19 ก.พ. เวลา 03:30 • ธุรกิจ

โกโก้แพง ทำมูลค่าบริษัท Hershey หาย 500,000 ล้าน ใน 2 ปี

รู้ไหมว่า ราคาโกโก้ที่แพงสุดในรอบ 50 กว่าปี ได้สร้างความเสียหายให้กับ Hershey บริษัทช็อกโกแลตชื่อดังกว่า 541,400 ล้านบาท
5
เพราะนี่คือมูลค่าบริษัทที่หายไปจากราคาหุ้นที่ลดลง
ทั้งที่รายได้และกำไรของ Hershey ก็ยังเติบโต
สวนทางกับราคาโกโก้ที่แพงขึ้น
เรื่องนี้เป็นเพราะอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ต้องบอกว่า จริง ๆ แล้ว Hershey มีรายได้และกำไรโตต่อเนื่องในตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แม้ราคาโกโก้จะแพงสุดในรอบ 50 กว่าปี
หากลองไปดูผลประกอบการ 3 ปีล่าสุด จะพบว่า
ปี 2022
- ยอดขาย 352,823 ล้านบาท
- กำไร 55,671 ล้านบาท
ปี 2023
- ยอดขาย 378,052 ล้านบาท
- กำไร 63,019 ล้านบาท
ปี 2024
- ยอดขาย 379,338 ล้านบาท
- กำไร 75,210 ล้านบาท
ยอดขายเติบโตเฉลี่ยปีละ 4% ส่วนกำไรก็เติบโตเฉลี่ย
ปีละ 16% ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดี
แต่สุดท้าย ราคาหุ้นกลับสวนทางกับผลประกอบการ เพราะร่วงต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2023 จนมูลค่าบริษัทหายไปกว่า 500,000 ล้านบาท
1
แล้วทำไมรายได้และกำไรโต แต่ราคาหุ้นกลับร่วงแทน ?
เหตุผลหลักเลย ก็เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา Hershey ต้องขึ้นราคาสินค้า เพื่อชดเชยต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่างโกโก้ ที่แพงขึ้น
ถ้าถามว่าได้ผลไหม ก็อาจจะได้ผลไม่มากนัก สะท้อนได้จากยอดขายสินค้ากลุ่มช็อกโกแลตและไม่ใช่ช็อกโกแลต ที่คิดเป็นรายได้กว่า 90% ของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา
- ปี 2022 ยอดขาย 316,526 ล้านบาท
- ปี 2023 ยอดขาย 339,552 ล้านบาท
- ปี 2024 ยอดขาย 339,316 ล้านบาท
2
เห็นได้ว่า ยอดขายสินค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้นในปี 2023
แต่ในปี 2024 ยอดขายกลับลดลงเล็กน้อยแทน
ในขณะที่ยอดขายอีก 10% ที่เหลือมาจากขนมขบเคี้ยวในอเมริกาเหนือ ซึ่งแม้จะเติบโต แต่ก็ยังมีสัดส่วนที่น้อยในรายได้รวม
เมื่อยอดขายสินค้าหลักไม่ได้เติบโตมากนัก บริษัทจึงหันไปควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แทน
ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการขาย
1
รวมไปถึงการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบอย่างโกโก้ ด้วยสัญญาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า
การทำสัญญาล่วงหน้า ทำให้บริษัทสามารถซื้อวัตถุดิบในราคาที่ตกลงกันไว้แล้ว ดังนั้นแม้ราคาโกโก้จะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็ยังซื้อวัตถุดิบในราคาเดิมได้อยู่ดี
ซึ่งส่วนต่างที่เกิดขึ้นจะถูกนับเป็นกำไร ทำให้ Hershey ได้กำไรจากสัญญาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้ามากถึง 15,563 ล้านบาท ในปี 2024 จนทำให้ปีที่แล้ว Hershey มีกำไรมากกว่าที่ควรจะเป็น
จากเดิมที่มีกำไร 75,210 ล้านบาท ถ้าตัดกำไรจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าออกไป สุดท้ายบริษัทจะเหลือกำไรจริง ๆ 59,647 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับกำไรในปี 2023 ที่ 63,019 ล้านบาทแล้ว
ก็แปลว่า Hershey มีกำไรลดลงจากปีก่อนหน้า
สุดท้ายกลายเป็นว่าถ้า Hershey ไม่มีรายการพิเศษจากสัญญาซื้อวัตถุดิบล่วงหน้า Hershey จะมีกำไรลดลงแทน
อีกทั้งแม้จะมีการขึ้นราคา แต่ยอดขายสินค้ากลุ่มช็อกโกแลตและไม่ใช่ช็อกโกแลต ก็ยังลดลง
แถมในปีที่แล้ว อัตรากำไรจากการดำเนินงานที่คิดจากยอดขาย
หักด้วยต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ลดลงในเกือบทุกสินค้าอีกด้วย (ยกเว้นกลุ่มขนมขบเคี้ยวในอเมริกาเหนือ)
1
จากทั้งหมดนี้เอง ก็ส่งผลให้มูลค่าบริษัท Hershey หายไปกว่า 500,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ปี
เพราะบริษัทเองยังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาราคาโกโก้แพง ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังกังวล เพราะกระทบกับผลประกอบการโดยตรง
ซึ่งแม้แต่ในปีหน้าเอง Hershey ก็ยอมรับว่า ราคาโกโก้ที่แพงขึ้น ก็อาจส่งผลกับรายได้รวมอีกด้วย
ก็เรียกได้ว่า นี่อาจเป็นความท้าทายสำคัญของ Hershey ในรอบ 50 กว่าปีเลยก็ว่าได้..
โฆษณา