17 ก.พ. เวลา 12:22 • ประวัติศาสตร์

จาก “เจ้าหญิงอินเดีย” สู่ “ราชินีเกาหลี”

เมื่อพูดถึง “เกาหลี” หลายคนก็คงจะนึกถึงเคป๊อป หรือบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลี เช่น “Samsung” “Hyundai” หรือ “LG” เป็นต้น
แต่ที่หลายคนไม่ทราบก็คือ เกาหลีกับ “อินเดีย” นั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมาเป็นเวลานานกว่า 2,000 ปีแล้ว เมื่อเจ้าหญิงอินเดียองค์หนึ่งได้อภิเษกสมรสกับ “พระเจ้าคิมซูโร (Suro of Geumgwan Gaya)” กษัตริย์ในตำนานผู้ก่อตั้ง “อาณาจักรกึมกวันกายา (Geumgwan Gaya kingdom)” ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี
และในปัจจุบัน มีคนเกาหลีกว่าหกล้านคนที่เชื่อว่าเป็นลูกหลานที่สืบสายเลือดมาจากเจ้าหญิงอินเดียองค์นี้
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ตามตำนานนั้น “พระเจ้าคิมซูโร (Suro of Geumgwan Gaya)” คือเจ้าชายหนึ่งในหกองค์ที่กำเนิดมาจากไข่ใบที่สวรรค์ประทานลงมา โดยเจ้าชายทั้งหกนี้ เมื่อเจริญวัย ก็ได้ทรงก่อตั้งอาณาจักรต่างๆ ในเกาหลี โดยพระเจ้าคิมซูโรเป็นองค์โต และได้ปกครอง “อาณาจักรกึมกวันกายา (Geumgwan Gaya kingdom)” ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ทรงอำนาจ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลี ดำรงอยู่ระหว่างค.ศ.42-562 (พ.ศ.585-1105)
ตามตำนานนั้น ข้าราชสำนักได้กราบทูลให้พระเจ้าคิมซูโรทรงเลือกพระมเหสีจากเหล่าหญิงสาวที่ข้าราชสำนักนำมาถวาย หากแต่พระเจ้าคิมซูโรทรงปฏิเสธหญิงสาวทั้งหมด และมีรับสั่งว่าพระมเหสีของพระองค์คือคนที่สวรรค์กำหนดลงมาเท่านั้น
จากนั้น พระเจ้าคิมซูโรทรงมีรับสั่งให้หนึ่งในข้าราชบริพารนามว่า “ยูชอนกัง (Yuchon-gan)“ ให้ออกเดินทางไปยังเกาะมังซันโด (Mangsan-do)“ ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองหลวง
พระเจ้าคิมซูโร (Suro of Geumgwan Gaya)
ขณะออกเดินทาง ยูชอนกังได้พบกับเรือลำหนึ่งที่ประดับด้วยธงแดง ยูชอนกังจึงนำเรือนั้นเข้าฝั่ง
บนเรือนั้น ยูชอนกังได้พบกับเจ้าหญิงที่มีพระพักตร์งามล้ำ พระนามว่า “สุรีรัตนา (Suriratna)” จาก “อาณาจักรอยุตะ (Ayuta Kingdom)” ในอินเดีย
เจ้าหญิงสุรีรัตนาได้เสด็จไปเข้าเฝ้าพระเจ้าคิมซูโร ซึ่งพระเจ้าคิมซูโรก็ได้ตรัสว่าพระองค์ทรงทราบอยู่แล้วว่าเจ้าหญิงสุรีรัตนาจะต้องมา พระองค์จึงไม่อภิเษกสมรสกับหญิงอื่นใดที่ข้าราชสำนักจัดมาถวาย
ค.ศ.48 (พ.ศ.591) พระเจ้าคิมซูโรทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงสุรีรัตนา และพระราชทานพระนามแก่เจ้าหญิงสุรีรัตนาว่า “พระราชินีฮอฮวังอก (Heo Hwang-ok)” ซึ่งมีความหมายว่า “หยกเหลือง“ เป็นจุดเริ่มต้นของ “ราชวงศ์การัค/คารัค (Garak/Karak dynasty)“
พระราชินีฮอฮวังอก (Heo Hwang-ok)
หลังจากเข้าพิธีอภิเษกสมรส พระราชินีฮอฮวังอกก็ได้กราบทูลพระราชสวามีว่าพระองค์นั้นมีพระชนมายุเพียง 16 พรรษา และที่พระองค์เสด็จมา ก็เนื่องจากทูตสวรรค์ได้ปรากฎในพระสุบินของพระราชบุพพการีของพระองค์ และสั่งให้ส่งพระราชินีฮอฮวังอกมาถวายพระเจ้าคิมซูโร ซึ่งพระเจ้าคิมซูโรคือคนที่ถูกเลือกให้เป็นกษัตริย์”
พระเจ้าคิมซูโรกับพระราชินีฮอฮวังอกทรงมีพระราชบุตรด้วยกัน 12 องค์
ในเกาหลี นามสกุล “คิม (Kim)” เป็นนามสกุลที่พบเห็นได้ทั่วไป มีคนใช้นามสกุลนี้เป็นจำนวนมาก และก็เชื่อว่าพระเจ้าคิมซูโรคือต้นตระกูลคิม
แต่ตามตำนานนั้น ก็เล่าว่าพระราชินีฮอฮวังอกทรงขุ่นเคืองพระทัยที่พระราชบุตรของพระองค์ไม่สามารถใช้นามสกุลของพระองค์ได้ พระเจ้าคิมซูโรจึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชโอรสสองพระองค์ใช้นามสกุลของพระราชินีฮอฮวังอก นั่นคือนามสกุล “ฮอ (Heo)”
ดังนั้น จึงมีการย้อนสายของคนที่นามสกุลฮอไปยังพระราชโอรสสองพระองค์นี้ ส่วนพระราชโอรสอีกแปดพระองค์นั้นนามสกุลคิม ส่วนอีกสองพระองค์เป็นพระราชธิดา ซึ่งก็ได้เสกสมรสกับขุนนางชั้นสูง
ตามตำนาน พระราชินีฮอฮวังอกสวรรคตขณะมีพระชนมายุ 157 พรรษา ส่วนพระเจ้าคิมซูโรสวรรคตขณะมีพระชนมายุ 199 พรรษา โดยหลุมศพที่เชื่อกันว่าเป็นหลุมฝังพระบรมศพของทั้งสองพระองค์ ตั้งอยู่ที่คิมแฮ ประเทศเกาหลีใต้
2
ในปัจจุบัน เชื่อกันว่ามีชาวเกาหลีกว่าหกล้านคนเป็นลูกหลานของพระราชินีฮอฮวังอก และชาวเกาหลีเหล่านี้ก็ถือว่าอินเดียนั้นคือแผ่นดินแม่ และทุกๆ ปี ชาวเกาหลีที่เชื่อว่าสืบเชื้อสายมาจากพระราขินีฮอฮวังอก ก็จะเดินทางไปยังเมืองอโยธยา ประเทศอินเดีย เพื่อกราบไหว้พระราชินีฮอฮวังอก
2
ในปีค.ศ.2001 (พ.ศ.2544) นักประวัติศาสตร์กว่า 100 คนรวมทั้งตัวแทนรัฐบาลเกาหลี ได้เปิดอนุสรณ์สถานพระราชินีฮอฮวังอกในบริเวณแม่น้ำสารจู ประเทศอินเดีย
แต่เรื่องราวของพระราชินีฮอฮวังอกก็ยังเป็นที่ถกเถียง โดยเฉพาะเรื่องของอาณาจักรอยุตะที่พระองค์เสด็จมา มีการคิดไปได้หลายทางว่าอาณาจักรอยุตะคือแห่งใดกันแน่
1.อาณาจักรอยุตะอาจจะหมายถึง “อาณาจักรอยุธยา (Ayutthaya Kingdom)“ ในประเทศไทย
2.อาณาจักรอยุตะอาจจะหมายถึงเมืองอโยธยาในประเทศอินเดีย
3.อาณาจักรอยุตะอาจจะหมายถึง “ราชวงศ์ปันดยา (Pandya dynasty)“ ซึ่งปกครองดินแดนทางใต้ของอินเดีย
และนี่ก็คือเรื่องราวของเจ้าหญิงอินเดีย ซึ่งต่อมากลายเป็นราชินีแห่งเกาหลี และมีชาวเกาหลีจำนวนมากที่เชื่อว่าตนสืบเชื้อสายมาจากพระองค์
โฆษณา