19 ก.พ. เวลา 01:44 • ครอบครัว & เด็ก
"ญาติพี่น้อง-มีก็เหมือนไม่มี" ต่างกันโขเลยนะกับการเป็นตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตร
แบบแรกเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกัน มีความขัดแยัง มีปัญหาแล้วไม่เคลียร์กัน อาจเพราะไม่อยากปะทะก็ซุกปัญหาไว้ ฯลฯ จนทำให้ห่างเหิน ต่อกันไม่ติด
ปัญหาในความสัมพันธ์ จะแก้ไขได้ก็ต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่ายค่ะ แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแก้ไม่ได้หรอกค่ะ แต่ถ้าเราพยายามเต็มที่แล้ว ไปจนสุดทางแล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น การตัดจบก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยปกป้องความรู้สึกตัวเอง
เทียบกับการมีญาติพี่น้องเป็นโขยง แต่อยู่ในภาวะ "ครอบครัวเป็นพิษ" อยู่ตัวคนเดียวสบุยจุยกว่ากันเยอะ!!
จูเลีย โรเบิตส์ (Julia Roberts) เคยกล่าวไว้ว่า..
"เมื่อผู้คนทิ้งคุณ จงปล่อยพวกเขาไป โชคชะตาของคุณไม่เคยผูกไว้กับคนที่ทิ้งคุณไป และมันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นคนไม่ดี แต่มันหมายถึงบทบาทของพวกเขาในเรื่องราวของคุณจบลงแล้ว"
3
คำพูดนี้สะท้อนถึงความจริงที่เรามักมองข้าม ไม่ใช่ทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเราจะอยู่กับเราตลอดไป ผู้คนแต่ละคนมีเหตุผลของการปรากฏตัวในชีวิตเรา เพื่อสอนบทเรียน แบ่งปันช่วงเวลา หรือร่วมเดินทางไปในบางช่วงเวลา และเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องจากไป มันคือสัญญาณว่าบทบาทของพวกเขาในเรื่องราวของเราได้สิ้นสุดลงแล้ว
1
การปล่อยวาง อาจเป็นสิ่งที่ยาก แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการก้าวเดินต่อไป หากเรายึดติดกับคนที่ตั้งใจจะจากไป มันจะเพียงแต่ชะลอการเติบโตของเราเอง และปิดกั้นโอกาสใหม่ๆที่อาจรออยู่ข้างหน้า
1
การจากไปของใครบางคนไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็น "ตัวร้าย" ในเรื่องราวชีวิตของเรา แต่เพียงแค่บทบาทของพวกเขาได้จบลงอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ทุกความสัมพันธ์ที่ผ่านมามีคุณค่า เพราะมันช่วยหล่อหลอมตัวเราให้เติบโต และทำให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น
3
เมื่อคุณปล่อยวาง คุณจะเปิดพื้นที่ในชีวิตให้กับผู้คนที่เหมาะสมที่จะอยู่กับคุณ และช่วยเสริมสร้างชีวิตของคุณในทางที่มีความหมายมากขึ้น การปล่อยวางไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการยอมรับ เข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเดินเคียงข้างคุณไปทุกจุดหมาย และโชคชะตาของคุณนั้นเป็นของคุณ ไม่มีใครสามารถพรากไปได้
1
ดังนั้น เมื่อใครบางคนจากไป จงเชื่อมั่นในเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้สำหรับคุณ และก้าวต่อไปด้วยหัวใจที่พร้อมสร้างบทใหม่ในเรื่องราวชีวิตของคุณ
โฆษณา