Meta ประกาศทิศทางธุรกิจใหม่ หุ่นยนต์ Humanoid ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทุ่มลงทุน 2 ล้านล้านบาท
ที่ผ่านมา Meta เคยประกาศวิสัยทัศน์ ลงทุนในเทคโนโลยี AR/VR และ AI อย่างหนักและต่อเนื่อง
ล่าสุด Meta ก็ได้กำหนดทิศทางการลงทุนครั้งใหม่เพิ่มเข้ามา นั่นคือ “หุ่นยนต์ Humanoid” ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ซึ่งบริษัทจะทุ่มงบลงทุนจำนวนมากในเทคโนโลยีนี้ โดยเน้นไปที่หุ่นยนต์แห่งอนาคต ที่สามารถเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ และช่วยงานภายในบ้านได้
สำหรับในปีนี้ Meta จะลงทุนถึง 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.2 ล้านล้านบาท ในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน AI และโครงการพัฒนาหุ่นยนต์ Humanoid
โดย Meta ได้จัดตั้งทีมงานใหม่ภายในแผนก Reality Labs ที่จะมาดูแลโครงการหุ่นยนต์ Humanoid โดยเฉพาะ
ซึ่ง Marc Whitten อดีตซีอีโอของ Cruise (แผนกพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของ General Motors) จะเป็นหัวหน้าทีม เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารของ Unity Software และ Amazon มาก่อน
ทั้งนี้ Reality Labs คือหน่วยงานด้านฮาร์ดแวร์ของ Meta ที่พัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แว่น VR Mata Quest และ Ray-Ban Smart Glasses
ดังนั้นเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ Meta มีอยู่แล้ว จึงสามารถเอามาพัฒนาหุ่นยนต์ได้
เช่น ซอฟต์แวร์, AI, การติดตามการเคลื่อนไหวของมือ (hand tracking), คอมพิวเตอร์ที่ใช้แบนด์วิดต์ต่ำ, เซ็นเซอร์แบบเปิดตลอดเวลา (always-on sensors)
นอกจากนี้ Meta บอกว่า แม้ตอนนี้หุ่นยนต์ ยังไม่สามารถทำงานบ้านพื้นฐาน เช่น พับผ้า, หยิบแก้วน้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ความก้าวหน้าของ AI และข้อมูลที่ Meta รวบรวมจาก AR และ VR จะช่วยเร่งการพัฒนาของอุตสาหกรรมนี้ได้
Meta ได้เริ่มหารือกับบริษัทหุ่นยนต์ เช่น Unitree Robotics และ Figure AI แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก Meta ยังไม่มีแผนที่จะสร้างหุ่นยนต์ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง
แต่จะพัฒนา AI, เซ็นเซอร์, ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ที่จะใช้กับหุ่นยนต์ของบริษัทอื่น ๆ ในตลาด
โมเดลของ Meta ที่ต้องการจะเป็นคือ “แพลตฟอร์มมาตรฐานของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์”
หรือเปรียบเสมือน “Android” ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ นั่นเอง
และ Meta ก็กำลังวางตำแหน่งให้โมเดล Llama ของบริษัทเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐาน สำหรับนักวิจัยด้านหุ่นยนต์ทั่วโลก
อย่างไรก็ดี Meta บอกว่า
พวกเขาก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ในอนาคต ที่อาจพิจารณาแนวทางสร้างหุ่นยนต์ภายใต้แบรนด์ตัวเองออกไป..
ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับหุ่นยนต์ Optimus ของ Tesla
สำหรับหุ่นยนต์ Optimus ของ Tesla ได้ประกาศว่า ในอนาคตจะวางจำหน่ายให้ผู้บริโภคทั่วโลก และอาจมีราคาอยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ตัวละ 1 ล้านบาท
ในมุมมองของ Meta เล็งเห็นว่า หุ่นยนต์ Humanoid นั้น เป็นวิวัฒนาการที่พัฒนาต่อยอด มาจากรถยนต์ไร้คนขับ เนื่องจากใช้ AI และข้อมูลปริมาณมหาศาลในการประมวลผล
อย่างไรก็ตาม Meta มองว่าหุ่นยนต์สำหรับใช้งานในบ้านนั้น ท้าทายกว่ารถยนต์ไร้คนขับ
เพราะบ้านของแต่ละคน มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ในขณะที่ถนนในเมือง มักมีมาตรฐานเดียวกัน
สุดท้ายนี้ Meta ยอมรับว่า หุ่นยนต์ Humanoid ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่า จะวางจำหน่ายในวงกว้าง
และแพลตฟอร์มของบริษัท อาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่า ถึงจะพร้อมรองรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น ๆ
แต่ Meta กำลังให้ความสำคัญกับโครงการนี้อย่างจริงจัง
และเชื่อว่า มันจะเป็นเทรนด์สำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคต..
- 43
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
