Update : ข่าวหุ้นสำคัญ 18/02/2568
สองหมอขอลงทุน
นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีลุ้นรีบาวด์หลังวานนี้ร่วงไป 15 จุด แรงขายกระจุกตัวในหุ้น DELTA และ AOT ขณะที่หุ้น big cap ตัวอื่นปรับขึ้นกระจายหลายกลุ่ม อีกทั้งแรงขาย LTF ลดลง ขณะที่ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิแล้ว รวมถึงคาดประชุม กนง.26 ก.พ.ส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินหลัง GDP ไตรมาส 4/67 ต่ำคาด ให้กรอบแนวรับ 1,245 จุด แนวต้าน 1,265 จุด
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีลุ้นรีบาวด์หลังวานนี่ร่วงไป 15 จุด ขณะที่แรงขายกระจุกตัวในหุ้น DELTA และ AOT แต่เม็ดเงินลงทุนโยกออกไปกระจายหลายกลุ่มหนุนหุ้น big cap ปรับขึ้น
แม้วานนี้ (17 ก.พ.) นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 3,182 ล้านบาท แต่การไถ่ถอนกองทุน LTF มีเพียง 367 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับจากต้นปี 68 สะท้อนแรงไถ่ถอน LTF ชะลอหลังมีข่าวกระทรวงคลังจะฟื้น LTF ส่วนสถาบันปรับพอร์ตจากการปรับตัวลงของ 2 หุ้นใหญ่
ขณะที่นักลงทุนต่างขาติวานนี้ซื้อสุทธิ 4,669 ล้านบาทเห็นภาพทิศทาง Flow ที่ดีขึ้น โดยในเดือน ก.พ. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6 พันล้านบาท เป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ทำให้แรงกดดันตลาดหุ้นไทยเบาลง
นอกจากนี้ วันนี้ต่างประเทศไม่มีปัจจัยลบ โดยตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ (17 ก.พ.) ปิดทำการ
สำหรับตัวเลข GDP ไตรมาส 4/67 ออกมา 3.2% ต่ำกว่าตลาดคาดไว้ที่ 3.9% นั้น มองระยะถัดไป GDP อาจยังคงต่ำคาด ทำให้มีความไม่แน่นอนสูง จึงมองว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 ก.พ.นี้มีโอกาสที่ กนง.จะส่งสัญญาณผ่อนคายทางการเงิน จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น
พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,245 จุด แนวต้าน 1,265 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,187.99 จุด เพิ่มขึ้น 13.74 จุด หรือ +0.04% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,664.73 จุด เพิ่มขึ้น 48.50 จุด หรือ +0.21% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,348.98 จุด ลดลง 6.85 จุด หรือ -0.20%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.พ.) ที่ 1,256.48 จุด ลดลง 15.62 จุด (-1.23%) มูลค่าซื้อขาย 56,376.50 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (17 ก.พ.) 4,669.75 ล้านบาท
- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.พ.) อยู่ที่ 4.12 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.71 ทรงตัวจากวานนี้ รอปัจจัยใหม่ จับตานโยบายสหรัฐ-ถ้อยแถลงจนท.เฟด
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ จ่อชงคลัง เสนอขอเว้น 2 สิทธิ "ยกเว้นภาษีกำไรส่วนเพิ่ม-ไม่เก็บภาษีย้อนหลัง" สำหรับบจ.เข้าโครงการ Jump+ คาดชัดเจนใน 2 สัปดาห์นี้ ส่วนปรับเกณฑ์กำหนดน้ำหนักหุ้นรายตัวไม่เกิน 10% ในดัชนีฯ เริ่มใช้ได้กลางปีนี้ เล็งหารือพาณิชย์ปลดล็อกบจ. "ซื้อหุ้นคืน" สะดวกขึ้น จับตาคลังแจงโยกเงิน LTF ไปเป็น Thai ESG2 วันพุธ 19 ก.พ.นี้
- สศช.ประเมินจีดีพีปี 68 ขยายตัว 2.8% ต่ำกว่าเป้าที่รัฐบาลต้องการให้โต 3-3.5% ทั้งที่รวมผลโครงการแจกเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว ลั่นถ้าต้องการโตตามเป้าหมาย รัฐควรปันเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาทบางส่วนมาลงทุนบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ พร้อมกระตุ้นบริโภค และลงทุนเอกชน
- TDRI ร่วมกับ CMDF, FETCO และก.ล.ต. จัดกิจกรรม Hackathon ระดมไอเดียพัฒนาตลาดทุนไทย สร้างความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ดร.กอบศักดิ์ (FETCO) ชี้ ตลาดทุนไทยต้องปรับตัวเร่งด่วน พร้อมดึงคนรุ่นใหม่ร่วมขับเคลื่อน ขณะที่ ดร.กิรติพงศ์ (TDRI) ย้ำการยกระดับผลิตภัณฑ์ บริการ ระบบซื้อขายให้มีประสิทธิภาพ ช่วยผลักดันตลาดทุนไทยสู่อนาคต
กลุ่มโรงพยาบาล -นสพ.รายงาน ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนักใน ญี่ปุ่น จีน อเมริกา เป็นการระบาดตามฤดูกาล เหตุที่มีผู้เสียชีวิตหลังติดไข้หวัดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงวัย และเด็ก ย้ำ...คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนก ถ้าอยู่ไทยไม่ไปไหนไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนก็ได้ แต่ถ้าจะเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดควรฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์
โดยฉีดวัคซีนสำหรับป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในแต่ละภูมิภาคคือวัคซีนสำหรับซีกโลกเหนือ คือ อเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ หรือวัคซีนสำหรับซีกโลกใต้คือออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ สำหรับไทยอยู่ในโซนซีกโลกใต้ ซึ่งปกติจะมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในช่วงเปิดเทอม คือเดือน พ.ค.
ดังนั้น การฉีดวัคซีนสำหรับคนไทยควรเป็นช่วงปลายเดือน เม.ย. จนถึง พ.ค. จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันมากที่สุด โดยกลุ่มเสี่ยงคือผู้มีโรคประจำตัว ผู้สูงวัย 608 และเด็ก ควรฉีดวัคซีนป้องกันไว้จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาหากมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่
*กลุ่มอาหาร -นสพ.รายงาน กรมสรรพสามิตยังอยู่ระหว่างการศึกษาการจัดเก็บภาษีความเค็ม ซึ่งหลักการเบื้องต้นจะคิดอัตราภาษีตามปริมาณโซเดียมและส่วนประกอบ เช่น ผงฟู ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ทำลายสุขภาพ โดยหากมีปริมาณโซเดียมสูงก็จะต้องเสียภาษีมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่จะพิจารณาเป็นกลุ่มแรกๆ คือ ขนมขบเคี้ยว ขนมกรุบกรอบ เนื่องจากมองว่ามีความจำเป็นน้อย หรือไม่มีความจำเป็นในการบริโภคเมื่อเทียบกับสินค้าประเภทอื่นๆ
*BRI -นสพ.รายงาน เผยปี 68 ระมัดระวังในการลงทุน หลังตลาดอสังหาฯ แนวราบยังผันผวน ขณะที่ต้นปีเน้นระบายสต๊อกที่มีกว่า 3,500 ล้านบาท เตรียมเปิดใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลัง
*IRPC -นสพ.รายงาน ประกาศเตรียมเสนอขายหุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล 5 รุ่น ให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป อายุระหว่าง 4-9 ปี ผ่าน 10 สถาบันการเงิน ชูดอกเบี้ยคงที่ 3.70-4.35% ต่อปี คาดเปิดจองซื้อ 20-21 มี.ค. และ 24 มี.ค.นี้ ด้านทริสฯ จัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "A-"
*กลุ่มโรงไฟฟ้า -นสพ.รายงาน กกพ. ยืนยันเจรจาสัญญา Adder และ FiT ในกลุ่ม SPP-VSPP เพื่อลดค่าไฟ 17 สตางค์ต่อหน่วย สามารถทำได้ โดยยกหลักการความเป็นธรรมต่อประชาชน ลุ้น กพช.ไฟเขียวมติแก้ต้นทุนค่าไฟใหม่เพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง จากนั้นเร่งเจรจาโครงการที่คืนทุนแล้วเพื่อขอปรับลดราคาค่าไฟลง
*MFC -นสพ.รายงาน เปิดขายกองทุนเปิด เอ็มเอฟซี อีเธอเรียม อีทีเอฟ แทรคเกอร์ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (METHETF-UI) เน้นลงทุนใน "Ethereum" สกุลเงินดิจิทัลใหญ่เป็นอันดับสองของโลก นำร่องกองทุนแรกในไทย ลงทุนผ่านกองทุน "Ethereum ETF" เสนอขาย IPO ระหว่างวันที่ 18-27 ก.พ. 68
*DELTA นสพ.รายงาน ราคาดิ่งผิดหวังงบไตรมาส 4/2567 "กูรู" หวั่นความเสี่ยงเพิ่มคู่แข่งในสหรัฐฟ้องละเมิดสิทธิบัตร ขณะนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ เชื่อกดดันราคาหุ้นไปอีก 1-2 ไตรมาส ทำให้กองทุนเลี่ยงลงทุน โบรกเกอร์แห่ปรับลด "กำไร-ราคาเหมาะสม" เหตุกำไรปี 2568-70 ส่อลงจาก AI แข่งดุ-กังวลคดีความ
*SAMART -นสพ.รายงาน เผยนโยบายขยายวัน-เวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนุนธุรกิจ ช่วยเก็บภาษีเบียร์ Direct Coding ส่อรายได้ทะลุเป้าที่ประมาณการไว้ปีละพันล้านบาท เดินหน้าเก็บภาษีกลุ่มอื่นขณะที่ภาพรวม SAMART ปีนี้รายได้แตะ 1.35 หมื่นล้านบาท SAMTEL เด่น พบ "กลุ่มชินวงศ์วรกุล" ดอดถือหุ้นเกิน 10% ยันไม่กระทบโครงสร้างเดิม
*MOTHER -นสพ.รายงาน เดินหน้าสร้างการเติบโตธุรกิจตามแผน นำเงินระดมทุนคืนหนี้ ลดภาระต้นทุนทางการเงิน สร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมรุกเปิดสาขาเพิ่ม 3 แห่ง เจาะทำเลยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวรองรับกลุ่มลูกค้าคนไทย-ต่างชาติ ด้านกลุ่มผู้ก่อตั้งและผู้บริหารยืนยันชัดเจนไม่มีใครขายหุ้นออก
*PLANB -นสพ.รายงาน วางหมาก ปี 2568 ผลงานโตต่อเนื่อง อานิสงส์ขยายฐานธุรกิจ แถมเตรียมชงบอร์ด เคาะแผนอัพแกร่งช่วงปลายกุมภาพันธ์ นี้ แถมล่าสุดจับมือ VGI เป็นตัวแทนขายสื่อในเครือทั้งหมด สยายปีกยกระดับสู่ผู้นำสื่อนอกบ้านครบวงจร
Source:* Aspen รายงานข่าวประกอบจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
