สรุปธุรกิจ แว่นท็อปเจริญ จบในโพสต์เดียว
-ถ้าย้อนไปดูเส้นทางของร้าน แว่นท็อปเจริญ รู้ไหมว่าแบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2490 มีประวัติความเป็นมายาวนาน 78 ปี
BrandCase สรุปเรื่องราวของแบรนด์นี้ให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
-แว่นท็อปเจริญ เมื่อก่อนชื่อเดิมว่า “เจริญการแว่น”
ร้านนี้ก่อตั้งโดย คุณเจริญ ตรีพรชัยศักดิ์ โดยเขาเริ่มต้นทำธุรกิจแว่นตาที่จังหวัดสระบุรี ด้วยการเป็นหน่วยรถขายแว่นตา คล้ายรถเร่ ตระเวนขายไปตามสถานที่ต่าง ๆ และเริ่มธุรกิจร้านแว่นตาเล็ก ๆ ในสระบุรี
ในปี พ.ศ. 2524 คุณนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ รับช่วงต่อยอดธุรกิจแว่นตาจากคุณพ่อ คือคุณเจริญ
และยังเป็นผู้พลิกโฉมร้านแว่นตาแบบดั้งเดิม มาเป็นร้านแว่นตาโฉมใหม่
โดยการนำเทคโนโลยีการตรวจวัดสายตาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มาให้บริการคนไทยในยุคแรก ๆ
หลังจากนั้นจึงได้พัฒนามาเป็นโปรแกรม AxQ20 ซึ่งเป็นโปรแกรมการตรวจวัดสายตาเฉพาะบุคคลแบบละเอียดขั้นสูงถึง 20 ขั้นตอน เพื่อให้การตรวจวัดสายตาได้ค่าความคมชัด ละเอียด และแม่นยำที่สุด
จากการสร้างธุรกิจแว่นตาของครอบครัวเล็กๆ พัฒนาจนกลายเป็นผู้นำธุรกิจแว่นตารายใหญ่ของประเทศ และได้ขยายสาขาไปสู่ภาคอีสานและเหนือ จนสามารถเปิดสาขาให้บริการครอบคลุมทั่วไทยจนครบ 100 สาขาได้ในเวลาไม่นาน
โดยธุรกิจของเจริญการแว่นนั้น เน้นการทำธุรกิจอยู่ตามต่างจังหวัดก่อน แล้วค่อยโอบล้อมเข้ามาในกรุงเทพมหานครในตอนหลัง
หรือในภาษาธุรกิจก็คือ กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง
อีกเรื่องสำคัญก็คือ คุณนพศักดิ์ ที่เข้ามารับช่วงธุรกิจต่อจากคุณพ่อ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาร้านแว่นตาอย่างจริงจัง
จึงได้จดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า เปลี่ยนชื่อจาก “เจริญการแว่น” เป็น “แว่นท็อปเจริญ” เพื่อให้เป็นที่จดจำ ทันสมัย
และมีเกร็ดเล็กน้อยคือ คุณนพศักดิ์จึงเลือกใช้ชื่อ “แว่นท็อปเจริญ” ซึ่งถูกตั้งขึ้นมาตามชื่อของคุณพ่อ
ส่วนคำว่า ท็อป ก็มาจากความคิดของเขาที่ว่าเมื่อมาทำธุรกิจแว่นตาแล้ว เขาต้องการทำมันให้ดีที่สุด ก็เลยนำคำว่า ท็อป มาใช้
จึงเป็นที่มาของชื่อ “ท็อปเจริญ” ..
รวมถึงมีการนำความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการประกอบแว่นตาโปรเกรสซีฟจากต่างประเทศเข้ามาให้บริการลูกค้าในยุคแรก ๆ
คุณนพศักดิ์ เข้ามาพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจแว่นตาของครอบครัว ให้มีความทันสมัยมากขึ้น
มีการนำเอาเทคโนโลยีในการตรวจวัดสายตา ด้วยระบบคอมพิวเตอร์มาใช้
รวมถึงก่อตั้ง “โรงเรียนวิชาการแว่นตาไทย” ในปี พ.ศ. 2541 ซึ่งได้รับการรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ความรู้และพัฒนาวิชาชีพแก่นักศึกษา สร้างการเติบโตเป็นบุคลากรที่เชี่ยวชาญทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด
แว่นท็อปเจริญ ขยายตัวสู่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ชื่อดังหลายแห่ง จนในปัจจุบันมีสาขาในห้างสรรพสินค้าครบเกือบทุกแห่งทุกพื้นที่
รวมถึงเติบโตเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทย ในตอนนี้
รายได้และกำไรของ บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (มหาชน) เจ้าของร้านแว่นท็อปเจริญ
ปี 2563 รายได้ 4,432 ล้านบาท กำไร 133 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,273 ล้านบาท กำไร 285 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 5,414 ล้านบาท กำไร 627 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 5,785 ล้านบาท กำไร 282 ล้านบาท
ปัจจุบัน แว่นท็อปเจริญ มีมากกว่า 2,100 สาขา ซึ่งจำนวนนี้ เป็นจำนวนสาขาร้านแว่นตา ที่มากที่สุดในไทยและอาเซียน
โดยถ้าอ้างอิงจาก ข่าวประชาสัมพันธ์ บมจ.ร่วมเจริญพัฒนา
แว่นท็อปเจริญ ครองส่วนแบ่งตลาดธุรกิจร้านแว่นตาในไทยในปีที่ผ่านมา ราว 41%
และทั้งหมดนี้คือ การเดินทางของ แว่นท็อปเจริญ
จากร้านแว่นตาในสระบุรี สู่ร้านแว่นตา ที่คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะจังหวัดไหน ต้องรู้จัก..
- 65
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
