รู้จัก High Agency ทักษะของนักคว้าโอกาสที่คนอื่นมองข้าม ทักษะที่นายจ้างกำลังมองหา /โดย ลงทุนเกิร์ล
หลายคนคงเคยได้ยินคำศัพท์ที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีลักษณะนิสัยโดดเด่นบางอย่าง จนทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ เช่น
- Grit บุคคลที่มีแพสชัน ทุ่มเท และพยายามอย่างหนัก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระยะยาว
- Type A บุคคลที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง กระตือรือร้น สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้ดี
- Girlboss ผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตนเองสูง มีความเป็นผู้นำ และมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้าในอาชีพ
และเมื่อไม่นานมานี้ มีอีกหนึ่งลักษณะนิสัยที่เรียกว่า “High Agency” กำลังเป็นทักษะที่นายจ้างในบริษัทวงการเทคชื่อดังใน Silicon Valley มองหาในผู้สมัครงาน
จนว่ากันว่าหากใครมีทักษะนี้ ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต และร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีเลยทีเดียว
คำว่า High Agency หมายถึงคนแบบใด ?
แล้วทำไมบริษัทเทคใน Silicon Valley ถึงกำลังตามหา ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นต้องบอกว่า High Agency ไม่ใช่คำใหม่
แต่เป็นคำที่พูดมาตั้งแต่ปี 2016 โดยคุณ Eric Weinstein นักลงทุนท่านหนึ่งที่ได้พูดคำนี้ในรายการพอดแคสต์พัฒนาตัวเอง
คุณ Weinstein เปรียบเทียบทักษะนี้ กับตัวละครเอกซึ่งเป็นสายลับในเรื่อง MacGyver ที่สามารถใช้อุปกรณ์รอบตัวเท่าที่มีมาพลิกแพลงแก้ไขปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ
คำว่า High Agency ในที่นี้ จึงหมายถึงบุคคลที่มีความมุ่งมั่นในการควบคุมชะตาชีวิตของตนเอง ไม่รอโชคชะตาแต่ลงมือทำทันที หรือไม่รอให้ปัจจัยทุกอย่างพร้อมก่อนแล้วค่อยลงมือทำ และพวกเขามักเห็นโอกาสในขณะที่คนอื่นมองข้ามหรือเห็นเป็นอุปสรรค
ซึ่งลักษณะดังกล่าวมักพบในผู้ที่เริ่มทำธุรกิจของตัวเอง หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจนร่ำรวย
ยกตัวอย่างที่ชัดเจนของคนที่มี High Agency นั่นก็คือ คุณ Steve Jobs ที่ไม่รอให้มีคนทำสมาร์ตโฟนแบบที่อยากใช้ แต่สร้าง iPhone ขึ้นมา
และคุณ Elon Musk ชายที่รวยที่สุดในโลก ที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ เช่น ก่อตั้ง SpaceX บริษัทผลิตจรวดและยานอวกาศที่ส่งมนุษย์ไปนอกโลก หรือก่อตั้ง Tesla บริษัทที่เข้ามาพลิกโลกด้วยรถไฟฟ้า
รวมไปถึงการเข้าซื้อกิจการ Twitter ในปี 2022 ด้วยเงินราว 1.48 ล้านล้านบาท แม้เขาจะถูกสังคมล้อเลียนว่าเป็นการเผาเงินมหาศาลทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์ แต่สุดท้ายแล้ว ข้อตกลงนี้กลับทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงและมีอิทธิพลอย่างมากในสหรัฐฯ
จากตรงนี้เราจะเห็นได้ว่าลักษณะนิสัยเด่นของเขา คือการลงมือทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง ไม่ติดอยู่กับกรอบความคิดแบบเดิม ๆ
กลับมาที่ปัจจุบัน คำว่า High Agency กำลังได้รับความสนใจ โดยเฉพาะแวดวงบริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley ที่กำลังมองหาผู้สมัครที่มีคุณลักษณะนี้
นอกจากนี้ นายจ้างในหลากหลายอุตสาหกรรมบนเว็บไซต์หางานอย่าง LinkedIn ต่างก็เริ่มมองหาผู้สมัครงานที่มีคุณลักษณะ High Agency เช่นกัน เพราะเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้สามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ
โดยคุณ Mike Basso ซีอีโอของบริษัทจัดหางานเปิดเผยว่า ในอดีตหลายบริษัทเคยให้ความสำคัญกับประสบการณ์การทำงาน และความรู้ของผู้สมัคร
แต่ในตอนนี้ นายจ้างกำลังมองหาคนที่กล้าคิด กล้าลงมือทำ มีความรับผิดชอบ และไม่โทษคนอื่น หากงานที่ได้รับมอบหมายเกิดข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของคนที่มี High Agency
คุณ Basso ยังได้ยกตัวอย่างกรณีของผู้สมัครที่มีประสบการณ์กว่า 15 ปี แต่ถูกตัดสิทธิ์จากการพิจารณาในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขาย เพราะผู้สมัครคนนั้นบ่นเกี่ยวกับอุปสรรคที่เขาเจอในงานเก่า
ซึ่งนายจ้างมองสิ่งนี้เป็นสัญญาณว่าเขาเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้น ต้องรอให้คนอื่นสั่งการก่อนถึงจะเริ่มลงมือทำอะไรได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ใช่คนที่มี High Agency อย่างที่บริษัทต้องการ
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจคิดว่าคนที่มี High Agency จะต้องเป็นคนที่มีทักษะความรู้ความสามารถระดับท็อป ใกล้เคียงกับลูกจ้างในอุดมคติของหลาย ๆ บริษัท
แต่ถ้าเรากลับมุมมอง จะพบว่าคนที่มี High Agency เป็นเหมือนดาบสองคม หากมีความมุ่งมั่นมากเกินไป จนละเลยข้อจำกัดหรือไม่สนใจกฎเกณฑ์ใด ๆ ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน
ดังนั้น High Agency มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยู่ที่ว่าจะบาลานซ์มันได้แค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ที่แน่ ๆ คือ ในอนาคตอันใกล้ เราคงได้เห็น “High Agency” กลายเป็นทักษะฮิตติดเรซูเม่
หรือแม้แต่กลายเป็นคำถามสัมภาษณ์งาน เพื่อทดสอบว่าผู้สมัครมีทักษะนี้มากน้อยแค่ไหน..
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
