15 ก.พ. เวลา 13:00 • ข่าวรอบโลก

ยูเครนกำลังจะถูกบีบให้รับเงื่อนไขที่ 'ไม่ชนะ'... แล้วจะเหลืออะไรให้เดินเกมต่อ?

สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 โดยรัสเซียคาดการณ์ว่าจะยึดยูเครน (ล้มล้างรัฐบาลยูเครน) ได้ในเพียงไม่กี่วัน มีการส่งปฏิบัติการทางทหารตามพรมแดนหลายจุด และการปิดล้อมกรุงเคียฟเมืองหลวงของยูเครนอยู่เป็นเดือน แต่ก็เจอการต่อต้านจากฝั่งยูเครนที่ยืนหยัด จนสุดท้ายปลายเดือนมีนาคมของปีนั้นก็ต้องถอนกำลังการปิดล้อมที่กรุงเคียฟไปมุ่งเน้นบริเวณชายแดนที่รัสเซียยึดมาได้
ในปีนั้นผู้เขียนก็เคยได้วิเคราะห์สงครามครั้งนี้ตามหลักการของซุนวู แต่ขออนุญาติใช้ Chat Gpt ช่วยสรุปย่อเป็นข้อๆดังนี้
สรุปย่อบทความเดิม (ปี 2022) ตามแนวคิดซุนวู
📌 ประเด็นหลัก:
* รัสเซียทำสงครามผิดหลักซุนวูหลายข้อ
 
1. "สงครามเป็นเรื่องใหญ่ของรัฐ" → รัสเซียไม่ประเมินผลกระทบต่อราษฎรและเศรษฐกิจอย่างถี่ถ้วน
 
2. "ชนะโดยไม่ต้องรบดีที่สุด" → การผนวกไครเมียปี 2014 ทำได้แนบเนียนกว่า แต่ปี 2022 กลับเลือกทำสงครามเต็มรูปแบบ (รัสเซียคงจะคิดว่าจะทำอย่างไรกับยูเครนก็ได้)
 
3. "สงครามต้องเผด็จศึกโดยเร็ว" → รัสเซียไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สงครามยืดเยื้อ
4. "มรรค (ความเป็นธรรม)" → รัสเซียไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนและชอบธรรมในการบุก ทำให้ถูกต่อต้านจากประชาชนทั้งภายในและนานาชาติ
5. "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" → รัสเซียประเมินพลังต้านของยูเครนต่ำเกินไป
📌 ผลที่เกิดขึ้น:
* สงครามยืดเยื้อ ต้นทุนสูง กองทัพรัสเซียอ่อนล้า
* รัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างหนัก
* ประชาชนรัสเซียเองก็ได้รับผลกระทบ
* ยูเครนสามารถรักษาขวัญกำลังใจและได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติ
จากที่รัสเซียเคยคิดว่ายูเครนจะล้มภายในไม่กี่วัน -> วันนี้ผ่านมา 3 ปี สงครามยังไม่จบ
อัปเดตประเด็นที่เกิดขึ้นก่อนหน่อยระหว่างวันที่ 10-15 กุมภาพันธ์ 2025 สถานการณ์สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียมีความเคลื่อนไหวสำคัญดังนี้:
1. การเจรจาสันติภาพและบทบาทของสหรัฐฯ:
* ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อหาทางยุติสงครามในยูเครน
* มีรายงานว่าแผนสันติภาพที่เสนอโดยทรัมป์อาจรวมถึงการหยุดการรุกของรัสเซีย การสร้างเขตปลอดทหารที่มีทหารยุโรป (ไม่รวมสหรัฐฯ) ดูแล การห้ามยูเครนเข้าร่วม NATO และสนับสนุนการเข้าร่วมสหภาพยุโรปภายในปี 2030
1
2. ปฏิกิริยาของยูเครน:
* ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ยืนยันว่า ยูเครนจะไม่ยอมรับข้อตกลงสันติภาพที่ถูกจัดทำขึ้นโดยไม่มีส่วนร่วมของยูเครน
* เซเลนสกีเรียกร้องให้ยุโรปสร้างกองกำลังร่วมของตนเอง เพื่อเสริมความมั่นคงและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ
3. ท่าทีของสหรัฐฯ เกี่ยวกับ NATO:
* รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ ระบุว่า การที่ยูเครนจะกลับไปสู่พรมแดนก่อนปี 2014 นั้นไม่เป็นไปได้ และการเข้าร่วม NATO ของยูเครนก็ไม่อยู่ในแผน
4. ท่าทีของชาติอื่นๆ
ท่าทีของฝรั่งเศส:
* แสดงความกังวลว่าการเจรจาสันติภาพที่นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจส่งผลเสียต่อความมั่นคงของยุโรป หากไม่มีการมีส่วนร่วมของยุโรปในการเจรจา
ท่าทีของจีน:
* การเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมกระบวนการสันติภาพ: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน หวัง อี้ ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เข้าร่วมในการเจรจาสันติภาพ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของยุโรปในกระบวนการนี้
📌 สรุปเกมเจรจาสงครามยูเครน-รัสเซีย 2025 ตามแนวทางซุนวู
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ซุนวู
🔹 ยูเครน: จะรับหรือจะสู้ต่อ?
ยูเครนอยู่ในจุดที่ได้เปรียบกว่าตอนเริ่มสงครามแน่ ๆ เพราะลากรัสเซียให้ติดปลักมา 3 ปีเต็ม สถานการณ์ตอนนี้คือ รัสเซียอ่วม เศรษฐกิจโดนบีบ กำลังพลไม่ใช่แบบที่เคยเป็นตอนบุกครั้งแรก
📌 ทางเลือกของยูเครน:
1. รับข้อเสนอสันติภาพ → สงครามจบ แต่เสียบางดินแดน + อดเข้า NATO
* 🟢 สงครามจบ คนไม่ต้องตายอีก
* 🔴 เสียพื้นที่อย่างถาวร → เสียศรัทธาภายในประเทศ
* 🔴 อดเข้า NATO → ความมั่นคงในอนาคตยังไม่นิ่ง
2. ไม่รับข้อเสนอและสู้ต่อ → หวังให้รัสเซียพังเอง
* 🟢 รัสเซียอาจเสียเปรียบหนักขึ้น
* 🔴 เสี่ยงโดนหักหลัง ถ้าสหรัฐฯ ถอนตัวจริง
* 🔴 ต้องลากสงครามให้ไหว → ต้นทุนมหาศาล
3. เปลี่ยนเกม หาพันธมิตรใหม่ นอกจาก NATO
* 🟢 ได้การสนับสนุนทางทหาร + เศรษฐกิจจากจีน, อินเดีย, ตุรกี
* 🔴 อาจเป็นเกมที่ใช้เวลานาน → อาจทำให้ยูเครนอ่อนกำลังไปเอง
"กองทัพผู้พิชิต ชนะก่อนรบ" – ซุนวู
🔹 รัสเซีย: จะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยกลับดี?
รัสเซียเจ็บหนัก แม้จะได้เปรียบเรื่องอาวุธหนัก แต่การสู้ศึกนานเกินไปทำให้ระบบเศรษฐกิจในประเทศปั่นป่วน ปูตินอาจอยากปิดเกม แต่จะทำยังไงให้ดูเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายชนะ?
1
📌 ทางเลือกของรัสเซีย:
1. รับข้อตกลงสันติภาพ → อ้างชัยชนะ
* 🟢 รักษาหน้าทางการเมือง → ประกาศว่าได้ดินแดนมา
* 🔴 แต่คนรัสเซียอาจไม่พอใจ เพราะ สงครามที่ยืดเยื้อไปไม่คุ้มค่า
2. เดินหน้าสู้ต่อ → หวังบีบยูเครนให้รับเงื่อนไขที่หนักกว่า
* 🟢 อาจได้ดินแดนเพิ่ม
* 🔴 ถ้าแพ้เกมนี้ = เสียทั้งดินแดนที่ยึดมา + ศรัทธาภายใน
"ศึกที่ยืดเยื้อ ทำให้แผ่นดินอ่อนแอ" – ซุนวู
🔹 สหรัฐฯ: จะเอายังไง?
สหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ มองว่าสงครามนี้ "ไม่คุ้ม" เพราะเริ่มเป็นภาระหนักมาก และยุโรปก็ควรรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว
📌 ทางเลือกของสหรัฐฯ:
1. หนุนข้อตกลงสันติภาพ + ถอนตัวจากสงคราม
* 🟢 ลดต้นทุนทางทหาร + ทรัพยากร
* 🔴 ทำให้พันธมิตร NATO เสียความเชื่อมั่น
2. ลดการช่วยเหลือยูเครนแบบค่อยเป็นค่อยไป
* 🟢 ยังคงมีอิทธิพลในยุโรป
* 🔴 แต่ถ้ายูเครนไปไม่รอด ก็จะถูกมองว่าเป็นฝ่ายหักหลัง
"รู้ว่าแพ้ อย่ารบ รู้ว่าชนะ ค่อยเดินหมาก" – ซุนวู
🔹 ยุโรป: จะยืนด้วยตัวเองได้หรือไม่?
ยุโรปเริ่มมองว่า ถ้าสหรัฐฯ ถอย เราต้องรับมือเอง จึงมีแนวคิดตั้ง "กองทัพยุโรป" เพื่อความมั่นคง
📌 ทางเลือกของยุโรป:
1. สร้าง "กองกำลังป้องกันยุโรป"
* 🟢 ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ
* 🔴 ใช้งบประมาณสูง
2. เดินตามเกมสหรัฐฯ ลดการช่วยเหลือยูเครน
* 🟢 ลดความเสี่ยงของตัวเอง
* 🔴 อาจโดนยูเครนโจมตีทางการเมือง ว่าไม่จริงใจ
"ผู้ปกครองที่ดี ต้องทำให้ประชาชนเต็มใจเป็นหนึ่งเดียว" – ซุนวู
📌 สรุป
* ยูเครน → มีทางเลือก 3 ทาง: เจรจา / ยื้อต่อ / หาพันธมิตรใหม่
* รัสเซีย → ต้องเลือกว่าจะ ปิดเกมแบบมีศักดิ์ศรี หรือบีบยูเครนต่อ
* สหรัฐฯ → น่าจะ ลดบทบาทลง ควบคุมต้นทุนสงคราม
* ยุโรป → ต้อง ตัดสินใจว่าจะพึ่งพาสหรัฐฯ ต่อไปหรือไม่
📌 คำถามสำคัญ:
🚀 ยูเครนควรรับข้อตกลง หรือควรเดินเกมต่อไป?

🚀 รัสเซียจะปิดเกม หรือเดินหมากบีบยูเครนให้หนักขึ้น?

🚀 สหรัฐฯ จะถอนตัวจริงไหม? หรือเป็นแค่การขู่ทางการเมือง?

🚀 ยุโรปจะรับบทผู้นำได้ หรือจะเป็นแค่ผู้ตามของสหรัฐฯ ตลอดไป?
🔥 แล้วคุณล่ะ คิดว่าใครควรเดินเกมแบบไหน?
โฆษณา