ลุกขึ้นจากเงามืด: วิธีดึงตัวเองออกจากฝันร้ายในอดีต
มีหลายคนที่ยังติดอยู่ในความเจ็บปวดจากอดีต เหมือนถูกขังอยู่ในฝันร้ายที่ไม่รู้จะตื่นขึ้นมาได้อย่างไร ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เพราะผมเองก็เคยอยู่ตรงนั้น เคยคิดว่าตัวเองไม่มีค่า เคยผิดหวังกับชีวิตมาเกือบตลอด และเคยคิดว่าอาจไม่มีที่ไหนสำหรับผมบนโลกใบนี้
แต่วันนี้ ผมอยากบอกคุณว่า มันเป็นไปได้ที่จะเดินออกจากเงามืดนั้น ผมไม่ได้บอกว่ามันง่าย หรือจะหายเจ็บปวดในวันเดียว แต่ผมอยากแบ่งปันสิ่งที่ช่วยให้ผมค่อย ๆ ก้าวออกมา เผื่อว่าสักวันหนึ่ง คุณเองก็จะมองเห็นทางออกเหมือนกัน
1. อดีตอาจเจ็บปวด แต่มันไม่ได้กำหนดอนาคตของคุณ
ผมเคยถูกล่วงละเมิด……ตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ ตอนนั้น ผมยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ร่างกายและจิตใจของผมกลับจำมันได้เสมอ มันหลอกหลอนผม ทำให้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย และทำให้ผมมีอาการแพนิคเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์รุนแรง
เมื่อโตขึ้น ผมเคยมีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอล ผมจินตนาการถึงมันอยู่เสมอ แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกไป ผมเคยเกลียดตัวเอง รู้สึกไม่เอาไหน ผิดหวังกับชีวิต และคิดว่าผมอาจไม่มีค่าอะไรเลย
แต่วันนี้ ผมรู้แล้วว่า สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเรา ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าเราจะต้องเป็นแบบนั้นไปตลอดชีวิต
อดีตอาจสร้างรอยแผลให้คุณ แต่มันไม่ได้ขีดเส้นบอกว่าคุณต้องอยู่ในความเจ็บปวดนั้นตลอดไป คุณสามารถเลือกได้ว่าจะปล่อยให้มันกลืนกินคุณ หรือจะก้าวข้ามมันไป
2. คนที่ต้องอยู่กับตัวเองไปตลอดชีวิต คือตัวเราเอง
วันหนึ่ง ผมนั่งคิดและตระหนักได้ว่า ไม่มีใครที่จะต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิต นอกจากตัวเราเอง ต่อให้คนรอบข้างจะรักเราแค่ไหน พวกเขาก็อาจไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป
ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง ไม่ดูแลจิตใจตัวเอง เราจะต้องเจ็บปวดซ้ำ ๆ ทุกครั้งที่มีใครเข้ามาแล้วจากไป
ผมเริ่มลองทำสิ่งที่ดีต่อตัวเอง
• ฟังพอดแคสต์เกี่ยวกับการรักตัวเอง
• นั่งสมาธิเพื่อฝึกให้ใจสงบ
• พยายามบอกรักตัวเองทุกวัน แม้ว่าช่วงแรกมันจะรู้สึกแปลก
• ตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่ เพราะผมรู้ว่า ตัวเองสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า
การเริ่มรักตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าคุณไม่เริ่ม ไม่มีใครทำแทนคุณได้
3. อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ก้าวไปข้างหน้า
ใช่…เราเจ็บปวด ใช่…เราเคยผ่านเรื่องเลวร้าย และใช่…เราอาจไม่พร้อมจะให้อภัยตัวเองหรือใครก็ตามในตอนนี้
แต่การจมอยู่กับอดีตไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น มันมีแต่จะทำให้เราหลงอยู่ในวังวนเดิม
หากคุณยังติดอยู่กับฝันร้าย ลองถามตัวเองว่า
• “ฉันอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบนี้จริง ๆ หรือ?”
• “ฉันอยากให้ความเจ็บปวดนี้เป็นตัวกำหนดทุกอย่างในชีวิตฉันไหม?”
• “ถ้าฉันสามารถก้าวออกมาได้ ชีวิตของฉันจะเป็นแบบไหน?”
บางครั้ง การยอมรับว่าเรายังเจ็บปวด เป็นก้าวแรกของการเยียวยา และการตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยให้มันทำลายชีวิตเรา คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
4. คุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด
หากคุณกำลังอ่านบทความนี้ และยังมีลมหายใจอยู่ คุณคือผู้รอดชีวิต คุณผ่านวันที่แย่ที่สุดมาได้แล้ว และนั่นคือข้อพิสูจน์ว่าคุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด
ไม่เป็นไรถ้าคุณยังร้องไห้
ไม่เป็นไรถ้าคุณยังรู้สึกเจ็บปวด
แต่ขอให้คุณจำไว้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องติดอยู่กับมันตลอดไป
5. คุณสมควรได้รับชีวิตที่ดีขึ้น
ต่อให้ใครเคยทำร้ายคุณ ต่อให้คุณเคยทำผิดพลาด ต่อให้คุณเคยรู้สึกไร้ค่า คุณก็ยังสมควรได้รับความสุข
ไม่มีใครสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่ทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
หากคุณยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ลองเริ่มจากตรงนี้
• หายใจเข้าลึก ๆ
• กอดตัวเอง
• แล้วบอกตัวเองว่า “ฉันจะไม่ทิ้งตัวเองอีกต่อไป”
ผมเคยติดอยู่ในฝันร้าย แต่วันนี้ ผมกำลังเดินออกมา และผมเชื่อว่าคุณก็ทำได้เช่นกัน
คุณไม่ได้อยู่คนเดียว และคุณไม่ได้ไร้ค่า คุณสำคัญ และคุณสมควรได้รับชีวิตที่ดีขึ้น
สุดท้ายนี้…
อย่าปล่อยให้เงาของอดีตขโมยอนาคตของคุณไป
คุณไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งตลอดเวลา คุณสามารถล้มได้ ร้องไห้ได้ เจ็บปวดได้
แต่สิ่งสำคัญคือ อย่ายอมแพ้กับตัวเอง
ผมเชื่อในตัวคุณนะ :)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
