สมการบัญชี: พื้นฐานที่ผู้ประกอบการควรรู้
หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีพื้นฐานด้านบัญชีมาก่อน การทำความเข้าใจเรื่องบัญชีอาจดูเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่จริง ๆ แล้ว แนวคิดหลักของบัญชีสามารถสรุปได้ด้วย "สมการบัญชี" เพียงสมการเดียว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเงินในธุรกิจทุกประเภท ถ้าสนใจ "ล้อมวงกันเข้ามา... แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง"
1. สมการบัญชีคืออะไร?
สมการบัญชี (Accounting Equation) เป็นหลักการพื้นฐานที่ใช้ในการบันทึกและวิเคราะห์การเงินของธุรกิจ สมการนี้แสดงถึงความสมดุลระหว่าง สินทรัพย์ (Assets), หนี้สิน (Liabilities) และ ส่วนของเจ้าของ (Equity)
สมการบัญชีพื้นฐานคือ:
สินทรัพย์=หนี้สิน+ส่วนของเจ้าของ
สมการนี้หมายความว่า ทุกสิ่งที่ธุรกิจเป็นเจ้าของ (สินทรัพย์) จะต้องมาจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งระหว่าง เงินที่กู้มา (หนี้สิน) หรือเงินลงทุนของเจ้าของ (ส่วนของเจ้าของ)
2. คำอธิบายแต่ละองค์ประกอบของสมการบัญชี
🔹 สินทรัพย์ (Assets) คืออะไร?
สินทรัพย์คือ สิ่งที่ธุรกิจเป็นเจ้าของและมีมูลค่า เช่น
✅ เงินสดในบัญชีธนาคาร
✅ ลูกหนี้การค้า (เงินที่ลูกค้ายังไม่ได้จ่าย)
✅ สินค้าคงคลัง
✅ อาคาร ที่ดิน อุปกรณ์สำนักงาน
✅ ยานพาหนะของธุรกิจ
🔹 หนี้สิน (Liabilities) คืออะไร?
หนี้สินคือ เงินที่ธุรกิจเป็นหนี้บุคคลอื่น หรือภาระผูกพันที่ต้องจ่ายคืน เช่น
✅ เงินกู้จากธนาคาร
✅ เจ้าหนี้การค้า (เงินที่ต้องจ่ายให้ซัพพลายเออร์)
✅ ภาษีที่ต้องชำระ
✅ เงินเดือนพนักงานที่ค้างจ่าย
🔹 ส่วนของเจ้าของ (Equity) คืออะไร?
ส่วนของเจ้าของคือ ส่วนที่เหลือหลังจากหักหนี้สินออกจากสินทรัพย์ หรืออธิบายง่าย ๆ ว่าเป็น "ความมั่งคั่งสุทธิของเจ้าของธุรกิจ" เช่น
✅ เงินทุนที่เจ้าของธุรกิจนำมาลงทุน
✅ กำไรสะสมจากธุรกิจ
3. ตัวอย่างการใช้สมการบัญชีในธุรกิจ
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น มาดูตัวอย่างของธุรกิจเล็ก ๆ เช่น ร้านขายกาแฟ
📌 ตัวอย่างที่ 1: การเริ่มต้นธุรกิจ
สมมติว่าผู้ประกอบการลงทุนเปิดร้านกาแฟโดยใช้เงินของตัวเอง 100,000 บาท
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
100,000 (เงินสด) = 0 (ไม่มีหนี้) + 100,000 (เงินลงทุนเจ้าของ)
📌 ตัวอย่างที่ 2: ซื้ออุปกรณ์ร้านกาแฟ
สมมติว่าธุรกิจใช้เงิน 40,000 บาท เพื่อซื้อเครื่องชงกาแฟ
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
(100,000 - 40,000) + 40,000 (อุปกรณ์) = 0 + 100,000
สินทรัพย์ยังคงเท่าเดิม แต่เปลี่ยนรูปแบบจากเงินสดเป็นอุปกรณ์
📌 ตัวอย่างที่ 3: กู้เงินเพิ่มเพื่อขยายร้าน
สมมติว่าธุรกิจต้องการขยายร้านและกู้เงินจากธนาคาร 50,000 บาท
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
100,000 + 50,000 = 50,000 + 100,000
ตอนนี้ธุรกิจมีเงินสดเพิ่มขึ้นจากเงินกู้ และมีหนี้สินเพิ่มขึ้น
4. ทำไมผู้ประกอบการต้องเข้าใจสมการบัญชี?
✅ ช่วยให้ติดตามการเงินของธุรกิจได้ง่ายขึ้น
✅ ช่วยให้บริหารหนี้สินและเงินลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ ช่วยให้การทำบัญชีเป็นระบบมากขึ้น ลดความผิดพลาด
✅ ทำให้การขอสินเชื่อหรือขยายธุรกิจเป็นเรื่องง่ายขึ้น
5. สรุป
สมการบัญชี "สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ" เป็นแนวคิดพื้นฐานที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจสถานะทางการเงินของธุรกิจของตนเอง หากเข้าใจสมการนี้ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจทางการเงินได้อย่างแม่นยำ และบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น แม้ไม่มีความรู้ด้านบัญชีมาก่อน แต่หากเข้าใจสมการบัญชีนี้ ก็สามารถใช้เป็นพื้นฐานในการบริหารธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง ยั่งยืนต่อไป
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
