เจาะลึก Smart Locker ครบคุ้ม สะดวก ทันสมัย ปลอดภัย ความต่างที่มากกว่าล็อกเกอร์ทั่วไป
ตู้ล็อกเกอร์ ในปัจจุบันมีรูปแบบการใช้งานในท้องตลาดมากมายให้เลือก เช่น ใช้กุญแจไข ปุ่มกด หมุนรหัสแบบตู้เซฟ ไปจนถึงยกระดับเป็นตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะ (Smart Locker) ที่ผู้ผลิตหลายรายได้นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการฝากของ จากระบบดั้งเดิมสู่ตู้ล็อกเกอร์ที่มีความทันสมัย เพิ่มฟังก์ชันความปลอดภัยเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและสบายใจยิ่งขึ้น โดยฟังก์ชันการใช้งานของตู้ล็อกเกอร์แต่ละประเภทต่างได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมของสถานที่ที่ติดตั้งนั้น ๆ อีกด้วย
สำหรับตู้ล็อกเกอร์ รุ่น Standard Locker คือ ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานทั้งในพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สาธารณะ โดยที่โครงสร้างหลักของตู้ทำมาจากเหล็ก ผสานกับระบบซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เพื่อให้สามารถจัดเก็บข้อมูลขึ้นบน Cloud Service ได้ ซึ่งช่วยให้การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบบันทึกสถิติการใช้งานแบบเรียลไทม์ ทำให้เจ้าของธุรกิจและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสามารถบริหารจัดการตู้ล็อกเกอร์ได้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ฟังก์ชันและฟีเจอร์ของสมาร์ทล็อกเกอร์ รุ่น Standard Locker
จุดเด่นของ Smart Locker รุ่น Standard Locker
- ■ด้านความทันสมัย (Advanced Technology)
- ●รองรับ Cloud Service จัดเก็บข้อมูลและสถิติการใช้งาน
- ●มีซอฟต์แวร์สำหรับตรวจสอบสถานะตู้ล็อกเกอร์แบบเรียลไทม์
- ●ใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานแบบอัตโนมัติ ลดการพึ่งพาการจัดการด้วยแรงงานคน
ล็อกเกอร์อัจฉริยะ รุ่น Standard Locker ใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ในการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลสถิติการใช้งานและส่งต่อคำสั่งระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่างจากตู้ล็อกเกอร์ทั่วไปที่ยังคงใช้กุญแจ ซึ่งไม่มีระบบการจัดเก็บข้อมูลและไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้เมื่อเกิดปัญหา
- ■ด้านความสะดวกสบาย (User-Friendly Experience)
- ●รองรับการเปิดตู้ได้หลายวิธี เช่น บัตรประชาชน คีย์การ์ด RFID, QR Code, Password และ OTP ผ่าน SMS
- ●ลดความยุ่งยากในการพกพาอุปกรณ์ที่ใช้เปิดตู้
- ●ลดปัญหาการลืมรหัสผ่าน หรือทำกุญแจหาย
ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะ Standard Locker ได้รับการพัฒนาและออกแบบให้ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบ โดยในขั้นตอนของการรับ-ฝากของ ผู้ฝากสามารถเปิดตู้ได้โดยไม่ต้องพกกุญแจ แต่เลือกการเปิดตู้ได้หลากหลายวิธี อาทิ สอดบัตรประชาชน คีย์การ์ด หรือสแกน QR Code และยังรวมไปถึงการกรอกเบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นทางเลือกเสริมเพื่อให้รองรับการส่งรหัส OTP (One Time Password) ป้องกันการลืมรหัสผ่าน และยังรองรับโซลูชันการฝากของให้ผู้อื่นมารับได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังช่วยให้การบริหารจัดการมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของผู้ดูแลระบบ (Admin/User Management) สามารถมอนิเตอร์การใช้งานได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงการกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งาน เรียกดูรายงานย้อนหลัง และสั่งงานเปิดตู้กรณีฉุกเฉินจากระยะไกล จึงไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่คอยประจำจุด ซึ่งต่างจากตู้ล็อกเกอร์ทั่วไปที่หากกุญแจสูญหาย ต้องรอเจ้าหน้าที่ใช้กุญแจสำรองมาไขเปิดตู้ หรืองัดตู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายได้นั่นเอง
- ■ด้านความปลอดภัย (Enhanced Security)
- ●จับคู่การยืนยันตัวตนของผู้ฝาก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการเปิดตู้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ●บันทึกข้อมูลการใช้งาน สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
ตู้ล็อกเกอร์ทั่วไปมักพึ่งพากุญแจหรือรหัสผ่านเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจถูกลืมหรือปลอมแปลงได้ง่าย ขณะที่ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะ รุ่น Standard Locker มีระบบยืนยันตัวตนตั้งแต่การฝาก เจ้าของธุรกิจสามารถจับคู่วิธีการยืนยันตัวตนได้ตามความต้องการ เช่น สอดบัตรประชาชน กรอกหมายเลขโทรศัพท์ และเลือกช่องฝาก หรือสอดบัตรประชาชน ตั้งรหัสผ่าน 6 หลัก และเลือกช่องฝาก เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือฟีเจอร์ที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยในการใช้งาน โดยในขั้นตอนการเปิดตู้นำของออกมา ผู้ใช้งานจะต้องยืนยันตัวตนให้ตรงกับที่ระบุไว้ในขั้นตอนการฝาก เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์เปิดตู้โดยไม่ได้รับอนุญาต และยังมีการบันทึกข้อมูลการใช้งาน พร้อมกล้อง CCTV ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้
อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/4129oI8
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจติดตั้งตู้สมาร์ทล็อกเกอร์ สามารถติดต่อเราเพื่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 02-573-4400 ต่อ 100, 120 หรือ Line Official Account: @infinitecorp
เยี่ยมชมเว็บไซต์ : https://www.infinitecorp.co.th
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ : https://bit.ly/3L88ORj
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
