รู้จัก นักลงทุนโนเนม ที่ติดทำเนียบมหาเศรษฐีของ Forbes จากการถือหุ้น Berkshire เพียงตัวเดียว
5,037,690,000,000 บาท คือมูลค่าความมั่งคั่งของคุณ Warren Buffett มหาเศรษฐีอันดับ 10 ของโลก
ซึ่งความมั่งคั่งเกือบทั้งหมดของเขา มาจากการถือครองหุ้นในบริษัท Berkshire Hathaway บริษัทด้านการลงทุนของตัวเขาเอง
แต่รู้ไหมว่านอกจาก Berkshire Hathaway จะเป็นบริษัทที่สร้างความมั่งคั่งให้กับคุณ Buffett จนติดทำเนียบมหาเศรษฐีระดับโลกแล้ว
ยังมีนักลงทุนโนเนมคนหนึ่ง เปลี่ยนฐานะจากคนธรรมดา กลายเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับ 888 ของโลก จากการถือหุ้น Berkshire Hathaway อย่างยาวนานไม่แพ้คุณ Buffett เลย
แล้วเรื่องราวของนักลงทุนลึกลับผู้นี้ จะมีความน่าสนใจอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
นักลงทุนลึกลับผู้นี้ มีชื่อว่าคุณ Stewart Horejsi (อ่านว่า สจวร์ต ฮอริส) ทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัท Brown Welding Supply ผู้จัดจำหน่ายถังออกซิเจน และถังไฮโดรเจน เล็ก ๆ ในเมืองแคนซัส ของสหรัฐอเมริกา
โดยสิ่งที่ทำให้คุณ Horejsi มีโอกาสรู้จักบริษัท Berkshire Hathaway ก็คือการได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนชื่อ The Money Masters ในปี 1980
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คุณ Horejsi ก็เริ่มมีความศรัทธาในตัวคุณ Warren Buffett และแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
คุณ Horejsi เลยตัดสินใจนำกำไรจากธุรกิจของครอบครัวเขา มาลงทุนในหุ้น Berkshire Hathaway หรือ BRK
โดยเขาเข้าซื้อหุ้น BRK ครั้งแรก ในราคา 265 ดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นก็ทยอยซื้อหุ้นสะสมมาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่องหลายปี จนเขาสามารถถือครองหุ้น Berkshire Hathaway ได้สูงสุดถึง 5,800 หุ้น
ก่อนที่ในปี 1998 เขาจะขายหุ้น BRK ออกไป 1,500 หุ้น และขายธุรกิจของครอบครัวออกไป เนื่องจากในตอนนั้นธุรกิจของเขา เจอกับการแข่งขันที่สูงขึ้น
ทำให้ตอนนี้เขาเหลือหุ้น BRK อยู่ทั้งหมด 4,300 หุ้น และเขาก็ไม่เคยขายหุ้น BRK ออกไปอีกเลย
หลังจากขายหุ้น BRK บางส่วนและขายธุรกิจออกไป เขาคิดจะนอนอยู่เฉย ๆ แล้วถือหุ้น BRK ที่เหลือไปเรื่อย ๆ แต่เขาก็มานึกขึ้นได้ทีหลังว่า BRK เป็นหุ้นที่ไม่จ่ายเงินปันผล
ทำให้แม้ว่าเขาจะมีเงินก้อนจากการขายธุรกิจ และหุ้น BRK บางส่วน แต่การขาดรายได้ประจำ ก็ทำให้เขารู้สึกขาดความมั่นคงในชีวิต
คุณ Horejsi จึงเริ่มมองหาธุรกิจใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจใหม่ที่เขากำลังจะทำ ต้องเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับเขาอย่างมั่นคง และเป็นธุรกิจที่เขามีความหลงใหล
นั่นคือธุรกิจบริหารจัดการกองทุน ที่มีรายได้มั่นคงจากค่าธรรมเนียมในการรับบริหารเงินให้นักลงทุน และการลงทุนก็เป็นสิ่งที่เขาชอบ
แต่การก่อตั้งกองทุนเพื่อรับบริหารเงินให้นักลงทุนรายอื่น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยชื่อเสียง และผลงานในการสร้างผลตอบแทนย้อนหลังหลายปี
ซึ่งในตอนนั้นคุณ Horejsi ยังเป็นเพียงนักลงทุนธรรมดา ที่ไม่มีใครรู้จัก และยังมีประสบการณ์ลงทุนไม่กี่ปี
คุณ Horejsi จึงต้องมองหาทางเลือกอื่น เพื่อเข้าสู่ธุรกิจบริหารจัดการกองทุน
จนวันหนึ่ง เขาได้พบกับกองทุนปิด หรือ Closed-End Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียว แล้วปิดรับเงินจากนักลงทุน เมื่อระดมทุนครบตามต้องการแล้ว
โดยกองทุนแบบนี้ มักจะนำหุ้นเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น หลังจากปิดรับเงินจากนักลงทุนแล้ว ตัวอย่างกองทุนประเภทนี้ในไทยก็คือ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
เช่น BTSGIF ซึ่งลงทุนในสิทธิในการรับรายได้สุทธิจากสัญญาสัมปทานในการบริหารการเดินรถไฟฟ้า หรือ EGATIF ที่ลงทุนในสิทธิการรับรายได้จากโรงไฟฟ้า
ซึ่งในบริบทของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ราคาหุ้นของกองทุนประเภทนี้ มักจะมีราคาต่ำกว่ามูลค่าสุทธิของเงินลงทุนของกองทุน เนื่องจากค่าธรรมเนียมบริหารจัดการที่สูง และการบริหารที่มักจะไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุน
เหตุการณ์นี้จึงเป็นโอกาสที่คุณ Horejsi จะสามารถไล่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนปิดในราคาถูก ๆ จนสามารถมีอำนาจในการเสนอชื่อกรรมการกองทุนได้เลย
โดยกองทุนเป้าหมาย ที่คุณ Horejsi จ้องตาเป็นมันอยู่ก็คือ กองทุน Boulder Total Return Fund และกองทุน Boulder Growth & Income Fund
ไม่นานหลังจากนั้น ในปี 2002 คุณ Horejsi ก็สามารถควบคุมกองทุนทั้ง 2 แห่งได้สำเร็จ และแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการกองทุนแทน
สิ่งแรกที่เขาทำก็คือ การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการกองทุนให้สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็ลดความถี่ในการซื้อขายหุ้น เพื่อเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนไปพร้อม ๆ กัน
เรื่องต่อมาที่เขาทำก็คือ นำเงินกองทุนไปไล่ซื้อหุ้น BRK จนในปี 2022 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่เขาบริหารกองทุน สัดส่วนการถือหุ้น BRK มากถึง 43.9% ของมูลค่ากองทุน
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คุณ Horejsi วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เนื่องจากคุณ Horejsi มีความเชื่อมั่นในตัวคุณ Buffett มาก เขาจึงมองว่า Berkshire Hathaway เป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยม
และหาก Berkshire Hathaway มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการกองทุน ที่เขาจะได้รับก็จะมากขึ้นตามมูลค่าทรัพย์สินกองทุนที่มีมากขึ้น
ซึ่งตลอดระยะเวลา 20 ปี ที่คุณ Horejsi บริหารกองทุนอยู่ เขาสามารถโกยเงินค่าบริหารจัดการกองทุนเข้ากระเป๋าตัวเองไปได้มากกว่า 3,400 ล้านบาทเลยทีเดียว
กลยุทธ์ที่คุณ Horejsi ใช้เงินเพียงน้อยนิด เข้าซื้อหุ้นในกองทุนปิดที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
จากนั้นก็ใช้เงินของนักลงทุนรายอื่น เข้าซื้อหุ้น BRK สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง
ก็คล้ายกับแนวทางการสร้างความมั่งคั่งของคุณ Buffett ที่ซื้อบริษัทประกัน แล้วใช้เงินจากเบี้ยประกันรับล่วงหน้า แต่ยังไม่ถูกเคลม ที่เรียกกันว่า “FLOAT” นำไปลงทุน
ซึ่งจริง ๆ แล้ว FLOAT ไม่ใช่เงินของบริษัทประกัน แต่เป็นเงินของผู้ทำประกัน รอวันที่จะถูกเคลม กว่าที่ผู้ทำประกันจะเคลมก็อาจจะเป็นเวลาหลายปี หรือไม่เคลมเลยก็มี
กลยุทธ์แบบนี้เรียกว่า “OPM” หรือ Other People's Money แปลเป็นไทยได้ว่า การใช้เงินคนอื่นสร้างความมั่งคั่งให้เรา
และปัจจุบันนี้หุ้น BRK-A ที่คุณ Horejsi ถือในนามส่วนตัวจำนวน 4,300 หุ้น ก็คิดเป็นมูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาท จากความมั่งคั่งทั้งหมด 128,000 ล้านบาทเลยทีเดียว..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รู้ไหมว่า Berkshire Hathaway ก็เป็นบริษัทหนึ่ง ที่เราสามารถลงทุนได้ผ่านเครื่องมือ DRx ที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้นไทย โดย DRx ของ Berkshire Hathaway ชื่อว่า BRKB80X
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำ ให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
#ลงทุน
#DRx
#DRวันละตัว
- 33
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
