19 ก.พ. เวลา 00:45 • ข่าวรอบโลก

บ้านสยองขวัญ: คดีลักพาตัวอารีล คาสโตร (The House of Horror: Ariel Castro Kidnappings)

ตอนที่ 1: ฝันร้ายที่เริ่มต้น (The Nightmare Begins)
เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 เป็นชุมชนที่ดูเหมือนสงบสุข ผู้คนดำเนินชีวิตตามปกติ ถนนหนทางเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของเด็กนักเรียน ร้านค้าเปิดให้บริการอย่างคึกคัก และผู้คนต่างเชื่อว่าเมืองของพวกเขาปลอดภัย
แต่เบื้องหลังความสงบที่เห็น กลับมีบางสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ บางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกำลังเกิดขึ้น...ในบ้านหลังหนึ่ง
บ้านธรรมดาหลังหนึ่งตั้งอยู่บน ถนนเซย์มัวร์ หมายเลข 2207 ดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ ผนังสีซีดจาง หน้าต่างถูกปิดไว้เสมอ เพื่อนบ้านเคยเห็นชายคนหนึ่งขับรถเข้าออกเป็นประจำ บางครั้งได้ยินเสียงเพลงดังเล็ดลอดออกมาในยามค่ำคืน แต่ไม่มีใครเอะใจถึงสิ่งที่อยู่ภายใน
ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังประตูที่ถูกล็อกแน่นหนานั้น มีเรื่องราวสยองขวัญที่กินเวลายาวนานกว่าทศวรรษ
บางครั้งความจริงที่โหดร้ายที่สุด ซ่อนอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด อาชญากรที่อันตรายที่สุดอาจเป็นคนที่ดูธรรมดาที่สุด
บ้านเลขที่ 2207 ถนนเซย์มัวร์ เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ – บ้านที่ดูธรรมดาหลังนี้เป็นสถานที่ที่ อารีล คาสโตร กักขังและทรมาน มิเชล ไนท์, อแมนดา เบอร์รี และจีนา เดเฮซุส นานกว่าทศวรรษ
📌 การหายตัวไปของมิเชล ไนท์: เหยื่อคนแรกที่ถูกลืม
🔹 ชีวิตของมิเชล ไนท์ ก่อนหายตัวไป
มิเชล ไนท์ (Michelle Knight) เป็นหญิงสาววัย 21 ปี ที่เติบโตในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ แม้ชีวิตของเธอจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่เธอเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็งและพยายามดิ้นรนเพื่อตัวเอง
เธอเกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน 1981 และเติบโตมาในครอบครัวที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ รวมถึงต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัว เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เธอประสบปัญหาหลายอย่าง รวมถึงการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งทำให้ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ไม่นานหลังจากที่เธอเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เธอให้กำเนิดลูกชายที่เธอรักที่สุด อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเธอกลับยิ่งยุ่งยากขึ้น เมื่อลูกชายของเธอถูกส่งไปอยู่ภายใต้การดูแลของทางรัฐเนื่องจากปัญหาด้านครอบครัว
มิเชล ไนท์ (Michelle Knight) – เหยื่อคนแรกของ อารีล คาสโตร ที่ถูกลักพาตัวในปี 2002 ขณะเดินทางไปศาลเพื่อขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูก
🔹 วันที่เธอหายตัวไป
วันที่ 23 สิงหาคม 2002 เป็นวันสำคัญสำหรับมิเชล เพราะเธอมีนัดขึ้นศาลเพื่อสู้คดีเพื่อให้ได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูกชายกลับคืนมา
มิเชลออกจากบ้านของเธอในช่วงเช้าและเดินไปตามถนน เธอไม่รู้เลยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เห็นโลกภายนอกเป็นเวลานานกว่าทศวรรษ
🔹 ถูกล่อลวงเข้าสู่ "บ้านสยองขวัญ"
ระหว่างทางไปศาล มิเชลได้พบกับ อารีล คาสโตร (Ariel Castro) ซึ่งเธอรู้จักเพียงผิวเผินจากการเป็นพ่อของเพื่อนบ้าน
คาสโตรแสดงตัวเป็นคนใจดีและบอกกับมิเชลว่าเขาสามารถช่วยพาเธอไปที่ศาลได้ เธอเชื่อใจเขาเพราะคิดว่าเขาเป็นเพียงพ่อของเพื่อนบ้านที่ไม่มีพิษภัย
แต่แทนที่จะพาเธอไปศาล คาสโตรกลับขับรถพาเธอไปที่บ้านของเขาบน ถนนเซย์มัวร์ 2207
เมื่อมิเชลก้าวเท้าเข้าไปในบ้านหลังนั้น เธอไม่เคยมีโอกาสก้าวออกมาอีกเลย...
บ้านเลขที่ 2207 ถนนเซย์มัวร์ เมืองคลีฟแลนด์ – บ้านที่ อารีล คาสโตร ใช้เป็นสถานที่ล่อลวง มิเชล ไนท์ เข้าไปในปี 2002 โดยหลอกว่าเขาจะช่วยพาเธอไปศาล
📌 การลักพาตัวอแมนดา เบอร์รี: เหยื่อที่หายไปก่อนวันเกิดของตัวเอง
🔹 อแมนดา เบอร์รี: เด็กสาวผู้สดใสและความฝันที่ถูกพรากไป
อแมนดา เบอร์รี (Amanda Berry) เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 1986 เธอเป็นเด็กสาวที่สดใสร่าเริง เติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ
เธอเป็นเด็กสาวที่มีความฝัน อยากจะประสบความสำเร็จและมีอนาคตที่สดใส ก่อนที่เธอจะหายตัวไป เธอทำงานอยู่ที่ร้าน Burger King ในละแวกบ้านของเธอ เพื่อช่วยครอบครัวหารายได้
ชีวิตของเธอดูเหมือนจะดำเนินไปตามเส้นทางที่เด็กสาวทั่วไปควรมี จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน
อแมนดา เบอร์รี (Amanda Berry) – เด็กสาวที่ถูกลักพาตัวในปี 2003 หนึ่งวันก่อนวันเกิดอายุ 17 ปี
🔹 วันที่หายตัวไป: วันก่อนวันเกิดที่กลายเป็นฝันร้าย
วันที่ 21 เมษายน 2003 เป็นวันที่เหมือนวันธรรมดาทั่วไปสำหรับอแมนดา เธอทำงานตามปกติที่ร้าน Burger King และกำลังจะกลับบ้านไปฉลองวันเกิดปีที่ 17 ของเธอในวันรุ่งขึ้น
เวลาประมาณ 19:30 น. อแมนดาเลิกงานและกำลังเดินกลับบ้าน แต่ระหว่างทาง เธอได้รับข้อเสนอจาก อารีล คาสโตร (Ariel Castro) ซึ่งเป็นพ่อของเพื่อนบ้านของเธอ
คาสโตรเสนอตัวว่าจะไปส่งเธอที่บ้าน อแมนดารู้จักเขาผ่านลูกสาวของเขาและคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติ เธอจึงตัดสินใจขึ้นรถไปกับเขา...โดยไม่รู้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่กินเวลานานถึง 10 ปี
Burger King – สถานที่สุดท้ายที่อแมนดา เบอร์รีถูกพบก่อนหายตัวไป
🔹 ถูกพาเข้าสู่ "บ้านสยองขวัญ"
แทนที่คาสโตรจะขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เขากลับขับพาเธอไปที่บ้านของเขาบนถนน เซย์มัวร์ 2207
เมื่อถึงบ้าน เขาเชิญอแมนดาเข้าไปข้างในโดยบอกว่าให้เธอไปช่วยเขาหยิบของบางอย่างให้ลูกสาวของเขา
อแมนดาเข้าไปในบ้าน และนั่นคือประตูสุดท้ายที่เธอเดินผ่านออกมาอย่างอิสระในอีก 10 ปีข้างหน้า
ทันทีที่เธอเข้าไปในบ้าน
🚪 คาสโตรล็อกประตูทันที และเริ่มแสดงพฤติกรรมที่น่ากลัว
🔗 เขาจับเธอล่ามโซ่และมัดเธอไว้กับเตียง
💬 เขาบอกเธอว่าเธอจะไม่มีวันได้กลับบ้าน
เธอรู้ในทันทีว่าเธอได้ตกเป็นเหยื่อของบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว และไม่มีทางหนีได้เลย
โซ่สนิมและกุญแจที่ใช้ล่ามเหยื่อ รวมถึงห้องที่ดูเหมือนเป็นพื้นที่ปลอดภัย
📌 การสูญหายของจีนา เดเฮซุส: เด็กสาวที่ไม่มีใครคิดว่าจะตกเป็นเหยื่อ
🔹 ชีวิตของจีนา เดเฮซุส ก่อนหายตัวไป
จีนา เดเฮซุส (Gina DeJesus) เป็นเด็กสาววัย 14 ปี ที่เติบโตมาในครอบครัวชาวละตินในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เธอเป็นเด็กที่สดใสร่าเริงและเป็นที่รักของครอบครัวและเพื่อนๆ
- เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนกลางวิลเลียมส์ (Wilbur Wright Middle School)
- เธอเป็นเด็กที่ชอบใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ โดยเฉพาะ อาร์ลีน คาสโตร (Arlene Castro) ซึ่งเป็นลูกสาวของอารีล คาสโตร
- ครอบครัวของเธอมีฐานะปานกลางและพวกเขาเป็นกลุ่มชุมชนที่แน่นแฟ้น
ไม่มีใครคิดเลยว่าวันหนึ่ง เธอจะกลายเป็นเหยื่อของหนึ่งในอาชญากรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองคลีฟแลนด์
จีนา เดเฮซุส (Gina DeJesus) – เด็กสาววัย 14 ปีที่หายตัวไปในปี 2004 ระหว่างเดินกลับบ้าน
🔹 วันสุดท้ายก่อนการหายตัวไป
📆 วันที่ 2 เมษายน 2004 เป็นวันที่ดูเหมือนปกติสำหรับจีนา เธอไปโรงเรียนและใช้เวลาร่วมกับเพื่อนๆ หลังเลิกเรียน
- ในวันนั้น เธอเดินกลับบ้านพร้อมกับอาร์ลีน คาสโตร ลูกสาวของอารีล คาสโตร
- อาร์ลีนชวนจีนาไปเล่นที่บ้านของเธอหลังเลิกเรียน แต่แม่ของอาร์ลีนปฏิเสธไม่ให้เธอพาเพื่อนกลับบ้าน
- จีนาจึงต้องเดินกลับบ้านคนเดียว… แต่เธอไม่เคยไปถึงบ้านของเธอ
อาร์ลีน คาสโตร (Arlene Castro) – ลูกสาวของ อารีล คาสโตร และเพื่อนสนิทของ จีนา เดเฮซุส
🔹 ถูกล่อลวงโดยชายที่เธอรู้จัก
ระหว่างที่จีนากำลังเดินกลับบ้าน เธอได้พบกับ อารีล คาสโตร ซึ่งเป็นพ่อของเพื่อนสนิทของเธอ
🚗 คาสโตรจอดรถข้างทางและชวนจีนาขึ้นรถโดยอ้างว่า เขากำลังตามหาอาร์ลีน และต้องการให้จีนาช่วยหาเธอ
😔 ด้วยความที่เธอรู้จักเขาดี เธอจึงไม่ลังเลและขึ้นรถของเขาไป
จีนาไม่รู้เลยว่า เธอได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต
🔹 บ้านสยองขวัญที่รอรับเหยื่อคนใหม่
เมื่อคาสโตรพาจีนาไปที่บ้าน เขาบอกให้เธอช่วยเขายกของเข้าไปข้างใน
🚪 เมื่อเธอเดินเข้าไปในบ้าน เขาล็อกประตูทันที และฝันร้ายของเธอเริ่มต้นขึ้น
🔗 เขาล่ามโซ่เธอไว้ และเริ่มควบคุมเธออย่างโหดร้าย
💬 เขาบอกกับเธอว่า เธอจะไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่อีก
😱 จีนาตระหนักได้ว่า เธอกำลังตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมที่น่ากลัว
สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ…
ภายในบ้านเธอพบกับอแมนดา เบอร์รี และมิเชล ไนท์ ที่ถูกขังอยู่ก่อนหน้านี้ พวกเธอเห็นจีนาเข้ามาและรู้ทันทีว่า ฝันร้ายของเธอเพิ่งเริ่มต้น
พื้นที่ที่ อารีล คาสโตร ใช้ควบคุมเหยื่อในช่วงแรกของการถูกกักขัง มิเชล ไนท์, อแมนดา เบอร์รี และจีนา เดเฮซุส ถูกล่ามโซ่ ทรมาน และตัดขาดจากโลกภายนอก
📌 ชีวิต 2 หน้าของอารีล คาสโตร: ปีศาจในคราบคนธรรมดา
🔹 วัยเด็กและภูมิหลังของอารีล คาสโตร
อารีล คาสโตร (Ariel Castro) เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 1960 ที่เมืองดูวาโอ เปอร์โตริโก เขาเติบโตมาในครอบครัวเชื้อสายลาตินที่อพยพมาสหรัฐฯ และย้ายมาอาศัยอยู่ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ตั้งแต่วัยเด็ก
- ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวใหญ่และเคร่งศาสนา แต่ในบ้านกลับเต็มไปด้วยความรุนแรง
- พ่อแม่ของเขาหย่าร้างกันตั้งแต่เขายังเด็กและเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับพ่อ
- เขาเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวและมักจะใช้ความรุนแรงเพื่อจัดการกับปัญหา
ในช่วงวัยรุ่น คาสโตรเริ่มแสดงพฤติกรรมที่น่ากังวล เขามักจะแสดงความก้าวร้าวกับเพื่อนและครอบครัว รวมถึงมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อคนรอบตัว แต่ไม่มีใครให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
อารีล คาสโตร (Ariel Castro) – ชายผู้ลักพาตัว มิเชล ไนท์, อแมนดา เบอร์รี และจีนา เดเฮซุส และกักขังพวกเธอใน "บ้านสยองขวัญ" นานกว่าทศวรรษ
🔹 ชีวิตครอบครัว: สามีที่แสนดีหรือผู้ล่วงละเมิด?
ในปี 1980 คาสโตรเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเอง เขาแต่งงานกับ กริมิลด้า ฟิเกรัว (Grimilda Figueroa) และมีลูกด้วยกัน 4 คน
แต่แทนที่เขาจะเป็นสามีและพ่อที่ดี เขากลับเป็นผู้ล่วงละเมิดที่โหดร้าย
- คาสโตรทำร้ายภรรยาทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง
- เธอถูกขังอยู่ในบ้าน ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน
- เขาเคยทำร้ายเธอจนถึงขั้น กระดูกหักและมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย
- คาสโตรขังเธอไว้ในบ้าน โดยไม่ให้พบปะญาติหรือเพื่อน
- ภรรยาของเขาพยายามหนีออกจากบ้านหลายครั้ง จนกระทั่งในที่สุดเธอหนีออกมาได้ในปี 1996 และยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอคุ้มครอง
ในปี 2012 ภรรยาของเขาเสียชีวิตจากเนื้องอกในสมอง ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นผลจากการที่เธอเคยถูกทำร้ายในอดีต
อารีล คาสโตร และครอบครัว – กริมิลด้า ฟิเกรัว (ซ้าย) อดีตภรรยาของคาสโตร พร้อมลูกๆ ของเธอ
🔹 งานและชีวิตในสังคม: ชายธรรมดาที่ไม่มีใครสงสัย
แม้ว่าภายในบ้านคาสโตรจะเป็นสัตว์ร้าย แต่เมื่อออกไปนอกบ้าน เขากลับดูเหมือนชายธรรมดาในสังคม
- เขาทำงานเป็นคนขับรถโรงเรียนของเมืองคลีฟแลนด์
- เพื่อนร่วมงานมองว่าเขาเป็นคนเงียบๆ และรักดนตรี
- คาสโตรมักเล่นดนตรีละตินในงานสังคมและเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน
- เขายังเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนและไปโบสถ์เป็นประจำ ทำให้ไม่มีใครสงสัยเลยว่าเขาจะเป็นอาชญากร
แต่สิ่งที่น่าขนลุกคือ ขณะที่เขาทำงานขับรถรับส่งเด็กนักเรียนทุกวัน เขากำลังขังเหยื่อของเขาไว้ในบ้าน
🔹 บ้านสยองขวัญที่ไม่มีใครสงสัย
บ้านเลขที่ 2207 ถนนเซย์มัวร์ เป็นบ้านที่ดูเก่าทรุดโทรม แต่ไม่มีใครคิดว่าภายในนั้นจะซ่อนความลับอันน่ากลัว
- คาสโตรปิดหน้าต่างทุกบานด้วยไม้กระดาน
- เขาติดตั้งระบบล็อกหลายชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อหนี
- มีเสียงเพลงละตินดังออกมาเกือบทุกคืน กลบเสียงร้องไห้ของเหยื่อ
- เพื่อนบ้านสังเกตเห็นว่า ไม่มีใครเข้าออกจากบ้านของเขาเลยนอกจากตัวเขาเอง
แม้ว่าจะมีบางครั้งที่เพื่อนบ้านสังเกตเห็นเด็กสาวแอบมองออกมาจากหน้าต่าง แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่านั่นเป็นสัญญาณของอาชญากรรม
บ้านสยองขวัญที่ไม่มีใครสงสัย – บ้านเลขที่ 2207 ถนนเซย์มัวร์ ดูเหมือนบ้านธรรมดา หน้าต่างถูกปิดทึบ รั้วลวดหนามปิดกั้นจากภายนอก
🔹 สรุป: จุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่ไม่มีวันลืม
การลักพาตัว มิเชล ไนท์, อแมนดา เบอร์รี และจีนา เดเฮซุส ไม่ใช่แค่การหายตัวไปธรรมดา แต่มันคือจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่กินเวลายาวนานกว่าทศวรรษ พวกเธอถูกซ่อนไว้ในบ้านที่ดูเหมือนธรรมดา แต่กลับกลายเป็น “คุกใต้เงามืด” ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความทรมาน
ตลอดหลายปีที่พวกเธอถูกจองจำ ไม่มีใครสงสัยเลยว่า อารีล คาสโตร ผู้ชายที่ดูเป็นมิตรและอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน แท้จริงแล้วคือปีศาจที่กักขังชีวิตของ 3 สาวไว้
พวกเธอพยายามดิ้นรนต่อสู้ หาหนทางรอดและเฝ้ารอวันที่จะได้เป็นอิสระอีกครั้ง...แต่จะมีวันนั้นจริงหรือ?
“บ้านสยองขวัญ” หลังนี้ซ่อนความลับดำมืดอะไรไว้อีก? และพวกเธอต้องเผชิญกับอะไรต่อไป?
ติดตามในตอนที่ 2 ว่าชีวิตของพวกเธอในเงามืดของอารีล คาสโตร จะโหดร้ายและน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน? 🚪🔒
📚 References
🔸 บทความ "Ariel Castro kidnappings" ใน Wikipedia:
เการบรรยายเกี่ยวกับคดีลักพาตัวและกักขังเหยื่อของอารีล คาสโตร ซึ่งเกิดขึ้นในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 2002-2013
🔸 บทความ "Michelle Knight's triumph over 11-year captor Ariel Castro: 'He doesn't define who I am'" จาก ABC News:
นำเสนอเรื่องราวของ มิเชล ไนท์ หนึ่งในเหยื่อที่ถูกลักพาตัวและกักขังโดย อารีล คาสโตร เป็นเวลากว่า 11 ปี
🔸 วิดีโอ "Ariel Castro kidnaps 3 teen girls in Cleveland, holds them captive for years | Nightline" จาก ABC News Nightline:
สารคดีข่าวที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการลักพาตัวและกักขังหญิงสาว 3 คนโดยอารีล คาสโตร เป็นเวลาหลายปีในเมืองคลีฟแลนด์
🔸 บทความ "Cleveland Kidnapping Survivor Gina DeJesus Speaks About Flipping Captor's Attempt At Psychological Manipulation" จาก Oxygen:
นำเสนอเรื่องราวของ จีนา เดเฮซุส หนึ่งในเหยื่อที่ถูกลักพาตัวและกักขังโดย อารีล คาสโตร
🔸 บทความ "Ariel Castro" จาก Biography.com:
นำเสนอเรื่องราวของ อารีล คาสโตร ชายที่ก่อเหตุ ลักพาตัว, กักขัง และทรมาน หญิงสาว 3 คนในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ
🔸 บทความ "Cleveland Kidnappings Fast Facts" จาก CNN:
สรุปข้อเท็จจริงสำคัญเกี่ยวกับคดีลักพาตัวและกักขังหญิงสาว 3 คนในเมืองคลีฟแลนด์โดย อารีล คาสโตร
โฆษณา