เมื่อวาน เวลา 07:45 • ประวัติศาสตร์

“สาธารณรัฐ“ แห่งแรกในโลกเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

ตั้งแต่อดีต ดินแดนส่วนใหญ่จะถูกปกครองโดยระบอบกษัตริย์ มีดินแดนเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่ปราศจากกษัตริย์
แนวคิดเรื่อง “สาธารณรัฐ” นั้นเป็นแนวคิดใหม่ โดยหนึ่งในดินแดนที่เป็นต้นแบบของสาธารณรัฐก็คือ “สาธารณรัฐโรมัน (Roman Republic)”
แต่โรมันนั้นไม่ได้เป็นสาธารณรัฐมาตั้งแต่ต้น ก่อนจะเป็นสาธารณรัฐ ก็เคยเป็นอาณาจักรที่ปกครองโดยกษัตริย์มาก่อนเช่นกัน
แล้วเกิดอะไรขึ้น? สาธารณรัฐนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ผมจะเล่าให้ฟังครับ
เรื่องราวนี้มีแหล่งที่มาหลักเพียงแห่งเดียว คือจากข้อเขียนของ “ลิวี (Livy)” นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในรัชสมัยของ “จักรพรรดิออกัสตัส (Augustus)” รัชกาลที่ 1 แห่งจักรวรรดิโรมัน โดยลิวีได้เขียนประวัติศาสตร์โรมันตั้งแต่เริ่มก่อตั้งไปจนถึง 9 ปีก่อนคริสตกาล
ลิวี (Livy)
แต่ข้อเขียนของลิวีก็มีปัญหาอยู่สองข้อ
1.เช่นเดียวกับบันทึกโบราณอื่นๆ บันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์โรมันนั้นส่วนใหญ่ก็สาปสูญไปหมดแล้ว นั่นหมายความว่าลิวีเป็นแหล่งข้อมูลเพียงแหล่งเดียวที่มี
2.เรื่องราวของลิวีมีการหลอมรวมเรื่องในตำนานด้วย ทำให้ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล มีการตั้งคำถามถึงความถูกต้อง
แต่ยังไงก็ตาม เราลองมาดูเรื่องราวนี้ตามบันทึกของลิวีกันก่อนครับ
ตามบันทึกของลิวี เรื่องราวของสาธารณรัฐโรมันเริ่มขึ้นเมื่อ 510 ปีก่อนคริสตกาล โดยในเวลานั้น ผู้ปกครองโรมันคือ “พระเจ้าทาร์ควินผู้หยิ่งทะนง (Tarquin the Proud)”
พระเจ้าทาร์ควินผู้หยิ่งทะนง (Tarquin the Proud)
พระเจ้าทาร์ควินนั้นทรงปกครองอย่างเผด็จการ หากแต่ความล่มสลายนั้นมาจากพระราชโอรสของพระองค์ ผู้มีพระนามว่า “เซ็กทัส ทาร์ควิเนียส (Sextus Tarquinius)”
ในเวลานั้น พระเจ้าทาร์ควินจำเป็นต้องใช้เงินในการก่อสร้างโครงการต่างๆ มากมาย พระองค์จึงจัดทัพ เตรียมการไปยึดดินแดนเพื่อนบ้าน โดยพระองค์ทรงวางแผนจะเข้าโจมตีพวก “รูตูลี (Rutuli)”
แต่กองทัพโรมันไม่สามารถโจมตีพวกรูตูลีได้อย่างเด็ดขาด จึงวางแผนจะปิดล้อมเมือง
ในช่วงเวลาที่กองทัพโรมันพักทัพ เหล่าทหารก็นั่งพูดคุยกันเรื่องชีวิตของตน และก็มาถึงเรื่องของ “ภรรยา” โดยทหารแต่ละนายก็ขิงกันว่าภรรยาของตนนั้นดีขนาดไหน
นายทหารคนหนึ่งนามว่า “คอลลาทินัส (Collatinus)” ก็ได้พูดว่า
“หยุดได้แล้ว จะเถียงกันทำไม ในเมื่ิออีกแค่ไม่กี่ชั่วยามเราก็จะได้พิสูจน์ถึงความดีของ ”ลูเครเทีย (Lucretia)” ของข้าแล้ว พวกเราต่างก็ยังหนุ่มและแข็งแรง ทำไมเราไม่กลับไปกรุงโรมและดูด้วยตาตัวเองว่าภรรยาของพวกเรานั้นเป็นอย่างไร?“
ปรากฎว่าเหล่าทหารเอาด้วย และมุ่งหน้ากลับกรุงโรม และก็พบว่าลูเครเทีย ภรรยาของคอลลาทินัส เป็นเพียงรายเดียวที่ไม่ทิ้งหน้าที่ของตนและทำหน้าที่ของตนเป็นอย่างดี
ลูเครเทีย (Lucretia)
เมื่อความจริงพิสูจน์แจ้ง กองทัพก็เดินทางกลับไปรูตูลี
เมื่อเรื่องราวของลูเครเทียเป็นที่รับรู้ไปถึง “เซ็กทัส ทาร์ควิเนียส (Sextus Tarquinius)” เจ้าชายผู้โหดร้าย เจ้าชายเซ็กทัสก็สนพระทัยและอยากได้ลูเครเทีย
เจ้าชายเซ็กทัสเสด็จกลับกรุงโรมและได้ออกหมายเชิญไปยังบ้านของคอลลาทินัส และลูเครเทียก็ได้ถวายการต้อนรับเจ้าชายเซ็กทัสเป็นอย่างดีในฐานะของแขก
หลังจากนั้น ในยามค่ำคืน เจ้าชายเซ็กทัสได้แอบเข้ามาในห้องนอนของลูเครเทีย และเอาดาบจ่อลูเครเทีย พร้อมขู่ว่าพระองค์จะฆ่าลูเครเทียหากลูเครเทียขัดขืน
แต่ลูเครเทียนั้นไม่เกรงกลัวความตาย ทำให้เจ้าชายเซ็กทัสต้องเปลี่ยนแผน โดยตรัสแก่ลูเครเทียว่า
“หากความตายไม่อาจทำให้เจ้ากลัว งั้นการเสื่อมเสียเกียรติจะทำให้เจ้าต้องหวาดกลัว ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน จากนั้นจะไปเชือดคอทาสคนหนึ่ง และเอาศพมันมาไว้ข้างเจ้า”
ด้วยการขู่เช่นนี้ทำให้ลูเครเทียไม่อาจขัดขืน และเจ้าชายเซ็กทัสก็ได้ทำการข่มขืนลูเครเทียจนพอพระทัย
จากนั้น ลูเครเทียก็ได้ส่งจดหมายถึงผู้เป็นสามี ขอให้กลับมา ซึ่งคอลลาทินัสก็ได้เดินทางกลับมาพร้อมเพื่อนทหาร และทราบความจริงจากลูเครเทีย โดยลูเครเทียได้กล่าวว่า
“สตรีที่เสื่อมเสียเกียรติไปแล้วจะเป็นอย่างไร? บนเตียงของท่าน คอลลาทินัส คือบุรุษอีกคน ร่างกายของข้าถูกทำร้าย หัวใจของข้านั้นบริสุทธิ์และความตายคือพยาน ได้โปรดสัญญากับข้าว่าผู้กระทำจะต้องถูกลงโทษ เขาผู้นั้นก็คือ เซ็กทัส ทาร์ควิเนียส“
จากนั้น ลูเครเทียก็ได้ใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกตนเองเพื่อฆ่าตัวตาย สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้คนรอบข้าง
ทหารนายหนึ่งรับมีดนั้นและกล่าวคำสาบาน
“ด้วยโลหิตของสตรีผู้นี้ นางเป็นผู้บริสุทธิ์จนกระทั่งทรราชย์มาย่ำยี และต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า ข้าขอสาบานว่าด้วยดาบและเปลวไฟ และสิ่งใดก็ตามที่ข้าสามารถใช้กำลังหยิบจับ ข้าจะออกติดตามทาร์ควินผู้หยิ่งทะนง มเหสีผู้ชั่วร้ายของเขา และเหล่าบุตรหลานของเขา และข้าจะไม่ยอมให้พวกเขา หรือใครก็ตาม ได้เป็นกษัตริย์แห่งกรุงโรม“
ชายผู้นี้มีนามว่า “ลูเซียส จูเนียส บรูตัส (Lucius Junius Brutus)”
บรูตัสนั้นทำตามที่ลั่นวาจาไว้ และนำกำลังขับไล่ระบอบกษัตริย์ออกจากโรมัน และได้ขึ้นเป็นกงสุลรายแรกๆ เป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์
ลูเซียส จูเนียส บรูตัส (Lucius Junius Brutus)
ตลอดเวลาต่อมาอีกนับพันปี ก็ไม่มีใครได้ขึ้นเป็นกษัตริย์อีกเลย
แต่ถามว่าเรื่องเล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือ?
มีการตั้งคำถามถึงความถูกต้องของเรื่องเล่านี้ และก็พบว่าหลายอย่างก็ยังดูคลุมเครือ ไม่ตรงกับความเป็นจริง เหมือนเป็นเพียงตำนานเสียมากกว่า
แต่เรื่องเล่านี้ก็ยังเป็นตำนานที่เล่าขานมาถึงปัจจุบัน และว่ากันว่าเป็นจุดกำเนิดของ “สาธารณรัฐ” แห่งแรกในประวัติศาสตร์
โฆษณา