Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BrandCase
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
19 ก.พ. เวลา 02:30 • ธุรกิจ
สรุปโมเดลรายได้ เครือ Minor จากงบปี 2567 พร้อมอธิบาย กลยุทธ์ขยายธุรกิจ ที่เรียกว่า Asset-Light
-ล่าสุดเครือ Minor หรือ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของเชนร้านอาหารดัง อย่าง The Pizza Company, Swensen's, Sizzler, Dairy Queen, Bonchon และ GAGA
และเจ้าของแบรนด์โรงแรมระดับโลก อย่าง Anantara, AVANI, TIVOLI, NH Collection และ OAKS
ได้ประกาศผลประกอบการของปี 2567 ที่ผ่านมา
โดยมีรายได้ และกำไรจากการดำเนินงาน ดังนี้
- รายได้ 166,409 ล้านบาท +8% จากปีก่อน
- กำไร 7,750 ล้านบาท +43% จากปีก่อน
ซึ่งถ้าเราไปดูสัดส่วนรายได้ โดยแบ่งตามธุรกิจหลักของเครือ Minor
รายได้ทุก ๆ 100 บาท จะแบ่งออกเป็น
- ธุรกิจโรงแรม 81 บาท
- ธุรกิจร้านอาหาร 19 บาท
ทีนี้เราลอง Zoom In เพื่อดูการเติบโตของรายได้ ของแต่ละธุรกิจกัน โดยเริ่มจาก
-ธุรกิจโรงแรมและบริการที่เกี่ยวข้อง มีรายได้โต +9% จากปีก่อน
โดยเหตุผลที่ธุรกิจโรงแรมมีรายได้เติบโตมาจาก
1. โรงแรมเครือ Minor สามารถเก็บค่าห้องพักได้แพงขึ้น โดยที่
ปี 2566 โรงแรมเครือ Minor คิดราคาค่าห้องเฉลี่ย 5,505 บาท/คืน
ปี 2567 โรงแรมเครือ Minor คิดราคาค่าห้องเฉลี่ย 5,860 บาท/คืน
โดยถือว่า ราคาค่าห้องพักต่อคืนของเครือ Minor เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า
2. โรงแรมเครือ Minor มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่มากขึ้น โดยที่
ปี 2566 เครือ Minor มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 66%
ปี 2567 เครือ Minor มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 68%
3. ทั้งราคาห้องพักที่แพงขึ้น และอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้น ทำให้เครือ Minor มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก หรือ RevPAR ที่สูงขึ้นด้วย
ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก เราสามารถคำนวณได้จากสูตร ราคาห้องพักเฉลี่ย x อัตราการเข้าพัก
ปี 2566 โรงแรมเครือ Minor
มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก เท่ากับ 5,505 บาท/คืน x 66% = 3,633 บาท/คืน
ปี 2567 โรงแรมเครือ Minor
มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก เท่ากับ 5,860 บาท/คืน x 68% = 3,985 บาท/คืน
จะเห็นได้ว่า รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก หรือ RevPAR ของโรงแรมในเครือ Minor เพิ่มขึ้น 10%
-ธุรกิจร้านอาหาร
มีรายได้โต +4% จากปีก่อน โดยเติบโตจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์ดัง
อย่างเช่น The Pizza Company, Swensen's, Dairy Queen และ GAGA ในประเทศไทย
นอกจากนี้ เครือ Minor ก็ยังได้นำร้านอาหารในเครือ
ไปขยายสาขาในตลาดเดิม รวมถึงบุกตลาดใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตที่มากขึ้นในระยะยาว
ตัวอย่างเช่น
- ขยายสาขา Dairy Queen และ GAGA ในอินโดนีเซีย
- ขยายสาขา Sizzler ในประเทศญี่ปุ่นและเวียดนาม
- ขยายสาขา BENIHANA ร้านอาหารญี่ปุ่น ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
สำหรับกลยุทธ์การเติบโต ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
เครือ Minor จะเริ่มนำโมเดล Asset-Light เข้ามาใช้บริหารโรงแรมและร้านอาหาร
แล้ว Asset-Light คืออะไร ?
โมเดล Asset-Light อธิบายง่าย ๆ คือ รูปแบบการขายสิทธิ์การใช้แบรนด์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่
ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นนำไปประกอบธุรกิจ โดยที่เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเอง
ตัวอย่างของเครือ Minor เช่น
- จากเดิม ที่ลงทุนสร้างโรงแรมเอง และบริหารเอง
ก็เปลี่ยนไปเป็นโมเดล รับจ้างบริหารโรงแรม ให้กับเจ้าของโรงแรมแทน
- จากเดิม ที่ลงทุนทำร้านอาหารเอง
ก็เปลี่ยนไปเป็นโมเดล ขายแฟรนไชส์ร้านอาหาร ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารแทน
โดยเครือ Minor จะเก็บค่า Fee หรือค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการ ที่ขอนำแบรนด์ของเครือ Minor ไปใช้
โดยค่า Fee หรือรายได้ที่เครือ Minor จะได้รับก็คือ
- ค่าจ้างบริหาร สำหรับธุรกิจโรงแรม
- ค่า Royalty Fee หรือค่าลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
ข้อดีของโมเดล Asset-Light ในมุมเครือ Minor คือช่วยลดการแบกรับต้นทุนค่าวัตถุดิบ หรือค่าบริหารจัดการร้านค้าหรือโรงแรมของตัวเอง
ส่วนฝั่งพาร์ตเนอร์ ธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมที่เข้ามาขอสิทธิ์ใช้แบรนด์ของเครือ Minor ก็จะรับรายได้จากยอดขายอาหาร และยอดค่าที่พัก แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
แล้วจัดการบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ และจ่ายค่า Fee ให้กับเครือ Minor ตามที่ตกลง
ซึ่งเครือ Minor ก็มองว่าโมเดลแบบนี้ จะส่งผลที่ดีต่อการขยายธุรกิจและเรื่องอัตรากำไร ในระยะยาว
โดยถ้ามาดูภาพรวมธุรกิจโรงแรม ในปี 2567 เครือ Minor มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 81,344 ห้อง แบ่งเป็น
- โรงแรมที่ถือกรรมสิทธิ์บริหารเอง (รวมเช่าบริหารและร่วมทุน) 69%
- รับจ้างบริหาร 22%
- รูปแบบอื่น ๆ 9%
เป้าหมายในปี 2570
โรงแรมเครือ Minor คาดว่าจะมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 127,862 ห้อง โดยแบ่งสัดส่วนเป็น
- โรงแรมที่ถือกรรมสิทธิ์บริหารเอง (รวมเช่าบริหารและร่วมทุน) 49%
- รับจ้างบริหาร 42%
- รูปแบบอื่น ๆ 9%
ธุรกิจร้านอาหาร
ปี 2567 เครือ Minor มีจำนวนร้านอาหารทั้งหมด 2,699 ร้าน
มีร้านอาหารแฟรนไชส์ทั้งหมด 1,299 ร้าน คิดเป็นสัดส่วน 48%
- เป้าหมายในปี 2570 เครือ Minor คาดว่าจะมีจำนวนร้านอาหารทั้งหมด 4,114 ร้าน
มีร้านอาหารแฟรนไชส์ทั้งหมด 2,311 ร้าน ซึ่งจะคิดเป็นสัดส่วน 56%
จะเห็นว่าถ้าดูจากเป้าหมายในปีนี้ เครือ Minor กำลังใช้โมเดลแบบ Asset-Light มากขึ้น
โรงแรมเครือ Minor ก็จะเป็นรูปแบบรับจ้างบริหารมากขึ้น
ส่วนร้านอาหารเครือ Minor ก็จะเน้นรูปแบบขายแฟรนไชส์มากขึ้น
References
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ปี 2567
- Corporate Presentation February 2025
- Press Kits ข่าวประชาสัมพันธ์ Minor International ปี 2568
ธุรกิจ
4 บันทึก
12
5
4
12
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย