย?” พอมาถึงตรงนี้ปุ๊บ!! ในใจแนนก็จะคิดว่า
พี่ฟังก่อน!
พี่ฟังก่อน!
พี่ฟังก่อน!
พี่ฟังก่อน!
(อินเนอร์แบบมีมสาวเก็บโทรศัพท์ได้ข้างสโตร์)
เรามาดูกันค่ะว่า เพราะเหตุผลอะไรทำไมบริษัทถึงไม่ตรวจสอบประวัติลูกค้าก่อนอนุมัติประกัน...
1.ทุกๆการทำประกันจะมีแบบสอบถามเพื่อแถลงประวัติสุขภาพ “ผู้ขอเอาประกันมีหน้าที่กรอกข้อมูลตามความเป็นจริง” เคยตรวจเจอโรคร้ายแรง โรคเรื้อรัง หรือเคยได้รับการผ่าตัดไหม ผ่าตัดเล็กผ่าตัดใหญ่ ทอลซิน ความดัน ไขมัน ฯลฯ ต้องแถลงให้หมด ฉะนั้น…แสดงว่าเบื้องต้นบริษัทประกันก็จะพิจารณาจากการให้ข้อมูลของผู้เอาประกันเป็นอันดับแรกค่ะ ถ้าข้อมูลเพียงพอบริษัทก็จะออกข้อยกเว้นไม่คุ้มครองการรักษาโรคนั่นนี่ บลาๆออกมาเลย แต่ถ้าข้อมูลไม่เพียงพอบริษัทก็จะขอประวัติจากโรงพยาบาลเพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมค่ะ
ฉะนั้น...บริษัทจะสืบหรือไม่สืบประวัติก็มาจากการแถลงประวัติสุขภาพของเรานี่แหละค่ะ
2.ตามเงื่อนไข New Health Standard ของ คปภ. บริษัทประกันมีสิทธิ์ที่จะยกเลิกหรือไม่ต่อสัญญาประกันสุขภาพได้ก็ต่อเมื่อ
1. ผู้ขอเอาประกันไม่แถลงประวัติสุขภาพตามความเป็นจริง
2. ขอเข้ารับการรักษาโดยไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์
3. นอนเพื่อเอาชดเชย
ดังนั้น...จึงเป็นสิทธิ์ของบริษัทประกันที่จะไม่จ่ายค่ารักษาหากผู้เอาประกันไม่แถลงประวัติสุขภาพตามความเป็นจริง
3.ค่าใช้จ่ายและค่าดำเนินการในการสืบประวัติค่อนข้างสูง
การตรวจสอบประวัติลูกค้าแต่ละโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายประมาณ 300-500บาท ซึ่งในการตรวจสอบแต่ละครั้ง บริษัทจะตรวจสอบจากโรงพยาบาลที่คิดว่าลูกค้าจะเข้าใช้บริการไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลใกล้บ้าน ใกล้าที่ทำงาน บ้านเกิด โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาและอื่นๆ อย่างน้อยๆ 10โรงพยาบาลขึ้นไป ดั้งนั้นค่าใช้จ่ายคร่าวๆเริ่มต้นประมาณ 3,000บาทแล้วค่ะ ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบบริษัทก็คงไม่เสียค่าใช้จ่ายโดยใช้เหตุ
4.เป็นสิทธิ์ของบริษัทประกันภายใต้เงื่อนไขของ คปภ. ที่จะตรวจสอบประวติลูกค้าก่อนการอนุมัติเบิกเคลม (และทำได้แบบไม่ผิดกฎหมาย) เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าไม่เคยเป็นโรคมาก่อนบริษัทก็จะตรวจสอบตามสิทธิ์ของผู้ให้ประกันค่ะ แต่ก็จะมีเงื่อนไขอยู่ว่าบริษัทจะตรวจสอบประวัติได้เพียงโรงพยาบาลละ 1 ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นถ้าเราไปเข้าโรงพยาบาลเดิมที่เคยตรวจสอบไปประวัติไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้วยอาการหรือโรคใดก็ตาม ก็จะไม่ต้องสำรองจ่ายแล้วค่ะ
5.เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า
ถ้าทุกๆกรมธรรม์ต้องมีการตรวจสอบประวัติลูกค้าก่อนถึงจะอนุมัติได้ แนนคิดว่าการซื้อประกันเล่มนึงน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3เดือนค่ะ เพราะต้องรอตรวจสอบประวัติ และยิ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลก็จะยิ่งใช้เวลานานเข้าไปอีก ดังนั้นการไม่ตรวจสอบประวัติก่อนจึงถือเป็นการเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าอีกทางหนึ่งค่ะ
###สรุป อย่ากลัวเคลมไม่ได้และอย่ากลัวการสำรองจ่ายเลยค่ะ ตราบใดที่เรามั่นใจว่าเราไม่เคยมีประวัติเป็นโรคมาก่อนและสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีตั้งแต่ทำประกัน...ยังไงก็เคลมได้ไม่มีปัญหาค่ะ
โฆษณา