17 ก.พ. เวลา 07:15 • ความคิดเห็น
เรื่องของจิต เรื่องราวของความยึดถือ มันเป็นเรื่องที่เรานั้น ก็รู้ว่า ..จิตนั้นมั้ยยึดอย่างไร เราเคยเจอะเจอเรื่องหนึ่ง ที่ว่า ฉันทำบุญ ถวายที่สร้างวัด ลูกหลานก็ว่า วัดนี้ เป็นของเรา ปูย่าตายาย สร้าง ..แต่ว่า เอ..คนที่ว่า ถวายที่ปัจจัยนั้น ทำไม ถึงไม่ได้ไปไหน ก็ยังอยู่กับสถานที่นั้น ไหนว่า สร้างวัดมา ..น่าจะหนุนนำไปสสถานที่ดีๆ
ที่ว่า ..เห็นแก่ได้ ..เห็นแก่ ..เห็นแต่ความสุขของกาย เห็นแก่ความสุขที่อารมณ์ปนเปรอให้ ..หลอกให้ว่าเป็นสุข ..แล้วจิตนั้น .เป็นสุขเพราะอารมณ์อุปโลกน์ให้ มันย้อนไปย้อนมากันอยู่
มีเรื่องราวหนึ่ง ที่มีผู้ใหญ่ ครัังต้นสุโขทัย ต้นอยุธยา ท่านเล่าให้ฟังว่า พอจิตจะหลุดออกจากกาย จิต..มีห่วง ห่วงบ้านห่วงเมืองห่วงลูกหลาน มันก็เป็นบ่วงคล้องจิตฉันให้ไปไหนไม่ได้ ไม่สามารถ จะลอยขึ้นไปที่สูงๆได้ ก็ต้องรอเวลา ..จนกว่า ..ได้เจอะเจอ ผู้ที่ส่งบุญกุศลให้ ให้จิตนั่นมีกำลัง ลอยขึ้นที่สูงได้ ..จึงมีเรื่องราว ..ขอผู้ที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด เช่น ทหารครั้งกรุงศรี ก็ยังอยู่..ในมิติที่ใกล้ มิติของมนุษย์ เป็นโอปปาติกะ อยู่
หากเรารู้จักคำว่า จิต ..จิตของตัวเองได้ ..จ้ตนั่นก็เพียรพยายาม ปลดเปลื้องทุกข์ เพื่อให้จิตพ้นทุกข์ เพราะรักษาจิตของตัวเองไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว มันจะค่อย รู้สึกเบื่อหน่าย ในการเกิด
..บ้างก็ว่า นิพพิทาญาณเกิดขึ้น ทำให้ไม่อยากเกิด ไม่อยากเกิดกายนี้อีก เค้าก็เลือกว่า จะทำอะไรบ้างให้แก่จิต ที่ต้องเดินทางออกจากสังขารนี้ๆไป เค้าก็คัดกรองเลือกเอาสิ่งที่ดีๆไป อะไรไม่ดี ..ก็หยิบจับทิ้งมันไป ของไม่ดีในกาย ก็ค่อยทิ้ง เพราะจิตมันยังเล็ก ก็ขยับขยายจิตให่โตขึ้น จะได้ทิ้ง..ความยึดถือ ต่างๆออกไป ทำให้กายเบา จ้ตก็เบาไปด้วย
โฆษณา