18 ก.พ. เวลา 07:21 • ข่าว

เอาผิดจริงชายตบหน้าพยาบาล หลังถูกเตือนไม่ควรพาเด็กเล็กเข้า ICU

ผอ.รพ.ระยองแจงไม่มีให้ยอมความ
1.สรุปเหตุการณ์ตบหน้าพยาบาล
- ญาติผู้ป่วยจะพาลูกเล็กเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ติดเชื้อลงปอดในห้อง ICU รพ.ระยอง
- พยาบาลแจ้งเตือนด้วยความหวังดีว่าไม่ควรนำเด็กเล็กเข้าไปด้วย เนื่องจากคนไข้อาการไม่ดี อาจทำให้เด็กเล็กติดเชื้อลงปอดอาการไม่ดีไปด้วยได้
- ญาติคนดังกล่าวไปเรียกสามีมา แล้วสามีตบหน้าพยาบาล 2 ครั้ง
- มีการแจ้งความแล้ว แต่มีการกระแสในโซเชียลมีเดียว่า ทางโรงพยาบาลจะให้ยอมความ
2.สธ.แอคชั่นพร้อมเอาผิดจริง
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร้องทุกข์เอาไว้ และรอผลตรวจพิสูจน์ว่าร่างกายบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน ต้องรักษาตัวเกิน 20 วันหรือไม่ หากเกินจะถือว่าบาดเจ็บสาหัส เพราะจากคลิปพบว่า ถูกตบเข้าที่บริเวณกกหู ต้องดูว่ากระดูกคอเคลื่อนด้วยหรือไม่ ต้องมีการเอกซเรย์ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด
หลังจากนั้นจะมีการกล่าวโทษว่าจะมีข้อหาอะไรบ้าง ข้อหาที่จะต้องโดนแน่ๆ คือ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน ไม่ใช่ทำร้ายร่างกายทั่วไป ยืนยันว่าไม่มีการยอมความแน่นอน ต้องดูว่าเป็นความผิดส่วนตัวหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็อยู่ที่แต่ละบุคคล แต่กรณีนี้พยาบาลอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มันยอมความไม่ได้
รวมถึงจะดูด้วยว่ามีการเข้าไปในพื้นที่แล้วขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่หรือไม่ จะเข้ากับข้อหาอะไร โดยย้ำว่าคดีทางอาญาก็โดนไปและจะต้องโดนคดีทางแพ่งด้วย เพราะกำลังตรวจสอบว่า มีความเสียหายอื่นๆ เกิดขึ้นด้วยหรือไม่ หากโทษไม่เกิน 3 ปีก็จะออกหมายเรียก แต่หากอัตราโทษเกิน 5 ปีก็จะต้องขอหมายจับ เคสนี้เราดำเนินการเอาผิดจริง
"จากภาพปรากฏพยาบาลถูกตบคอแทบหัก แสดงถึงการไม่มีวิจารณญาณ พยาบาลให้การช่วยเหลือคุณ ดูแลลูกคุณและเตือนไม่อยากให้เด็กได้รับอันตราย นอกจากการป่วยเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ A อาจเกิดการติดต่อและเสียชีวิตได้ และยังมีเชื้อโรคอื่นๆ อีกมาก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลไม่ควรเกิดขึ้น ขนาดภาวะสงครามยังไม่เข้าไปทำร้ายหมอพยาบาลในโรงพยาบาลเลย เรื่องนี้ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ขอประณามผู้ก่อเหตุ" นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าว
3.ผอ.รพ.ระยองแจงไม่มีให้ยอมความ
นพ.ภูษิต ทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า มีการแจ้งความตั้งแต่เหตุเกิดวันแรก ตนไม่ทราบว่าผู้ที่โพสต์ในโซเชียลมีเดีย ระบุว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้ยอมความไปนำข้อมูลมาจากไหน เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริง จึงไม่รู้ว่าต้องการอะไรถึงโพสต์แบบนี้ เรื่องนี้สามารถสอบถามพยาบาลผู้รับผลกระทบได้เลยว่า เมื่อเกิดเหตุก็เข้าแจ้งความทันที ไม่มีการยอมความเด็ดขาด
"สธ.ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของบุคลากรมาก เมื่อเกิดเหตุขึ้นไม่มีทางยอมความแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดี ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะเป็นนโยบายของกระทรวง พร้อมทั้งดูแลจิตใจพยาบาลรายดังกล่าว" นพ.ภูษิตกล่าว
เมื่อถามถึงมาตรการเรื่องเข้าเยี่ยมผู้ป่วยของญาติที่อาจก่อความรุนแรง นพ.ภูษิต กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ให้ญาติเยี่ยมอยู่แล้วที่ห้อง ICU ซึ่งเปิดให้เยี่ยมเป็นช่วง มีช่วงเที่ยงกับเย็น แต่เคสนี้ห้ามยาก เพราะเข้าเยี่ยมช่วงที่เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยอารมณ์ ความเป็นห่วงญาติ ทำให้ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้
ทั้งที่พยาบาลแจ้งเตือน เพราะเป็นห่วงว่าการนำเด็กเข้าเยี่ยมอาจเกิดการติดเชื้อได้ เพราะผู้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ติดเชื้อปอด ซึ่งโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นโรคที่ติดต่อแพร่สู่กันได้ เป็นความหวังดีของพยาบาลในการแจ้งเตือน
เมื่อถามว่ามีคนมองว่า อาจเพราะพยาบาลพูดจาไม่ดี ซึ่งคนละประเด็นกับความรุนแรง จะมีการกำชับเรื่องการสื่อสารหรือไม่ นพ.ภูษิต กล่าวว่า จริงๆ การรับรู้ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างญาติป่วยอยู่แล้ว ก็ย่อมมีการแปลความหมายทำให้หงุดหงิดได้ น้ำเสียงการสื่อสาร แม้เตือนด้วยความหวังดีก็อาจไม่ถูกใจ แต่ความรุนแรงก็ไม่ควรเกิดขึ้น
4.รพ.ระยองออกแถลงการณ์ย้ำไม่นิ่งนอนใจ
รพ.ระยองออกแถลงการณ์ กรณีเจ้าหน้าที่พยาบาลถูกทำร้ายร่างกายจากบุคคลภายนอก ระบุว่า
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่พยาบาลในสังกัดของโรงพยาบาลระยองถูกทำร้ายร่างกายจากบุคคลภายนอกขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 18.30 น. ณ โรงพยาบาลระยอง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง นั้น
โรงพยาบาลระยอง จึงขอชี้แจงกรณีข้างต้นให้ทราบว่า โรงพยาบาลระยอง มิได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางทีมผู้บริหารโรงพยาบาลได้ดำเนินการหลังเกิดเหตุการณ์ทันที พาเจ้าหน้าที่พยาบาลพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและดูแลอาการบาดเจ็บ
เบื้องตันมอบหมายให้หัวหน้าหอผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี และมอบทีมกฎหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้พนักงานสอบสวนสถามีตำรวจภูธรเมืองระยอง และให้ดำเนินการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ราชการเพื่อดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วยบริการสาธารณสุข
เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างความเสียขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก โรงพยาบาลจึงได้สั่งการให้มีการทบทวนแนวทางการรักษาความปลอดภัยของบุคลากรในสังกัดเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงเช่นนี้อีก พร้อมทั้งช่วยเหลือเยียวยาเจ้าหน้าที่และผู้ได้รับตลกระทบอย่างเหมาะสมายสม
ทั้งนี้ โรงพยาบาลระยอง ในนามของคณะผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของบุคลากรทุกตำแหน่ง ภายใต้การยึดมั่นประโยชน์ของผู้รับบริการเป็นสำคัญ และไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบและในทุกกรณี
โฆษณา