18 ก.พ. เวลา 10:00 • ข่าวรอบโลก

ไทลินอลมรณะ: ยาพิษเขย่าอเมริกา (Tylenol Murders: The Poison That Shook America)

ตอนที่ 6: ปริศนาที่ถูกลืม (The Forgotten Clues)
หลักฐานที่หายไปกับกาลเวลา
เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 40 ปี หลักฐานหลายชิ้นในคดีไทลินอลมรณะปี 1982 ได้สูญหายหรือถูกละเลยจากการสืบสวนในช่วงแรกๆ รายงานบางฉบับระบุว่ามีการตรวจสอบขวดยาที่อาจปนเปื้อนเพิ่มเติม แต่กลับไม่มีการติดตามผล หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์บางส่วนถูกจำกัดด้วยเทคโนโลยีที่มีในยุคนั้น ทำให้การวิเคราะห์ดีเอ็นเอหรือการตรวจสอบลายนิ้วมือยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไทลินอล Extra-Strength ในยุคก่อนปี 1982 ถูกบรรจุในกล่องกระดาษที่ไม่มีการปิดผนึก และฝาขวดสามารถเปิดได้ง่าย ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจมีส่วนให้เกิดการปนเปื้อนที่เป็นปริศนาในคดีนี้
ความเป็นไปได้ของฆาตกรหลายคน
แม้ว่าการสืบสวนจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ต้องสงสัยเพียงไม่กี่ราย เช่น เจมส์ ลูอิส แต่ก็มีแนวคิดว่าอาจมีฆาตกรมากกว่าหนึ่งคน บางทฤษฎีเสนอว่าอาจเป็นการกระทำของกลุ่มคนที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตื่นตระหนกในสังคม หรืออาจเป็นการเลียนแบบพฤติกรรมของฆาตกรคนแรก รายละเอียดของขวดยาแต่ละขวดที่ปนเปื้อนมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าอาจมีมากกว่าหนึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้อง
เจเรมี มาร์โกลิส อดีตผู้อำนวยการตำรวจรัฐอิลลินอยส์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวทางสืบสวนคดีไทลินอลมรณะ โดยเน้นถึงหลักฐานที่ถูกมองข้ามและความเป็นไปได้ของการไขคดีผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่
การสืบสวนของ FBI และแนวทางใหม่
ถึงแม้ว่า FBI จะยังเปิดรับข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ แต่ก็มีแนวทางใหม่ที่ถูกนำมาใช้ เทคโนโลยีทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น เช่น การวิเคราะห์สารพิษที่เหลืออยู่ในแคปซูล การตรวจสอบ DNA ที่อาจตกค้างอยู่ในบรรจุภัณฑ์ หรือการใช้ซอฟต์แวร์จำลองพฤติกรรมฆาตกร FBI ยังพยายามวิเคราะห์รูปแบบการก่อเหตุและมีความเป็นไปได้ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อน
นักสืบยังคงค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีไทลินอลมรณะ โดยสั่งตรวจสอบ DNA ใหม่บนหลักฐานสำคัญเพื่อหาเบาะแสที่อาจนำไปสู่การไขคดี
หลักฐานจากแหล่งข้อมูลที่ไม่ได้รับความสนใจ
มีหลายกรณีที่ประชาชนรายงานข้อมูลน่าสงสัยในช่วงเวลานั้น แต่กลับไม่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด ตัวอย่างเช่น มีรายงานว่าพบชายต้องสงสัยในบริเวณที่มีการวางยา แต่ไม่มีการจับกุมหรือสืบสวนเพิ่มเติม บันทึกกล้องวงจรปิดจากร้านขายยาที่อาจเก็บภาพของผู้ต้องสงสัยได้ก็สูญหายไปตามกาลเวลา
ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะพอลลา พรินซ์ เหยื่อที่เสียชีวิตรายสุดท้าย กำลังซื้อไทลินอลที่มีสารพิษ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของเธอ บางคนเชื่อว่าฆาตกรอาจปรากฏอยู่ในภาพด้านหลังเธอ
คำถามที่ยังไร้คำตอบ
- ทำไมขวดยาที่ปนเปื้อนมาจากหลายสถานที่ในชิคาโก แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีการกระทำที่เป็นระบบ?
- หากเป็นการก่ออาชญากรรมแบบสุ่ม ทำไมผู้เสียชีวิตบางรายถึงเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด?
- มีใครที่รู้อะไรมากกว่าที่เปิดเผยต่อสาธารณะหรือไม่?
ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับแรงจูงใจของฆาตกร
หลายคนเชื่อว่าคดีนี้อาจเกี่ยวข้องกับแรงจูงใจที่มากกว่าการเรียกค่าไถ่ มีการตั้งข้อสังเกตว่าการปนเปื้อนอาจเป็นความพยายามในการล้างแค้นต่อบริษัท Johnson & Johnson หรืออาจเกี่ยวข้องกับการทดสอบสารพิษในระดับที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า บางทฤษฎีเสนอว่าอาจเป็นการก่อวินาศกรรมที่ซับซ้อนกว่าที่คิดไว้
เท็ด คาซินสกี หรือ "Unabomber" ผู้ก่อเหตุวางระเบิด 16 ครั้ง คร่าชีวิต 3 ราย ถูกจับกุมและรับโทษจำคุกตลอดชีวิต บางทฤษฎีคาดว่าเขาอาจเกี่ยวข้องกับคดีไทลินอลมรณะ
อนาคตของคดี – ยังคงมีโอกาสไขปริศนา?
แม้ว่าจะผ่านไปหลายทศวรรษ แต่การไขปริศนาในคดีนี้ยังคงเป็นไปได้ หาก FBI สามารถใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการวิเคราะห์หลักฐานที่เหลืออยู่ การได้รับข้อมูลใหม่จากประชาชนหรือแม้แต่คำสารภาพจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง คดีนี้อาจได้รับการคลี่คลาย และนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้
40 ปีผ่านไป แต่ปริศนาไทลินอลยังคงเป็นเงามืดที่หลอกหลอนวงการอาชญากรรมและนิติวิทยาศาสตร์... ในตอนต่อไป เราจะพาคุณไปสำรวจผลกระทบของคดีนี้ที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมยาไปตลอดกาล
📚 References
บทความจาก All That's Interesting:
ได้กล่าวถึงการสืบสวนคดี Tylenol Murders และความท้าทายที่เจ้าหน้าที่เผชิญในการรวบรวมหลักฐาน
รายงานจาก ABC7 Chicago:
ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยหลังจากผ่านไป 40 ปี และการพิจารณาทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
บทความจาก CNN:
ได้กล่าวถึงความพยายามของ FBI ในการสืบสวนคดีนี้ และการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการวิเคราะห์หลักฐาน
บทความจาก The Lineup:
ได้กล่าวถึงข้อมูลและเบาะแสที่อาจถูกมองข้ามในช่วงการสืบสวนแรก ๆ ของคดี
บทความจาก Fox News:
ได้กล่าวถึงทฤษฎีที่ว่า Ted Kaczynski หรือที่รู้จักในนาม Unabomber อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
โฆษณา