19 ก.พ. เวลา 11:00 • ธุรกิจ

AOT เปิดสัมปทาน 3 โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่

AOT มั่นใจรายได้เติบโตต่อเนื่อง เตรียมเปิดสัมปทาน 3 โครงการ ดึงเอกชนลงทุน – ร่วมลงทุน ในสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงสนามบินดอนเมือง ขยายการลงทุน เพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. กล่าวว่า จากคาดการณ์ตัวเลขผู้โดยสารที่ผ่านมาและแนวโน้มในอนาคตที่เพิ่มมากขึ้น AOT พร้อมลุยโครงการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบิน เพื่อเพิ่มรายได้ และอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร รวมถึงฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย
ปัจจุบันธุรกิจของ AOT ยังมีแนวโน้มรายได้ที่เป็นขาขึ้นจากปัจจัยด้านการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสารและการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งผลประกอบการของปีงบประมาณ 2568 ระหว่างเดือนตุลาคม2567 ถึงเดือนธันวาคม 2567 AOT มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 5,344.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.12% และมีรายได้รวม 17,906.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.4 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารช่วงตารางบินฤดูร้อนในปี 2568 ซึ่งสายการบินได้มีการขอจัดสรรเวลาการบินล่วงหน้า จะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 543,932 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.7 % แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 225,905 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.7 % เที่ยวบินระหว่างประเทศ 318,027 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.6 %
ในขณะที่มีจำนวนผู้โดยสารรวม 87,801,146 คน เพิ่มขึ้น 31.2 % แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 32,844,933 คน เพิ่มขึ้น 33.0 % ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 54,956,213 คน เพิ่มขึ้น 30.0 % (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568)
ตลอดจนคาดการณ์การเติบโตของปริมาณผู้โดยสารจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 170 ล้านคน/ปี ในอีก 5 ปี และมีผู้โดยสารประมาณ 210 ล้านคน/ปี ในอีก 10 ปี ซึ่งสอดคล้องตามแผนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT เพื่อจะรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
ดังนั้นปัจจัยพื้นฐานของ AOT ยังคงแข็งแกร่งสะท้อนศักยภาพการเติบโตในอนาคตสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการบินใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
AOT มีแผนลงทุนขยายท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ทั้งด้านผู้โดยสารและกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ผ่านการลงทุนเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานเดิม ไปจนถึงการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ อาทิ โครงการพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 65 ล้านคน/ปี เป็น 150 ล้านคน/ปี
ประกอบด้วย โครงการพัฒนาส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร เพิ่มการรองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคน โครงการพัฒนาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) เพิ่มการรองรับผู้โดยสาร 70 ล้านคน โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 เพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินได้ถึง 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) รองรับผู้โดยสาร 40 ล้านคน/ปี ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โครงการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม
รวมถึงโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 60 ล้านคน/ปี ประกอบด้วย โครงการก่อสร้าง ทภก.แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานอันดามัน รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 40 ล้านคน และโครงการก่อสร้าง ทชม.แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานล้านนา รองรับปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 20 ล้านคนต่อปี
ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT ยังมีแผนในการเพิ่มรายได้แหล่งใหม่ อาทิ 1. โครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ปี พ.ศ.2562 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ประกอบไปด้วย โครงการให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้น การให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องและโครงการคลังสินค้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของผู้ประกอบรายที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ
ปัจจุบัน AOT อยู่ระหว่างการคัดเลือกเอกชน โดยจะมีการประกาศเชิญชวนในเดือนมีนาคม 2568 และโครงการ 400 Hz และ PC-Air โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul: MRO) โครงการให้บริการการซ่อมขนาดเบาอากาศยาน (Line Maintenance) (โครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2569)
2. โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง โครงการก่อสร้าง Junction Building และอาคารจอดรถพร้อมพื้นที่ให้บริการโรงแรมเพื่อเป็นจุดเชื่อมระหว่างการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากทางอากาศไปยังระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงและรถสาธารณะต่างๆ
3. โครงการพัฒนาที่ดินแปลง 723 ไร่ ณ ทสภ. (Certify Hub และ Airport Logistics Park) ประกอบด้วยศูนย์จัดการสินค้าเกษตรแบบครบวงจร และเป็น Logistics Park ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการขนส่งสินค้าทางอากาศ
นอกจากนี้ AOT ยังมีความได้เปรียบด้านศักยภาพการแข่งขันเชิงธุรกิจและนโยบายส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐที่จะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตในระยะยาว AOT จึงมีความเชื่อมั่นทั้งความพร้อมในการสร้างรายได้และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ไปจนถึงการเป็นส่วนหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป
โฆษณา