20 ก.พ. เวลา 00:57 • ความคิดเห็น
#ดัชนีคอรัปชั่น #ไทยต่ำสุดรอบ12ปี
#ดูสิงคโปร์แล้วย้อนดูตัว
ดูรายงานผลการสำรวจดัชนีรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index หรือ CPI) ประจำปี 2567 ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) จากจำนวนประเทศ 180 ประเทศทั่วโลก ปีนี้แล้ว รัฐบาลและรัฐสภาไทย ช่วยตอบคำถามให้ชัดเจน ด้วยครับว่า ยังคิดจะอนุญาตให้มีคาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายโดยอ้างแบบสิงคโปร์โมเดลนั้นจะทำได้อย่างไร
ในเมื่อดัชนีทุจริตคอรัปชั่นโลกที่ประกาศออกมาล่าสุดนั้น แทบเรียกได้ว่าห่างชั้นกันจนเทียบไม่ติด สิงคโปร์เลื่อนคะแนนความโปร่งใสไร้ทุจริต สูงขึ้นไปถึง84คะแนนสูงสุดติดtop อันดับ3ของโลก ขณะที่ไทยถอยร่นรั้งท้ายคะแนนต่ำสุดในรอบ12ปี เหลือเพียงแค่34คะแนน อันดับ107ของโลก “มีคะแนนต่ำกว่าสิงคโปร์ถึง 50คะแนน ห่างชั้นกันถึง104 ลำดับ ”
หากนับตำแหน่งกันในกลุ่มประเทศอาเซียน
ประเทศไทยอาการน่าเป็นห่วงมากเพราะนับวันคะแนนยิ่งถดถอย
ขณะที่สิงคโปร์ดีวันดีคืนขึ้น ติดอันดับ top 3 ของโลก ครองอันดับ1 ในอาเซียนมาตลอด
ตามมาด้วยอันดับ2 คือมาเลเซีย ที่มีคะแนนสูงขึ้นเป็น50คะแนนแซงไทยทิ้งขาดไปแล้ว
อันดับ3 เวียดนามที่เคยสูสีกับไทย ก็มีคะแนนทิ้งห่างไทยสูงขึ้นไปถึง 40 คะแนนเช่นกัน
อันดับ 4 อินโดนีเซียที่มีคะแนนใกล้ไทยในอดีต ยังคงขยับขึ้นไปเล็กน้อยที่37คะแนน
ส่วนไทยได้อันดับ5 ด้วยคะแนนถดถอยรั้งท้าย เหลือเพียง34คะแนน
ใกล้เคียงกับเพื่อนบ้านกลุ่มด้อยพัฒนา อันดับ6 ลาว ที่มีคะแนนห่างจากไทยแค่1คะแนน
ได้33 คะแนน และอันดับ7 ฟิลิปปินส์ ที่มีคะแนนเท่ากับลาว 33 คะแนน เช่นกัน
คงไม่ต้องไปเทียบอันดับ 8 กัมพูชา 21 คะแนนหรืออันดับ 9 เมียนมาร์ 16 คะแนน
ที่ห่างไกลรั้งท้ายมาก
ดัชนีความโปร่งใสปีนี้เรียกได้ว่า งานนี้ประจานหน่วยงานตรวจสอบทุจริตของรัฐบาล
รัฐสภา องค์กรอิสระ เรียกได้ว่าตบหน้ากันอย่างจังครับ
ลองพิจารณารายงานดูกันครับว่า ฐานคะแนนที่ทำให้ประเทศไทยอันดับลดลงมาก
มีที่มาจาก 4 แหล่ง นั้นคืออะไร
1) IMD หรือการติดสินบนหรือการทุจริตมีอยู่หรือไม่ มากน้อยเพียงใด
คำตอบคือ คะแนนที่ลดลงมากถึง7คะแนนจาก 43 คะแนนในปี 2566 เป็น 36 คะแนน
สะท้อนภาพชัดเจนมากๆว่า การติดสินบนและการทุจริตสูงขึ้นมากๆ
2)WEF หรือการที่ภาคธุรกิจต้องจ่ายสินบนในกระบวนการต่างๆมากน้อยเพียงใด
คำตอบคือคะแนนลดลง2คะแนนจาก 36 คะแนนในปี 2566 เป็น 34 คะแนน
แต่หากย้อนดูไปถึงปี2565 มาเปรียบเทียบกับปี2566 และ2567ด้วยจะเห็นได้ว่า
คะแนนลดลงจาก45คะแนนต่อเนื่องมาที่36คะแนนและ34คะแนน ลดไปแล้วถึง11คะแนน แสดงให้เห็นว่า ภาคธุรกิจต้องจ่ายสินบนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
3)EIU หรือความโปร่งใสและการตรวจสอบได้ในการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ
คำตอบคือ คะแนนลดลง2คะแนนจาก 37 คะแนนในปี 2566 เป็น 35 คะแนน
แสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายงบประมาณในภาครัฐที่อาจมีการทุจริตมากขึ้น แต่กลับ
มีความโปร่งใสน้อยลงและตรวจสอบได้ยากขึ้น
4) GI หรือการดำเนินการทางธุรกิจต้องเกี่ยวข้องกับการทุจริตมากเพียงใด
คำตอบคือ คะแนนลดลงถึง3คะแนน ลดลงจาก 35 คะแนนในปี 2566 เป็น 32 คะแนน
แสดงให้เห็นถึงการประกอบธุรกิจมีส่วนร่วมหรือต้องเผชิญกับปัญหาการทุจริตที่มากขึ้น
ดัชนีทุจริตประเทศไทย ยังไปไม่ถึงไหน
ที่เคยโม้เคยฝันว่าไทยจะต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่น
ให้ได้ความโปร่งใสกันถึง 50 คะแนนในไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ดูจะเป็นได้แค่คำพูดปลอบใจไปวันๆ
หรือเป็นเพียงแค่ฝันกลางวัน ฝันลมๆแล้งๆ แน่นอน
เพราะตราบใดที่รัฐบาลยังไม่จริงจังแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐและภาคเอกชน ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง กระบวนการยุติธรรมขาดความศักดิ์สิทธิ ยังปล่อยช่องว่างให้ศรีธนนชัยทางกฎหมายทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม
หรือปล่อยปละละเลย ในการจัดการปัญหาทุจริตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ท้องถิ่น ส่วนภูมิภาคและรัฐบาลส่วนกลาง การเรียกรับ-จ่ายสินบนส่งส่วย การฟอกเงิน
แก้งค์คอลเซนเตอร์ เว้ปพนันออนไลน์ บ่อนเถื่อน ยาเสพติด และขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ทุนเทา ที่แผ่อิทธิพลเกลื่อนกลาดทั่วประเทศไทย แล้ว
อย่าหวังที่จะเดินหน้าประเทศให้โปร่งใสไร้ทุจริตได้
ยิ่งรัฐบาลและรัฐสภาไทย บอกประชาชนว่า จะอนุญาตให้มีคาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ภายใต้หน้ากากเอนเทอร์เทนเมนท์คอมเพลกซ์ โดยมีการควบคุมตามกฎหมายที่เคร่งครัดมีประสิทธิภาพ จะสร้างรายได้ให้กับประเทศมากมายมหาศาล ?
ดูดัชนีความโปร่งใสปีนี้แล้ว พี่น้องประชาชนไทยเชื่อมั้ยว่า รัฐบาลไทยในปัจจุบันจะทำได้แบบสิงคโปร์จริงๆ หรือ
ประเมินจากเวลานี้ ถ้ารัฐบาลไทยอนุญาตให้ทำคาสิโนและพนันออนไลน์ได้สำเร็จ ภายใต้การไร้ความโปร่งใสปลอดจากทุจริตคอรัปชั่นแบะไร้มาตรการบังคับใช้กฎหมายได้เทียบเท่า สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนามแล้ว ไทย คงจะต้องมีดัชนีถดถอยลงไปอีกอาจแพ้ลาว ฟิลิปปินส์ที่มีคะแนนใกล้ไทยห่างแค่1คะแนน หรือถ้าปล่อยให้ไร้การควบคุมแบบกัมพูชา เมียนม่าร์ ไม่กี่ปีข้างหน้าก็อาจถอยไปอยู่คะแนนรั้งท้ายแบบเดียวกันก็เป็นไปได้ครับ
#เลิกเถอะอย่าดันทุรัง
#ไม่เอาคาสิโน
สมชาย แสวงการ
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
วันมาฆะบูชา 12 กพ 2568
อ้างอิง
#ทุจริตคอรัปชั่น
ดัชนีรับรู้ทุจริตปี 67
ไทยได้คะแนนลดลงอีกเหลือ แค่34 คะแนน
ต่ำสุดในรอบ 12 ปี
รั้งท้าย อันดับ 5 ของอาเซียน
ตามห่างจากอันดับ3ของโลก สิงคโปร์ 84คะแนน
ดัชนีคอร์รัปชันไทยทรุด นักลงทุนมองการแข่งขันแย่ลง
...ไทยได้ 34/100 คะแนน (อันดับ 107 ของโลก) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 43 คะแนน คะแนนลดลง 1 จุด แต่กลับอันดับดีขึ้น เพราะสถานการณ์คอร์รัปชันทั่วโลกแย่ลง!...
แหล่งที่มา: สำนักข่าวอิศรา
แหล่งที่มา: ThaiPublica
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ได้เผยแพร่ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริตหรือคอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index ห…
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ได้เผยแพร่ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริตหรือคอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index ห…
แหล่งที่มา: ThaiPublica
¥¥¥¥¥¥¥¥
คนไทย ใกล้สิ้นเนื้อประดาตัว /
ใกล้สิ้นชาติ ?
ใครเขียน ไม่รู้คะ เพื่อนส่งมาให้ อ่าน เลยส่งต่อ คะ พิจารณาดูนะคะ
คนไทยกำลังใกล้จะสิ้นชาติ โดยที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ตัว
เนื้อแท้การเมืองไทยคือธุรกิจ ลงทุนเข้ามาถอนทุน ใครมีอำนาจก็ตั้งหน้าตั้งตาหาช่องทางโกงกินถอนทุนคืน สลับหน้ากันเข้ามาปล้นชาติปล้นแผ่นดิน ปล้นปชช.
และเมื่อฝูงปลวกรุมกัดแทะนานเข้าๆ บ้านหลังนี้ก็สั่นคลอนไปทั้งหลัง
แผ่นดินไทย 1 ใน 3 หรือราว 100 ล้านไร่ ตกเป็นของต่างชาติไปแล้วผ่านนิติกรรมอำพราง และโดยเฉพาะ จว.ท่องเที่ยว และนี่คือข้อมูลเมื่อปี 2555 จากผู้ตรวจการแผ่นดิน แล้ววันนี้จะขนาดไหน ?
และยังมีแนวโน้มว่าจะเสียดินแดนให้เขมรอีกนับล้านไร่ตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร จากการทรยศชาติของบรรดานักการเมืองชั่ว ที่ไปทำ MOU รองรับแผนที่ของเขมร
นอกจากนั้นที่ดินจำนวนมากก็ตกเป็นของบรรดาเจ้าสัว, นายทุนและนักการเมืองแค่ไม่กี่ตระกูล
แล้วไหนจะให้ต่างชาติเช่าที่ได้ 99 ปี
จะให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ 1 ไร่ รวม 1 ล้านไร่
ที่อนุมัติไปแล้วคือให้นักลงทุนต่างชาติซื้อที่ดินได้ 35 ไร่ได้ทั่วประเทศ
จีนใหม่ก็รุกหนัก กินรวบเศรษฐกิจ มาทำธุรกิจแข่งกับคนไทย ทั้งค้าขาย, การท่องเที่ยว, ซื้ออหังสาฯ, ซื้อที่ดิน, ทำเกษตร, ซื้อมหาวิทยาลัย, ซื้อโรงพยาบาล ฯลฯ
ต่างด้าวนานาชาติผิดกฏหมายมากมายเต็มเมือง หลายจว.แทบจะถูกยึด จนกลายเป็นประเทศนานาชาติ ทำมาหากินอิสระเสรี
พวกที่สีเทาก็มาก ทั้งจีนเทา ฝรั่งเทา แขกเทา
ความมั่นคงทางด้านอาหาร, พลังงาน ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ถูกควบคุมโดยพวกนายทุนโลภมากหน้าเลือด คอยสูบเลือดเนื้อปชช.
พื้นที่เกษตรกรรมจำนวนมากถูกแทนที่ด้วยอุตสากรรมสกปรกที่ร่ำรวยแต่นายทุน ชาวเกษตรกรกรกระดูกสันหลังของชาติก็ตกเป็นเบี้ยล่างของนายทุนปุ๋ย ยา อาหารสัตว์ และราคาผลผลิต
ป่าไม้ถูกทำลายจนแทบหมดประเทศ ส่งผลให้เกิดปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก สร้างความเดือดร้อนให้ปชช.และโดยเฉพาะเกษตรกร
รัฐวิสาหกิจสมบัติของชาติถูกแปรรูปขายแทบไม่เหลือ ถูกผ่องถ่ายไปอยู่ในมือนักการเมืองและพวกพ้อง
การบินไทย และ ธ.กรุงไทย พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจไปแล้ว
ปตท.ก็ใกล้จะเหลือแต่ชื่อ ตับ ไต ไส้ พุง ถูกล้วงออกไปกิน
บ่อน้ำมัน ทองคำ แร่ธาตุนานับชนิดใต้แผ่นดินไทยมูลค่ามากมายมหาศาล ชนิดประเมินค่าไม่ได้ ก็ถูกพวกนักการเมืองปล้นเอาไปแบ่งกันกินผ่านสัญญาสัมปทานขายชาติ
โกง กู้ สร้างหนี้ คือสูตรสำเร็จ ใครเข้ามาเป็นโกง สร้างหนี้สินให้ประเทศล้นพ้น วันใดไม่มีเงินใช้หนี้ก็คว่ำ
ยิ่งระยะหลังๆค่าตัว ส.ส.แพงขึ้น พรรคการเมืองใช้เงินสู้เลือกตั้งกันมากขึ้น ใครมีอำนาจจึงเอาคืนหนักๆ โกงวันนี้ ใช้หนี้ไปถึงชาติหน้า
โกงกันจนระบบเศรษฐกิจพัง สังคมพัง ความมั่นคงของชาติในทุกๆด้านพัง จิ้มตรงไหนก็เน่า
นิติรัฐพัง กระบวนการยุติธรรมพัง กลายเป็นรัฐล้มเหลว
ปชช.ทำมาหากินยากขึ้นทุกวันๆ คนจนเต็มประเทศ ต้องไปลงทะเบียนคนจนถึง 20 ล้านคน
บริษัทห้างร้านเจ๊งกันไปเป็นแถบๆ ปิดตัวปีละเป็นพันแห่ง คนตกงานกันระนาว
สังคมเสื่อมหนัก เพราะนักการเมืองซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ตำรวจก็ต้องเอาคืน รีดส่วยจากธุรกิจสีเทา อบายมุขผิดกฎหมายทำลายสังคมจึงเกลื่อนเมือง
คนติดยา ติดหนี้พนัน ปล้นจี้ ชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ การก่ออาชญากรรม กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ปชช.ผู้บริสุทธิ์ไร้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ยาเสพติดมีแทบทุกซอกซอยทุกหมู่บ้าน จนกลายเป็นสินค้าส่งออก
เยาวชนติดยากันเต็มประเทศ คนเพี๊ยนยาไล่ฆ่าคน ฆ่าได้แม้แต่พ่อแม่ตัวเอง
และยังค้าคดีความ ทำผิดให้เป็นถูก คุกไทยจึงมีไว้ขังแค่คนจน
ผู้คนไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะมีเงินก็วิ่งเต้นได้ คนฆ่ากันตายเป็นว่าเล่น จนใกล้จะเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนเข้าไปทุกที
ผู้คนขาดสำนึกผิดชอบชั่วดี ไม่มีความละอายใจ เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ทำมาหากินไม่สนผิดชอบ ใครมือยาวสาวได้สาวเอา จนวันนี้โกงกันทั้งบ้าน ทั้งเมือง ทั้งแผ่นดิน โกงทุกสาขาอาชีพ ใครมีโอกาสเป็นโกง
ขนาดพระยังเสื่อม กินเหล้า เมายา ร่วมประเวณี ยึดติดทรัพย์สินเงินทอง บางวัดฉี่ม่วงทั้งวัด
 
ฯลฯ
ถ้าเปรียบประเทศไทยเป็นร่างการมนุษย์ ก็ไม่ต่างจากคนป่วยหนักร่อแร่นอนรอวันตาย โรคร้ายลุกลามไปทั้งตัว ต้องได้รับการผ่าตัดครั้งใหญ่
แต่ถ้ายังไปลงคะแนนเลือกตัวแทนกันแบบเดิมๆ มันก็รักษาไม่ได้ มีแต่จะเร่งให้ตายเร็ว เพราะการเมืองไทยเป็นแค่ธุรกิจ และการโกงกินของรัฐบาลใหม่ๆ ก็เป็นการสร้างปัญหาให้ชาติมากยิ่งขึ้น
เมื่อทางข้างหน้าเป็นเหว เราจะเดินไปตกเหวตายแบบโง่ๆ หรือเปลี่ยนเส้นทาง ไปเสี่ยงเอาดาบหน้า
ก็ลองใช้สติปัญญาไตร่ตรองกันดู
โฆษณา