Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTVHD36
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
19 ก.พ. เวลา 10:00 • ข่าวรอบโลก
ทาสแมวต้องรู้! นักวิทย์เผยวิธีคุยกับแมวที่ถูกต้องและทำให้ไว้ใจเรา
นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานยืนยันว่า “หรี่ตาและกระพริบตาช้า ๆ” คือวิธีการสื่อสารกับแมวที่ถูกต้อง และทำให้แมวรู้ว่าเราเป็นมิตร
“แมว” ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ชอบทำตัวเหินห่าง จนบางครั้งหลายคนอาจรู้สึกว่าไม่สนิทสนมกับพวกมัน แต่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า นั่นอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้พูดภาษาของแมว
การวิจัยในปี 2020 แสดงให้เห็นว่า การคุยกับแมวไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องยิ้มให้พวกมัน แต่ไม่ใช่การยิ้มแบบมนุษย์ที่แยกเขี้ยวยิงฟัน ต้องเป็นการ “ยิ้มแบบแมว” นั่นคือการ “หรี่ตาและกระพริบตาช้า ๆ”
แมว สิ่งที่มีชีวิตที่เป็นเจ้านายของมนุษย์จำนวนมากบนโลก
นักวิทยาศาสตร์ยืนยันจากการสังเกตปฏิสัมพันธ์ระหว่างแมวกับมนุษย์ว่า การแสดงออกแบบนี้ทำให้แมวไม่ว่าจะแปลกหน้าหรือคุ้นเคยกัน เข้าหาและยอมรับมนุษย์มากขึ้น
คาเรน แม็กคอมบ์ นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยซัสเซกซ์ กล่าวว่า “ในฐานะคนที่ศึกษาพฤติกรรมของสัตว์และเป็นเจ้าของแมว เป็นเรื่องดีที่สามารถแสดงให้เห็นว่าแมวและมนุษย์สามารถสื่อสารกันด้วยวิธีนี้ได้ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เจ้าของแมวหลายคนสงสัยอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ได้พบหลักฐานยืนยัน”
หากคุณเคยใช้เวลาอยู่กับแมว คุณคงเคยเห็นแมวแสดงสีหน้า “หลับตาพริ้มบางส่วน” พร้อมกับกระพริบตาช้า ๆ ซึ่งคล้ายกับการที่ตาของมนุษย์หรี่ลงเมื่อยิ้ม และมักเกิดขึ้นเมื่อแมวผ่อนคลายและพอใจ การแสดงออกดังกล่าวถูกตีความว่าเป็นรอยยิ้มแบบหนึ่งของแมว
หลักฐานเชิงประจักษ์จากเจ้าของแมวชี้ให้เห็นว่า มนุษย์สามารถเลียนแบบการแสดงออกนี้เพื่อสื่อให้แมวรู้ว่าเราเป็นมิตรและเปิดใจให้มีปฏิสัมพันธ์ ดังนั้น ทีมนักจิตวิทยาจึงได้ออกแบบการทดลอง 2 ครั้งเพื่อพิจารณาว่าแมวมีพฤติกรรมแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่หากมนุษย์กระพริบตาช้า ๆ
ในการทดลองครั้งแรก เจ้าของแมวกระพริบตาช้า ๆ กับแมว 21 ตัวจาก 14 ครัวเรือน
โดยเมื่อแมวนั่งลงและรู้สึกสบายใจในจุดใดจุดหนึ่งในสภาพแวดล้อมที่บ้าน เจ้าของแมวได้รับคำสั่งให้นั่งห่างออกไปประมาณ 1 เมตรและกระพริบตาช้า ๆ เมื่อแมวมองมาที่พวกเขา กล้องจะบันทึกใบหน้าของทั้งเจ้าของและแมว และนำผลลัพธ์มาเปรียบเทียบกับการกระพริบตาของแมวเมื่อไม่มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า แมวมีแนวโน้มที่จะกระพริบตาช้า ๆ ให้กับมนุษย์มากขึ้นหลังจากที่มนุษย์กระพริบตาช้า ๆ ให้พวกมันเมื่อเทียบกับสภาวะที่ไม่มีการโต้ตอบกัน
การทดลองครั้งที่ 2 ใช้แมว 24 ตัวจาก 8 บ้านที่แตกต่างกัน ในครั้งนี้ไม่ใช่เจ้าของที่กระพริบตา แต่เป็นนักวิจัยที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแมวมาก่อน และจะบันทึกว่าแมวตอบสนองต่อสภาวะที่ไม่มีการกระพริบตาอย่างไร โดยทีมวิจัยจะจ้องมองแมวโดยไม่กระพริบตา
จากนั้นนักวิจัยใช้กระบวนการกระพริบตาช้า ๆ แบบเดียวกับการทดลองครั้งแรก โดยยื่นมือออกไปหาแมว และพบว่าไม่เพียงแต่แมวจะกระพริบตาตอบมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเข้าใกล้มือมนุษย์มากขึ้นหลังจากมนุษย์กระพริบตาด้วย
“การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลองครั้งแรกเกี่ยวกับบทบาทของการกระพริบตาช้า ๆ ในการสื่อสารระหว่างแมวกับมนุษย์” แม็กคอมบ์กล่าว
เธอเสริมว่า “และนี่คือสิ่งที่คุณสามารถลองทำกับแมวของคุณที่บ้านหรือกับแมวที่คุณเจอตามท้องถนนได้ เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเสริมสร้างความผูกพันที่คุณมีกับแมว ลองหรี่ตามองพวกมันเหมือนกับที่คุณยิ้มอย่างผ่อนคลาย จากนั้นจึงหลับตาสัก 2-3 วินาที คุณจะพบว่าพวกมันตอบสนองในลักษณะเดียวกัน และคุณสามารถเริ่มบทสนทนาได้”
เป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าเหตุใดแมวจึงกะพริบตาช้า ๆ ให้มนุษย์ในลักษณะนี้ การกระทำดังกล่าวถูกตีความว่าเป็นการสื่อถึงเจตนาที่ดี เนื่องจากเชื่อกันว่าแมวตีความการจ้องมองอย่างต่อเนื่องว่าเป็นการคุกคาม แต่ก็เป็นไปได้เช่นกันที่แมวจะแสดงออกทางสีหน้าเช่นนั้น เนื่องจากมนุษย์ตอบสนองต่อการกระทำดังกล่าวในเชิงบวก สำหรับสัตว์เลี้ยง มักจะไม่สามารถบอกได้
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด การกระทำดังกล่าวก็ดูเหมือนจะช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีได้ และนั่นก็เป็นเรื่องดีที่ควรทราบ การเรียนรู้วิธีปรับปรุงความสัมพันธ์กับสัตว์ที่น่ารักเหล่านี้อาจเป็นวิธีปรับปรุงสุขภาพทางอารมณ์ของพวกมันได้ ไม่เพียงแต่ในสภาพแวดล้อมที่บ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความเครียดได้อีกด้วย
เรียบเรียงจาก Science Alert
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/news/243087
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 :
https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube :
www.youtube.com/@PPTVHD36
สัตว์เลี้ยง
ข่าวรอบโลก
ความรู้รอบตัว
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย