16 ก.พ. เวลา 09:21 • หนังสือ
"อุเบกขา" โคก หนองนา ป่า สวนผสม

OSHO คือใคร?

OSHO (โอโช) เป็นปราชญ์ชาวอินเดีย (1931-1990) ที่สอนเรื่อง สมาธิ การตื่นรู้ และอิสรภาพทางจิตวิญญาณ แนวคิดของเขาผสมผสาน พุทธศาสนา เต๋า ฮินดู เซน และปรัชญาสมัยใหม่ โดยเน้นการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ติดยึดกับศาสนา ประเพณี หรือกฎเกณฑ์ของสังคม
14 ความมหัศจรรย์ของสมาธิตามแนวทาง OSHO
1. ลดความเครียด จิตใจสงบ – สมาธิช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความฟุ้งซ่าน และทำให้มีสติรู้เท่าทันตัวเอง
2. มองเห็นความจริงชัดเจนขึ้น – ไม่ถูกอารมณ์และความคิดปรุงแต่งครอบงำ
3. ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น – โกรธน้อยลง มีเมตตามากขึ้น
4. สุขภาพกายดีขึ้น – ลดความดันโลหิต ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
5. ค้นพบความสุขจากภายใน – ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งภายนอกเพื่อให้มีความสุข
6. เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ – สมองโล่ง โปร่ง ไอเดียใหม่ ๆ เกิดขึ้นง่าย
7. เข้าถึงอิสรภาพทางจิตใจ – หลุดพ้นจากความกังวลและเงื่อนไขทางสังคม
8. ทำให้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง – ไม่ต้องพยายามเป็นในสิ่งที่สังคมต้องการ
9. สมาธิเป็นพลังแห่งชีวิต – ไม่ใช่แค่นั่งนิ่ง ๆ แต่เป็นการปลดปล่อยพลังภายใน
10. รักได้อย่างแท้จริง – เพราะความรักไม่ได้หมายถึงการครอบครอง
11. ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน – ไม่จมอยู่กับอดีตหรือกังวลกับอนาคต
12. ปลดปล่อยจากกฎเกณฑ์สังคม – มีอิสระในการคิดและใช้ชีวิตตามตัวตน
13. เข้าถึง "ความว่าง" ที่เต็มไปด้วยทุกสิ่ง – สภาวะไร้ตัวตน ไร้อัตตา
14. ช่วยให้ประสบความสำเร็จ – เพราะมีสมาธิและโฟกัสกับสิ่งที่ทำ 100%
OSHO เชื่อว่าสมาธิไม่ใช่แค่การนั่งเงียบ ๆ แต่เป็น "การใช้ชีวิตอย่างมีสติและอิสระ"
"มหัศจรรย์สมาธิ 365 วัน" เป็นหนังสือที่รวบรวมคำสอนของ OSHO สำหรับการฝึกสมาธิและการใช้ชีวิตอย่างมีสติในแต่ละวันตลอดทั้งปี หนังสือเล่มนี้จัดรูปแบบเป็น 365 บท ซึ่งแต่ละบทจะเป็นแนวคิด ข้อคิด หรือคำแนะนำเกี่ยวกับสมาธิ การตื่นรู้ และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย
โดยเนื้อหาในแต่ละวันมักจะเป็นแนวทางปฏิบัติ หรือข้อคิดที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น
  • 1.
    ​วิธีฝึกสมาธิอย่างง่าย
  • 2.
    ​การทำสมาธิขณะทำกิจกรรมประจำวัน
  • 3.
    ​ปรัชญาเกี่ยวกับความสุข ความรัก และจิตวิญญาณ
หากคุณสนใจหนังสือเล่มนี้ สามารถหาอ่านได้จากร้านหนังสือทั่วไปหรือแพลตฟอร์มออนไลน์
ถ้าคุณสนใจ สมาธิแบบนิ่งสงบ ตามแนวทางของ OSHO นี่คือวิธีเริ่มต้นที่เรียบง่ายและได้ผล
1. สมาธิเงียบ (Silent Sitting Meditation)
วิธีฝึก:
  • 1.
    ​หาที่เงียบ ๆ นั่งหลังตรง หลับตา
  • 2.
    ​หายใจเข้า-ออกลึก ๆ ค่อย ๆ ผ่อนคลายร่างกาย
  • 3.
    ​ไม่ต้องพยายาม "หยุดคิด" แค่เฝ้าดูความคิดอย่างเป็นกลาง
  • 4.
    ​ถ้ามีความคิดฟุ้งซ่าน ให้กลับมาโฟกัสที่ลมหายใจ
  • 5.
    ​ฝึกครั้งละ 10-30 นาที
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​จิตใจสงบ ฟุ้งซ่านน้อยลง
  • 2.
    ​เพิ่มความตื่นรู้และความมีสติ
2. สมาธิด้วยการสังเกตลมหายใจ (Watching the Breath)
วิธีฝึก:
  • 1.
    ​นั่งเงียบ ๆ หลับตา แล้วโฟกัสที่ลมหายใจ
  • 2.
    ​สังเกตลมหายใจเข้า-ออก โดยไม่ต้องควบคุม
  • 3.
    ​รู้สึกถึงอากาศที่เข้าและออกจากร่างกาย
  • 4.
    ​หากเผลอคิดเรื่องอื่น ให้กลับมาสังเกตลมหายใจต่อ
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​ช่วยให้จิตนิ่งเร็วขึ้น
  • 2.
    ​ลดความเครียดและความกังวล
3. สมาธิแห่งการเฝ้าดู (Witnessing Meditation)
วิธีฝึก:
  • 1.
    ​นั่งเงียบ ๆ แล้วเฝ้าสังเกตความคิด อารมณ์ และร่างกาย
  • 2.
    ​ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงอะไร แค่ดูมันเฉย ๆ
  • 3.
    ​คิดอะไรอยู่ก็ให้รับรู้ แต่ไม่ต้องไปตามความคิดนั้น
  • 4.
    ​ฝึกให้เหมือนเป็น "ผู้เฝ้าดู" ไม่ใช่ "ผู้มีอารมณ์ร่วม"
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​เข้าใจตัวเองมากขึ้น
  • 2.
    ​ลดความยึดติดกับอารมณ์และปัญหาชีวิต
4. สมาธิแบบไร้ความพยายาม (Letting Go Meditation)
วิธีฝึก:
  • 1.
    ​นั่งลง ผ่อนคลาย และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปเอง
  • 2.
    ​ไม่ต้องฝืนทำอะไร ไม่ต้องพยายามโฟกัส
  • 3.
    ​แค่ "อยู่กับปัจจุบัน" อย่างสบาย ๆ
  • 4.
    ​ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ตัดสิน
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​ลดความเครียดและการบังคับตัวเอง
  • 2.
    ​รู้สึกเป็นอิสระจากความคิดและความคาดหวัง
สรุป
ถ้าคุณต้องการสมาธิที่สงบนิ่ง "สมาธิเงียบ + การสังเกตลมหายใจ" เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เมื่อฝึกไปเรื่อย ๆ คุณจะพบว่า จิตใจสงบ มีสติ และเข้าใจตัวเองมากขึ้น
คุณอยากเริ่มต้นฝึกแบบไหนก่อนครับ
และ
สมาธิแนวเคลื่อนไหว ตามแนวทางของ OSHO มีหลายรูปแบบ และ การเดินจงกรม ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่นั่งนิ่ง ๆ แล้วรู้สึกฟุ้งซ่านง่าย หรืออยากให้ร่างกายมีส่วนร่วมในการทำสมาธิด้วย
1. การเดินจงกรม (Walking Meditation)
วิธีฝึก:
  • 1.
    ​เดินช้า ๆ ด้วยสติ โฟกัสที่ทุกย่างก้าว
  • 2.
    ​รู้สึกถึงฝ่าเท้าที่สัมผัสพื้น
  • 3.
    ​หายใจเข้าออกอย่างเป็นธรรมชาติ
  • 4.
    ​ไม่ต้องเร่งรีบ เดินอย่างสงบ
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​ทำให้จิตสงบขณะเคลื่อนไหว
  • 2.
    ​ช่วยฝึกสติในชีวิตประจำวัน
2. สมาธิไดนามิก (Dynamic Meditation) (เป็นเอกลักษณ์ของ OSHO)
เป็นสมาธิที่เน้นการเคลื่อนไหวเพื่อปลดปล่อยพลังงานภายใน
แบ่งเป็น 5 ขั้นตอน (รวม 60 นาที):
  • 1.
    ​หายใจแรง ๆ (10 นาที) – หายใจเร็วและลึกเพื่อกระตุ้นพลังงาน
  • 2.
    ​แสดงออกทางร่างกาย (10 นาที) – กระโดด ตะโกน เต้นรำ หรือปล่อยอารมณ์ออกมา
  • 3.
    ​กระโดดและเปล่งเสียง “ฮู!” (10 นาที) – ช่วยให้พลังงานเคลื่อนตัว
  • 4.
    ​หยุดนิ่งทันที (15 นาที) – ยืนเงียบ ๆ และเฝ้าสังเกตร่างกาย
  • 5.
    ​เต้นรำเฉลิมฉลอง (15 นาที) – ปลดปล่อยตัวเองอย่างเป็นอิสระ
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​คลายความเครียดที่สะสม
  • 2.
    ​ทำให้จิตใจเบิกบานและเป็นอิสระ
3. สมาธิแบบเต้นรำ (Nadabrahma Meditation)
วิธีฝึก:
  • 1.
    ​นั่งเงียบ ๆ แล้วเริ่ม ฮัมเสียง ในลำคอ
  • 2.
    ​หลังจากนั้น เคลื่อนไหวมือเบา ๆ เป็นวงกลม
  • 3.
    ​จบด้วยการนั่งนิ่งและเฝ้าสังเกตตัวเอง
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​ช่วยให้จิตนิ่งผ่านเสียงและการเคลื่อนไหว
  • 2.
    ​สมาธิรูปแบบนี้คล้ายกับการสวดมนต์ภายใน
4. สมาธิแบบสั่นไหว (Kundalini Meditation)
วิธีฝึก: (ใช้เวลา 60 นาที แบ่งเป็น 4 ช่วง)
  • 1.
    ​ยืนแล้วปล่อยให้ร่างกายสั่นไหว (15 นาที) – ไม่ต้องบังคับ แค่ปล่อยให้เกิดขึ้น
  • 2.
    ​เต้นรำอิสระ (15 นาที) – เคลื่อนไหวร่างกายตามความรู้สึก
  • 3.
    ​นั่งนิ่งและเฝ้าดู (15 นาที) – ปล่อยให้จิตใจสงบลง
  • 4.
    ​นอนราบและเฝ้าดูภายใน (15 นาที)
ผลลัพธ์:
  • 1.
    ​ช่วยปลดปล่อยพลังงานที่ติดขัด
  • 2.
    ​รู้สึกเบาสบายและเป็นอิสระจากความเครียด
สรุป
  • 1.
    ​ถ้าต้องการฝึกสติในชีวิตประจำวัน → เดินจงกรม
  • 2.
    ​ถ้าต้องการปลดปล่อยอารมณ์ → สมาธิไดนามิก
  • 3.
    ​ถ้าชอบเสียงและการเคลื่อนไหวเบา ๆ → สมาธิแบบเต้นรำ
  • 4.
    ​ถ้าต้องการปลดปล่อยพลังงานภายใน → สมาธิแบบสั่นไหว
ขอบคุณข้อมูลดีจาก Chat GPT มากๆ ครับ
โฆษณา